ปัจจุบันกระแสความนิยมของการทำวิดีโอสั้น ทำให้บริษัทชั้นนำหันมาสนใจและพัฒนาเป็นของตัวเอง ซึ่งหลังจากที่ทางฝั่ง Meta ได้ปล่อย ฟีเจอร์ Reels ออกมาให้ใช้งานกันทั้งบนแพลตฟอร์ม Instagram และ Facebook ก็ถือว่าค่อนข้างที่จะ “ประสบความสำเร็จ” ไม่น้อยเลย ในบทความนี้เรามาทำความรู้จักกับ reels กันว่าคืออะไร มาดูไปพร้อมๆกันเลย
ยอดวิว reels คืออะไร
Reels เป็นเครื่องมือในแอป Instagram ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและแชร์วิดีโอแบบแฟลชโปรแกรม สามารถมีความยาวได้ 30 วินาที ซึ่งสามารถเพิ่มเพลง ตัวอักษร และอื่นๆ พร้อมกับวิดีโอได้ ยอดวิว Reels คือจำนวนครั้งที่เปิดดูวิดีโอนั้นๆ
- จากข้อมูลที่ทาง Meta บริษัทผู้เป็นเจ้าของ และพัฒนาทั้ง Facebook และ Instagramได้เปิดเผยออกมา ก็ระบุว่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาเกือบครึ่งในการเล่น Facebook และ Instagam ไปกับการรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ
- อีกทั้งผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีการรับชมและสร้างคลิป Reels สูงกว่าทวีปอื่นอย่างเห็นได้ชัด
- จึงไม่แปลกเลยที่ อินฟลูเอนเซอร์ ชื่อดังและแบรนด์สินค้าต่าง ๆ จะหันมาโปรโมตและทำคอนเทนต์ Reels กันมากขึ้นตามความนิยมของผู้ใช้
- ทาง Meta ยังได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทกำลังเตรียมพร้อมจะเพิ่มการ โฆษณา เข้ามาบน Reels ให้เหล่าบรรดา Influencer สามารถสร้างรายได้ผ่านช่องทางนี้กันได้แล้ว
ยอดวิว reels นับยังไง
ยอดวิว Reels จะนับเป็นจำนวนครั้งที่วิดีโอเปิดดู ซึ่งอาจจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น จำนวนครั้งที่เปิดดูแบบส่วนหนึ่ง จำนวนครั้งที่เปิดดูแบบเต็ม และจำนวนครั้งที่เปิดดูแบบปิดเครื่องหรือปิดหน้าจอ จะแสดงไว้บนหน้าวิดีโอ โดยคุณสามารถเข้าไปดูจำนวนครั้งที่เปิดดูได้ในแต่ละ Reels ของคุณ
ตารางตัวอย่างการนับยอดวิว
การนับยอดวิวในแต่ละแพลตฟอร์ม | |
วีดิโอที่อัปโหลดลงโปรไฟล์ส่วนตัวหรือตามเพจ >>> นับเมื่อเล่นไปแล้ว 3 วินาที วีดิโอที่อัปเป็นสตอรี่ >>> นับเป็น 1 ยอดวิวทันทีเมื่อกดเปิดดู | |
วีดิโอที่อัปโหลดหรือ IGTV >>> นับเมื่อเล่นไปแล้ว 3 วินาที Story IG >>> นับเป็น 1 ยอดวิวทันทีเมื่อกดเปิดดู REELS IG >>> นับเป็น 1 ยอดวิวทันทีเมื่อกดเปิดดู | |
Tiktok | วีดิโอที่อัปโหลด >>> นับเป็น 1 ยอดวิวทันทีเมื่อกดเปิดดู เพิ่มเติม >>> หากดูวีดิโอเดิมซ้ำจะนับวิวเพิ่มตามจำนวนรอบที่ดู |
ยอดวิว reels ได้เงินไหม
การได้เงินจากการใช้ Reels ขึ้นอยู่กับแต่ละบัญชีและความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ซึ่งอาจได้รับรายได้จากการโฆษณา การแนะนำผลิตภัณฑ์ หรือการเข้าร่วมโปรโมทโฆษณา เช่นเดียวกับในแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกด้วย
- Meta อัปเดตฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Reels บน Facebook และ Instagram โดยจะมีการเพิ่มแท็บสติ๊กเกอร์ Add Yours ที่เป็นการเพิ่มสติ๊กเกอร์จาก Stories ไปยัง Reels โดยตรง
- ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รายอื่น ๆ สามารถมีส่วนร่วมในการสร้าง Reels ขึ้นมาเองได้ง่ายขึ้น
- อีกทั้งยังจะช่วยให้เรียกยอดการเข้าถึงจากโพสต์ได้ง่ายขึ้น เพราะผู้ใช้รายอื่นที่พบเห็น Reels ของเราก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ด้วยเช่นกัน
- นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Auto-created ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนคลิป Stories ที่อยู่ในคลังให้กลายเป็น Reels ได้โดยอัตโนมัติง่าย ๆ เพียงแค่กดแท็บ Create from Your Story Archive ที่อยู่ในหน้าคลัง Stories ของคุณ
- สิ่งสำคัญ ที่ส่งผลโดยตรงกับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ก็คือ Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์ Stars ที่จะเป็นการให้ผู้ใช้สามารถโดเนทให้กับครีเอเตอร์ที่ชอบผ่าน Facebook Reels จากการกดดาวด้วย
- ซึ่งนี่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ที่สำคัญของอินฟลูเอนเซอร์หรือเหล่าครีเอเตอร์ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นนั้น ไม่สามารถคั่นด้วยโฆษณาเหมือนวิดีโอยาว ๆได้
- ปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้จาก Facebook Reels ผ่านระบบที่ชื่อว่า Reels bonus program ซึ่งเป็นระบบที่จะจ่ายเงินโบนัสให้กับครีเอเตอร์เป็นเงินสูงสุด 35,000 เหรียญ
- โดยจะอ้างอิงจากยอดวิว ซึ่งทาง Meta นั้นมีทุนโบนัสให้กับเหล่าครีเอเตอร์มากถึง 1 พันล้านเหรียญ และมีแผนจะขยายการใช้งาน Reels Bonus Program ไปในประเทศอื่น ๆ อีกนอกจากสหรัฐฯ อีกด้วย
ดูยอดวิว reel ยังไง
คุณสามารถดูยอดวิว Reels ได้จากแอป Instagram ในเครื่องของคุณ ในการดูยอดวิว Reels ของตัวเอง คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- เปิดแอป Instagram บนโทรศัพท์ของคุณ
- เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของคุณ
- คลิกที่ Reels ที่ต้องการดูยอดวิว ซึ่งจะปรากฏในหน้าวิดีโอ
- จากนั้น คุณจะเห็นจำนวนครั้งที่วิดีโอได้เปิดดูแล้วในด้านล่างของวิดีโอ
หมายเหตุ: ถ้าคุณไม่ได้เปิดแชร์สิทธิ์ คนอื่นอาจไม่สามารถเปิดดู Reels ของคุณได้
วิธีเพิ่มยอดวิว reels ทำอย่างไร
การเพิ่มยอดวิว reels มีวิธีดังนี้
อย่าสองใจหรือหลายใจทำหลายๆอย่าง
- แพลตฟอร์มที่นำร่องให้คอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นติดเทรนด์ขึ้นมาได้ก็คือ TikTok นี่แหละ จนทำให้ Instagram และโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องแอบทำตาม
- ผู้ใช้งานหลายคนก็ตัดสินใจเอาคอนเทนต์วิดีโอของตัวเองจาก TikTok มาใช้ซ้ำใน Instagram Reels ซึ่งเราบอกเลยว่า ไม่ควร เพราะ Instagram มีระบบ AI ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากทีเดียว
- สามารถตรวจจับลายน้ำโลโก้ของ TikTok หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้ Reach ของวิดีโอที่เราใช้ซ้ำนั้นต่ำลง
