การใช้ชีวิตในต่างจังหวัด หรือที่หลายๆคนเรียกว่าบ้านนอก ปัจจุบันมีคนมากมายที่ทำงานอยู่ในเมืองอยากจะกลับไปใช้ชีวิตบ้านเกิดที่บ้านนอก แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่บ้านนอกแล้วจะทำอะไรดี ในบทความนี้เราจะมาแนะนำว่าอยู่บ้านนอกขายอะไรดี ขายของตามบ้านนอก ทำอย่างไรเรามาดูไปพร้อมๆกันเลยจ้า
อยู่บ้านนอกขายอะไรดี ขายของตามบ้านนอก ต่างจังหวัดในหมู่บ้านเล็ก ๆ
คุณอาจจะสร้างธุรกิจเล็กๆในภูมิลำเนาของคุณเอง แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าแล้วจะทำอะไร ไม่มีอะไรให้ทำ คนที่มีหน้าบ้านอยู่ในทำเลพลุกพล่าน ใกล้แหล่งชุมชน โรงงาน สถานศึกษา ถือว่าได้เปรียบมาก ในบ้านนอกนั้น สามารถเปลี่ยนหน้าบ้านตัวเองค้าขายสร้างรายได้ทันที และที่สำคัญคือไม่มีค่าเช่า ไม่ต้องเดินทาง แค่หาสินค้าที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่ แค่นี้ก็สร้างรายได้ที่บ้านได้ แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรดีเราไปดูกันเลย
การเปิดร้านของชำ
ของชำได้แก่สินค้าทั่วไป
เช่น
- ผงซักฟอก
- สบู่
- ยาสีฟัน
- อาหารกระป๋อง
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- นมกล่อง
- น้ำอัดลม
- ขนมขบเคี้ยวต่างๆ
- การลงทุนเปิดร้านชำส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนด้วยตัวเอง ไม่ใช่ลักษณะของร้านสะดวกซื้อที่จะมีการวางระบบที่แตกต่างไป
- สินค้าอุปโภคเหล่านี้คือสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต และไม่ต้องกังวลว่าทุกวันนี้มีร้านสะดวกซื้อรอบตัว ร้านของชำใครจะสนใจ เพราะเสน่ห์ของร้านของชำคือร้านค้าประจำหมู่บ้าน
ร้านค้าที่รู้จักคุ้นเคยกับลูกค้า และมีความยืดหยุ่นมากกว่าร้านสะดวกซื้อ เราสามารถใช้จุดแข็งนี้ทำการตลาดให้ขายดียิ่งขึ้นได้
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
- ข้าวเหนียวหมูปิ้ง คือสินค้ายอดฮิตที่เรามักจะคิดถึงอันดับแรกเสมอๆ ลองสำรวจไปตามตรอกซอกซอย หมู่บ้าน แทบทุกแห่งต้องเห็น ร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง
ข้อดีของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
คือ
- ลงทุนน้อย
- สินค้าขายง่าย
- สามารถขายได้ทั้งวัน
- รวมต้นทุนต่าง ๆต่อวันประมาณ 350-400 บาท กำไรต่อวันก็ประมาณ 200-300 บาท
- กำไรจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่า เรามีลูกค้ามาซื้อสินค้ามากน้อยแค่ไหน รวมถึงเราต้องมีกลยุทธ์การขายที่ดี คุณภาพสินค้าที่คุ้มค่ากับราคาที่ลูกค้าจ่าย
ขายแซนด์วิช ขนมปังและเบเกอรี่
- ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแซนด์วิชอย่างเดียว หรือขนมปังอย่างเดียว เราเหมารวมว่าเป็นร้านขายพวกเบเกอรี่ ที่สามารถซื้อพกติดตัวไปรับประทานได้ทุกที่
- แม้หลายคนจะบอกว่ายุ่งยากกับขั้นตอนการทำเบเกอรี่ต่างๆ
แฟรนไชส์น่าสนใจให้เลือกลงทุนได้อย่างหลากหลาย
เช่น
- ครีมสตูดิโอ ที่เตรียมสินค้ามาให้เรียบร้อยแล้ว เป็นแฟรนไชส์ที่ไม่ต้องไปตีแป้ง อบใหม่ได้ทุกจาน และสามารถนำมาตกแต่งเสริฟได้เลย
- ปังอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม ที่มีขนมปังทั้งหมด 12 ไส้พร้อมจำหน่ายเช่น ไส่ไข่เค็มลาวา นมฮอกไกโด มันม่วงฮอกไกโด สังขยาใบเตยหอม ชาไทย นมสด เป็นต้น
- เค้กไข่ไต้หวัน เบสเบค เค้กไข่ไต้หวันสูตรโบราณ มีหลากหลายรสชาติ เช่น มันม่วง , ลาวชีส , ใบเตย , ดับเบิ้ลช็อคโกแลต ออรินัล , ฝอยทอง เป็นต้น
- มารุวาฟเฟิล สินค้าโดดเด่นคือวาฟเฟิลที่มีแป้งวาฟเฟิลสำเร็จรูปให้พร้อมใช้งาน แค่เติมน้ำและน้ำมัน คนให้เข้ากันใช้ได้ทันที
- แบร์ แอนด์ วาฟ แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง ลงทุนน้อย คืนทุนไว ไม่เก็บค่าธรรมเนียม และหักส่วนแบ่งยอดขาย