- ฉะนั้นถ้าอยากจะใช้วิดีโอเดียวกันใน 2 แพลตฟอร์ม เราแนะนำให้นำไฟล์วิดีโอต้นฉบับมาตัดต่อใหม่ในแต่ละแอปพลิเคชันเลยจะดีกว่า
วีดิโอยิ่งสั้นยิ่งดี
- Instagram Reels มีความยาวตอนเปิดตัวใหม่ ๆ อยู่ที่ไม่เกิน 15 วินาที จากนั้นไม่นานก็ปรับมาที่ 30 วินาทีภายหลัง
- ในปัจจุบัน Instagram Reels เพิ่มความยาววิดีโอสูงสุดถึง 90 วินาที เพื่อให้ผู้ใช้งานนำเสนอคอนเทนต์กันได้ยาว ๆ
- อย่างไรก็ตาม Reels ที่ดีก็ควรกระชับและสั้นเข้าไว้ เพราะ Attention Span ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8 วิเท่านั้น
- ในบางครั้งการที่ Reels สั้นมาก ๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้งานจะดูซ้ำใหม่อีกครั้งโดยอัตโนมัติ
- หากตัวคอนเทนต์ของเราต้องใช้เวลานำเสนอมากหน่อย ก็ควรตัดต่อให้ Reels นั้น ๆ ดึงดูดความสนใจได้ภายใน 10 วินาทีแรกนั่นเอง
TRENDING
- ถือว่าเป็นเคล็ดลับข้อสำคัญที่สุดในการเพิ่มยอดวิวให้ Instagram Reels เลยก็ว่าได้ เพราะแม้ผู้ใช้งานจะถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพที่ดี ตัดต่อได้สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากใช้ เสียง หรือเพลง ที่ไม่ติดเทรนด์ reels นั้นก็อาจจะไม่ได้รับความสนใจได้นะ
- เสียงหรือเพลงที่ว่าจะต้องเป็น Trending Song ในช่วงเวลานั้น ๆ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสที่ Instagram จะแนะนำและเพิ่มการมองเห็นให้ Reels ของเราใน Feed หลักมากขึ้น
- วิธีการดู Trending Song วิธีง่าย ๆ คือ การไถวิดีโอ ดู Instagram Reels ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากเราเริ่มเห็นเพลง หรือเสียง ไหนถูกใช้ใน Reels บ่อย ๆ ให้ลองกดเข้าไปที่ไอคอนรูปตัวโน้ตเพื่อดูดีเทลของเพลงนั้น ๆ
- เมื่อกดเข้าไปแล้ว เราจะเจอกับชื่อเพลง ชื่อศิลปิน และตัวหนังสือเล็ก ๆ สีเทาข้างใต้ที่เขียนจำนวน Reels ที่ใช้เพลงนั้น ๆ ประกอบอยู่ ซึ่งอาจจะมีตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย ไปจนถึงเพลงยอดฮิตที่มีหลักแสน
รัก การ อ่าน
- มีสถิติที่ระบุว่า Facebook มียอดวิววิดีโอรวม ๆ กันทั้งแพลตฟอร์มสูงถึง 4 พันล้านวิวต่อวัน นอกจากนี้กว่า 85% ของยอดวิวนั้นเป็นการดูวิดีโอแบบไม่มีเสียง หรือเน้นการอ่านข้อความบนวิดีโอมากกว่า
- เช่นเดียวกันกับ Instagram Reels แม้ว่าเราควรโฟกัสกับเสียงเพลงที่ใช้และการตัดต่อ การใส่ข้อความบนวิดีโอก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยดึงความสนใจจากคนดูได้เหมือนกัน
- ที่จริงแล้ว Instagram มีฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม Closed Captions ที่ดึงเสียงจากวิดีโอและถอดออกมาเป็นข้อความเพื่อใส่เข้าไปในวิดีโอได้อัตโนมัติ
- โดยอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย คือการใส่ข้อความลงไปในวิดีโอด้วยตัวเอง เช่น การใส่เนื้อเพลงจากเพลงที่ใช้ หรือแคปชั่นที่เกี่ยวกับเนื้อหาของวิดีโอเพื่อสื่อสารให้คนดูเข้าใจมากขึ้นก็ได้
Post Post
- หลังโพสต์ Reels ของเราไปแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดขั้นตอนการสร้างคอนเทนต์ ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามมา เช่น เราควรรีบแชร์ Reels นั้น ๆ ลง Instagram Stories ของตัวเองต่อทันทีเพื่อเพิ่มโอกาสที่ Followers จะเห็นวิดีโอของเรามากขึ้น และกดเข้าไปดูตามทีหลัง
- หาก Reels ของเราไม่ปรากฏใน Feed เพียงพอ และหลังโพสต์ หลังแชร์แล้ว ก็อย่าเพิ่งออกจากแอปพลิเคชันเลยทันที ใช้เวลารอตอบ Comment จาก Followers ของเราอีกสักนิด
- ยิ่งเกิด Engagement ใต้โพสต์นั้น ๆ เท่าไร ก็มีความเป็นไปได้ที่อัลกอริธึมจะช่วยบูสต์โพสต์ของเราเท่านั้น
วิธีเพิ่มยอดวิว reels facebook ไม่ขึ้นทำยังไง
- Meta ประกาศขยายฟีเจอร์Reelsบน Facebook ในกว่า 150 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เพื่อนำประสบการณ์วิดีโอสั้นยอดนิยมและเครื่องมือต่าง ๆ ของ Instagram มาใช้กับ Facebook
- การขยายบริการReelsนี้ จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์และแสดงตัวตนได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถขยายชุมชนของตนและเข้าถึงผู้ชมใหม่ ๆ ได้
- ปัจจุบันผู้คนรับชมวิดีโอเกือบครึ่งหนึ่งของเวลาที่ใช้งานบน Facebook และ Instagram โดยReelsได้กลายมาเป็นฟีเจอร์ที่เติบโตเร็วที่สุด
- Meta จึงมุ่งเน้นการทำให้Reelsเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับครีเอเตอร์ในการค้นหา เชื่อมต่อกับผู้ชม และสร้างรายได้ รวมทั้งทำให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาและแบ่งปันเนื้อหาความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและสนุกสนานด้วย
การอัปเดตฟีเจอร์เพื่อช่วยให้การสร้างสรรค์และค้นพบคลิป Reels ในพื้นที่ใหม่ ๆ
Reelsบนหน้าฟีด
- ค้นพบReelsตามความสนใจและตามความนิยมได้ที่ด้านบนของหน้าฟีด ควบคู่ไปกับ Stories และ Rooms
- ในเซกชั่นใหม่บนหน้าฟีด โดย Facebook จะเพิ่มป้ายReelsแบบใหม่ที่ด้านบนของหน้าฟีดเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างคลิปและรับชมReelsได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่คลิก
Reelsในกลุ่ม Facebook
- สร้างและแชร์Reelsในกลุ่มเพื่อแสดงตัวตนและมีส่วนร่วมกับชุมชนในรูปแบบที่สนุกสนานและเป็นรูปธรรม
- โดยแอดมินจะสามารถตั้งค่ากลุ่มแบบ Single Theme ที่ช่วยเตือนให้สมาชิกกดแชร์Reelsได้ด้วย
Reelsใน Watch
- ผู้ใช้งานจะสามารถรับชมReelsในแท็บ Facebook Watch ได้โดยตรง
- Facebook กำลังพัฒนาเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างReelsในแท็บ Watch ได้ด้วย
Reelsใน Stories
- ผู้ใช้งานสามารถแชร์คลิปReelsที่เป็นสาธารณะไปยัง Stories บน Facebook ได้
- ช่วยให้สามารถแบ่งปันReelsที่ชื่นชอบกับเพื่อน ๆ ได้ง่ายขึ้น
- นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างคลิปReelsจาก Stories สาธารณะที่มีอยู่ได้อีกด้วย
ห้าขั้นตอนในการสร้าง Facebook Reels ง่ายๆ
- เปิดแอพ Facebook แล้วแตะป้าย Reels จากนั้นคลิก สร้างคลิป Reels
- เพิ่มวิดีโอไปยังคลิป Reels โดยการแตะปุ่มบันทึกเพื่อเพิ่ม วิดีโอใหม่ หรือแตะไอคอนรูปภาพที่มุมซ้ายล่างเพื่อเพิ่มคลิป วิดีโอหรือรูปภาพ
- เพิ่มเสียง ข้อความ เอ็ฟเฟ็กต์ คําบรรยาย หรือตัวจับเวลาโดย การแตะไอคอนที่ด้านขวามือของหน้าจอของคุณ
- เขียนคำอธิบายแล้วเลือกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้โปรดทราบว่าคลิป Reels จะเผยแพร่เป็นสาธารณะตามค่าเริ่มต้น
- แตะ “แชร์คลิป Reels” เพื่อเผยแพร่เลย เท่านี้ก็เรียบร้อย
ปั่นยอดวิวในเฟส ทำยังไง
ไม่มีวิธีที่แน่นอนเพราะเป็นการกระทำที่แหกกฎของทางโซเซียลมีเดียออกไปเราจึงนำวิธีที่จะเพิ่มยอดวิวในเฟสมาให้ดูกันแทนไปดูกันเลยจ้า
เพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอในตัวของ Meta สำหรับผู้ใช้งาน
- Creator Studio มีตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพในตัวที่สามารถช่วยให้คุณได้รับการดูเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าผู้ชมของคุณจะดูเนื้อหาวิดีโอจากที่ใด
- โดยไปที่แท็บ “เพิ่มประสิทธิภาพ” ของกระบวนการอัพโหลดวิดีโอของสตูดิโอ ทำเครื่องหมายที่ช่อง Video Optimizations และปรับการตั้งค่า เปิดตัวเลือกอัตโนมัติเพื่อให้ Meta เพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอของคุณ
- โดยวิดีโอของคุณจะแสดงตัวอย่างอัจฉริยะซึ่งแสดงคลิปที่น่าสนใจของวิดีโอของคุณเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามา และปรับให้เหมาะสมสำหรับการดูวิดีโอเพื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก
ภาพปกต้องน่าสนใจและดึงดูด
- กุญแจสำคัญในการรับชมวิดีโอมากขึ้นคือการโน้มน้าวผู้ใช้ Facebook ให้กด Play สิ่งที่ให้น่าสนใจที่สุดก็คือภาพปกที่สะดุดตาเป็นสิ่งสำคัญ
- เลือกภาพปกที่สะท้อนเนื้อหาของวิดีโอได้ชัดเจน เลือกภาพที่กระตุ้นความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมด้วยการแสดงอารมณ์ เช่น ความประหลาดใจ ความยินดี หรือความประหลาดใจใช้สีและเลย์เอาต์ที่โดดเด่น
- เพิ่มโอกาสที่วิดีโอของคุณจะเป็นที่น่าสนใจ เมื่อคุณอัพโหลดวิดีโอ Facebook ผ่าน Creator Studio ให้ลองอัพโหลดภาพนิ่งแทน คุณจะสามารถใช้ภาพขนาดปกที่กำหนดเองและดุน่าสนใจมากกว่า
ใช้แคปชั่นที่น่าสนใจดึงดูดผู้ชม
- ดึงดูดผู้ชมด้วยคำอธิบายภาพที่น่าสนใจซึ่งดึงดูดผู้ชมและทำให้พวกเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม
- ตั้งคำถามให้ผู้ชมได้คิดตาม เช่น ตั้งคำถามด้วยองค์ประกอบส่วนบุคคล เช่น “คุณจะทำอย่างไร” หรือ “คุณคิดว่าสิ่งนี้จะได้ผลหรือไม่”
- การตั้งแคปชั่นที่น่าสนใจ เช่น เพราะเหตุใดทีมนี้ชนะการแข่งขัน 3 ปีติดต่อกัน คุณจะค้นพบวิธีประหยัดเวลา 30 นาทีในแต่ละวัน หรือแคปชั่นที่ทำให้ผู้คนสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนท้าย เพื่อช่วยให้ผู้ชมตัดสินใจว่าควรค่าแก่การรับชมหรือไม่
เพิ่มคำบรรยายสำหรับการรับชมและการเข้าถึงวิดีโอที่ไม่มีเสียง
- หากวิดีโอ Facebook ของคุณมีบทสนทนาหรือเสียงพากย์ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าผู้ชมส่วนใหญ่ไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูด
- มีการวิจัยออกมาว่าคนส่วนใหญ่ดูเนื้อหาวิดีโอบน Facebook โดยไม่มีเสียง คุณสามารถใช้เครื่องมือเนทีฟอย่างสตูดิโอ เช่น ครีเอเตอร์สตูดิโอ ฝังคำบรรยายในวิดีโอของคุณ โดยแสดงเป็นข้อความซ้อนทับ
- คุณยังสามารถอัพโหลดคำบรรยายภาพเมื่อเผยแพร่ไปยัง Facebook เพื่อให้ผู้ดูสามารถเปิดหรือปิดคำบรรยายได้
ใช้คีย์เวิร์ดเป็นแฮชแท็กเพื่อปรับปรุงการค้นหา
- การดูวิดีโอส่วนใหญ่จะมาจากผู้ติดตามหรือผู้ที่เห็นวิดีโอของคุณแชร์ในฟีด แต่เมื่อคุณต้องการเพิ่มจำนวนการดูวิดีโอให้สูงสุด
- สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มโอกาสที่วิดีโอของคุณจะปรากฏในการค้นหาบน Facebook ด้วย
- ในสตูดิโอครีเอเตอร์ คุณสามารถเพิ่มแฮชแท็กเพื่อบอกอัลกอริทึมว่าเมื่อใดที่จะแสดงเนื้อหาของคุณในการค้นหา โดยพิมพ์คำสำคัญลงในแถบค้นหาแท็ก จากนั้นเลือกตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถเพิ่มได้มากถึง 8 แฮชแท็ก
แท็กผู้สนับสนุนหรือร่วมงานกับครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียง
- หากต้องการเพิ่มการรับชมเนื้อหาของคุณมากขึ้น อาจจะมีการร่วมงานกับแบรนด์หรือการจ้างครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง
- คุณสามารถผลิตวิดีโอร่วมกับองค์กรอื่นๆ หรือทำงานร่วมกับผู้สร้างเพื่อสร้างเนื้อหาวิดีโอ
- จากนั้นแท็กพวกเขาในโพสต์วิดีโอของคุณ หรือท้ายที่สุดก็คือจ่ายเงินเพื่อโฆษณาของคุณ เพราะการดูวิดีโอแบบออร์แกนิกนั้น อาจจะมียอดเพียงแค่ 5%
กำหนดเวลา Facebook Premieres เพื่อสร้างความสนใจในวิดีโอ
- เมื่อคุณลงทุนในการผลิตวิดีโอคุณภาพสูง คุณต้องการให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณสร้างความน่าสนใจได้พอสมควร
- การกำหนดเวลา Facebook Premieres เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้ผู้คนตื่นเต้นกับเนื้อหาของคุณเพื่อรับเตรียมตัวรอรับชม
- โดย Facebook Premieres ยังให้เพจของคุณส่งการแจ้งเตือน ซึ่งสามารถเพิ่มยอดวิวได้ เมื่อได้รับการแจ้งเตือนทุกคนก็จะสามารถคลิกปุ่มดูเลยเพื่อดูวิดีโอแบบเต็มได้
เพิ่มการมองเห็นวิดีโอด้วยโฆษณาบน Facebook
- กลยุทธ์แบบออร์แกนิกสามารถช่วยให้คุณได้รับการดูวิดีโอเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
- แต่ถ้าคุณมีเป้าหมายมากเป็นพิเศษ งบประมาณโฆษณาก็อาจจำเป็น เพียงแค่คุณสร้างแคมเปญบน Facebook แบบง่ายๆ ก็สามารถเพื่อเพิ่มจำนวนการดูได้
- ใน Ads Manager ให้เลือกวัตถุประสงค์ของการมีส่วนร่วม และ เลือก On Your Ad เป็นตำแหน่ง Conversion และ Video Views เป็นประเภทการมีส่วนร่วมให้เลือก ใช้โพสต์ที่มีอยู่ แล้วเลือกโพสต์วิดีโอของคุณ
- ตรวจสอบอีกครั้งว่าคุณได้เพิ่มคำอธิบายภาพและเลือกปุ่ม CTA ที่เป็นตัวเลือกก่อนเผยแพร่แคมเปญของคุณ
แชร์วิดีโอฟีดใน Facebook Stories
- การเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอเป็นสตอรี่บน Facebook จะไม่ส่งผลต่อจำนวนการดู แต่ถ้าคุณแชร์โพสต์ฟีดวิดีโอไปยังสตอรี่บน Facebook ของเพจ
- คุณสามารถเพิ่มจำนวนการดูวิดีโอได้อย่างแน่นอน ทุกครั้งที่คุณแชร์เนื้อหาดั้งเดิมในสตอรี่บน Facebook แพลตฟอร์มจะรวมลิงก์ไปยังโพสต์ต้นฉบับของคุณโดยอัตโนมัติ
- เนื่องจากเรื่องราวจะแสดงที่ด้านบนสุดของฟีด ตำแหน่งนี้จึงให้โอกาสเพิ่มเติมแก่คุณในการได้รับการดูและการมีส่วนร่วม หรืออาจจะสร้างรีลโพสต์คลิปความยาว 15, 30 หรือ 60 วินาที หรืออัพโหลดวิดีโอแบบสั้นที่คุณได้แก้ไขแล้ว
คลิป Reels ที่สร้างบน Facebook และ Instagram จะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ชื่อบน Instagram
- ● คลิป Reels จาก Instagram จะมีชื่อผู้ใช้ Instagram ของครีเอเตอร์ แทนที่จะเป็นชื่อบน Facebook และคุณจะเห็น Instagram ถัดจากชื่อผู้ใช้ของบุคคลเหล่านั้น
ความคิดเห็น
- เมื่อคุณรับชมคลิป Reels ที่สร้างบน Facebook คุณจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้
- หากคุณรับชมคลิป Reels ที่สร้างบน Instagram คุณสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยใช้แอพ Instagram หรือบนเว็บ Instagram.com โดยใช้บัญชี Instagram ของคุณเท่านั้น
การกดถูกใจ
- คุณสามารถดูจำนวนผู้คนที่ถูกใจคลิป Reels ของคุณได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูได้ด้วยว่าใครบน Facebook ที่กดถูกใจคลิป Reels
- แต่หากคลิป Reels สร้างบน Instagram คุณจะไม่สามารถดูได้ว่าใครบน Instagram ที่กดถูกใจบ้าง
- คุณสามารถดูผู้ที่กดถูกใจคลิป Reels บน Instagram ได้ในแอพ Instagram หรือบน Instagram.com เท่านั้น
การเล่น
- หากคุณรับชมคลิป Reels ที่สร้างบน Instagram คุณสามารถดูจำนวนครั้งที่มีการเล่นคลิป Reels ได้
- การเล่นคือเซสชั่นวิดีโอที่มีการเล่น 1 มิลลิวินาทีขึ้นไปโดยไม่รวมการเล่นซ้ำ ระบบจะนับการเล่นจากทั้ง Facebook และ Instagram
- หากคุณรับชมคลิป Reels ทั้งบน Facebook และ Instagram ระบบจะนับการรับชมทั้งสองครั้ง คลิป Reels ส่วนใหญ่ที่สร้างบน Facebook จะแสดงจำนวนครั้งที่เล่นเช่นเดียวกัน
เพจครีเอเตอร์
- เมื่อคุณรับชมคลิป Reels ที่สร้างบน Facebook คุณสามารถดูคลิป Reels อื่นๆ ที่ครีเอเตอร์สร้างได้
- โดยการแตะที่ชื่อของครีเอเตอร์รายดังกล่าว หากคุณรับชมคลิป Reels ที่สร้างบน Instagram ระบบจะนำคุณไปยังโปรไฟล์ของครีเอเตอร์รายนั้นบน Instagram แทน
เคล็ดลับทำ Facebook Reels เพิ่มยอด Followers
Reels ก็คือ วิดีโอสั้นสุดสร้างสรรค์ที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้บริการทั้งใน Instagram และ Facebook ได้ โดยเราจะเห็นได้เลยว่าเหล่าครีเอเตอร์เพจต่าง ๆ ได้เริ่มโปรโมทคอนเทนต์ในเพจของตัวเองด้วยการทำ Reels มากขึ้น เหตุผลเพราะอะไรไปดูพร้อมกันเลย
Reels ช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามได้จากทั่วโลก
- จะโกอินเตอร์ต้องทำ Reels เพราะสามารถช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามได้จริง โดยเฉพาะเมื่อเราอยากเพิ่มยอดผู้ติดตามจากประเทศอื่นทั่วโลก
- อย่างนักกินชาวญี่ปุ่น gourmetemperor ที่สามารถเพิ่มผู้ติดตามที่ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่น แต่เป็นผู้คนจากทั่วโลกให้มากดติดตามเขาผ่าน Reels
- ส่วน coconutandbliss นักสร้างสรรค์เมนูอาหารหรือว่า Food Creator ชาวออสเตรเลียยังได้ยกให้ Reels เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดผู้ติดตาม
ดูยอด Save & Shares ในการทำเนื้อหา
- จะเพิ่มยอดผู้ติดตามทั้งที เราต้องเสิร์ฟคอนเทนต์ที่พวกเขาชื่นชอบ อย่างครีเอเตอร์ชื่อดัง coconutandbliss ที่ใช้ข้อมูลเชิงลึกเป็นตัวช่วยในการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์
- โดยเธอจะดูตัวเลขบันทึกและแชร์เป็นหลัก หากเห็นตัวเลขมันสูงนั่นหมายความว่ามีคนส่งโพสต์นั้นไปให้เพื่อน ๆ
- หากยอดบันทึกมันสูงนั่นหมายความว่ามีคนเซฟโพสต์นั้นไว้ทำตามภายหลัง
- ยอดกดบันทึกและยอดแชร์เป็นตัวการันตีได้อย่างดีว่าผู้ติดตามชอบหรือสนใจเนื้อหาประเภทนี้ และเราควรจะทำเนื้อหาคล้าย ๆ กันนี้ออกมาบ่อย ๆ
ใส่ Subtitles ดึงผู้คนให้มาติดตาม
- การใส่ Subtitles ก็เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถเพิ่มยอดผู้ติดตามได้
- อย่างคุณ Bradboy ก็ได้ใส่คำบรรยายไว้ใน Reels หรือวิดีโอบน Facebook ของเขาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นทำคลิปวิดีโอ
- โดยใส่ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย เพราะเขาเห็นว่ามีผู้ติดตามหลายคนมาจากสหรัฐอเมริกา เกาหลี ออสเตรเลีย และเยอรมนี
- เพื่อที่จะเพิ่มยอดผู้ติดตามใหม่ ๆ ทั่วโลก การใส่ Subtitle จึงสำคัญมาก
- นอกจากนั้นยังต้องหมั่นยิงคำถาม Q&A ให้ผู้ติดตามเข้ามามีส่วนร่วม รวมทั้งตอบ DM และ Comment ผู้ติดตามด้วย
ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอต้องมาก่อน
- Meta ได้ให้เคล็ดลับในการเพิ่มยอดผู้ติดตามเอาไว้อีกว่า การตั้งเป้าทำ Reels ให้ดังเป็นพลุแตก (Virality) เพียงครั้งเดียวอาจจะพอสร้างกระแสได้อยู่แค่เดือนหรือสองเดือน
- แต่หลังจากนั้นแล้วจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้คนเข้ามาติดตามและยังเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้อยู่เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน และให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง (Consistency)
- ในระดับมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดภาพจำสำหรับตัวแบรนด์ได้ดีในระยะยาว จึงไม่แปลกที่มักมีการพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ว่าการทำ Reels ที่ดีนั้น คือการทำอย่างต่อเนื่อง 5 ครั้งต่อสัปดาห์
ตัดไฮไลท์วิดีโอยาวมาทำ Reels
- เชื่อว่าครีเอเตอร์หลายคนคงทำวิดีโอยาว ๆ ลงใน Facebook ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอตลก วิดีโอ How-To เน้นความบันเทิง
- เราสามารถที่จะเพิ่มยอด Traffic flows ให้กับวิดีโอของเราได้มากขึ้นผ่านการทำ Reels
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้