ร้านสินค้าราคาประหยัด
- ยุคประหยัดแบบนี้สินค้าราคาประหยัดก็ขายดี โดยร้านสินค้าราคา 10 – 20 บาท เกิดขึ้นจำนวนมาก
- ข้อดีของร้านค้าสไตล์นี้คือรวมสินค้าราคาถูกไว้จำนวนมากเช่น เครื่องครัว อุปกรณ์ทำความสะอาด จานชาม ช้อน เครื่องมือช่าง
- ปัจจุบันเราสามารถลงทุนได้โดยเลือกจากแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ เช่น ทัดดาวทุกอย่าง 20 และ นพรัตน์ 20 ซึ่งเป็น 2 แฟรนไชส์ขายสินค้าราคาประหยัดที่มีแพคเกจลงทุนให้เลือกมากมาย สินค้าครบ จบทุกความต้องการ
- สามารถอัพเดทสินค้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ใครที่อาศัยในหมู่บ้านที่เปิดโอกาสให้ค้าขายได้ลองเลือกเปิดร้านสินค้าราคาประหยัดรับรองว่าขายดีและมีลูกค้าทั้งหมู่บ้านแน่นอน
น้ำเต้าหู้/ปาท่องโก๋
- ใครที่มีฝีมือในการทำปาท่องโก๋ ลองมาเปิดร้านขายคู่กับน้ำเต้าหู้ รับรองว่าจะขายดีแน่ ยิ่งถ้ามีทำเลดีๆ มีหน้าบ้านอยู่ใกล้หมู่บ้าน โรงงาน โรงเรียน สถานที่ชุมชน
- สินค้าอย่างน้ำเต้าหู้ ต้นทุนเฉลี่ยถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม ประมาณ 40 บาท น้ำตาลทราย ต้นทุนประมาณ 8 บาท รวมกับต้นทุนทั่วไปเช่นค่าแก๊ส ค่าวัตถุดิบต่างๆ รวมเป็นเงินประมาณ 58 บาท
- โดยถั่วเหลือง 1 กิโลกรัมสามารถทำน้ำเต้าหู้ได้ประมาณ 30-35 ถุง สร้างรายได้ประมาณ 240- 280 บาท (ขายถุงละ 8 บาท) หักต้นทุนเหลือกำไรประมาณ 182- 222 บาท
- หากเป็นร้านที่ขายประจำและรู้จักพัฒนาสินค้า สามารถต่อยอดการขายเพิ่มรายได้ที่ดีมากๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างที่เรานำมาแนะนำให้คุณ หากใครมีสิ่งที่ตรงใจก็เริ่มต้นทำได้เลย
อาชีพค้าขาย เริ่มต้นอย่างไรดี ?
อาชีพค้าขาย บางคนอาจมองว่าเป็นอาชีพที่ทำเงินหรือทำกำไรได้น้อย ไม่รู้เมื่อไหร่จะรวยนั่นอาจเป็นคำพูดหลายคนตั้งคำถามอยู่ในใจ
- ถ้ามองกันในมุมของผู้ประกอบอาชีพค้าขาย นอกเหนือจากเรื่องของการหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้ว ยังมีเรื่องละเอียดอ่อนที่เราต้องเข้าไปสัมผัสเองถึงจะรู้
- บางคนค้าขายเพราะชอบอาชีพนี้ บางคนค้าขายเพราะสานต่อกิจการของครอบครัว บางคนล้มเหลวจากการประกอบอาชีพอื่นๆแล้วมาได้ดีในการค้าขาย หรือหลายคนอาจเป็นพนักงานประจำมาก่อนแต่อยากมีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง จึงเริ่มต้นด้วยอาชีพค้าขาย เป็นต้น
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจะประกอบอาชีพค้าขาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวยังไง และต้องทำอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆกันเลย
การเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มต้นอาชีพค้าขายมีดังนี้
การวางแผนและตั้งเป้าหมาย
- การวางแผนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่งคำนี้เราได้ยินกันบ่อยแต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ยังคงใช้ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ เริ่มจากการสำรวจตัวเองว่าตนเองนั้นมีความถนัดหรือสนใจสินค้าประเภทไหน หรือมีประสบการณ์ด้านไหนที่สามารถนำมาต่อยอดได้บ้าง
- ตั้งเป้าหมายเอาไว้คร่าวๆเพื่อเป็นแรงกระตุ้นในการทำอาชีพ เพราะอาชีพค้าขายนั้นใช่ว่าจะขยายเป็นกิจการใหญ่โตไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ด้วย
การเงิน
- ควรมีการจัดสรรเงินให้เป็นระบบ เป็นสัดส่วน ก่อนลงทุนทำธุรกิจใดๆเรื่องของการเงินเป็นเรื่องสำคัญ
ถ้าคุณมีเงินอยู่ก้อนนึง ให้แบ่งเงินนั้นออกเป็น 3 ส่วน
- ส่วนแรกสำหรับทุนในการเริ่มต้น ไม่ว่าจะค่าซื้อสินค้า ค่าเช่าที่
- ส่วนที่สองสำหรับเงินทุนสำรองในกรณีที่เงินทุนไม่พอเราก็จะสามารถเอาเงินทุนสำรองนี้ออกไปใช้ได้
- ส่วนที่สามสำหรับเป็นเงินออม/ค่าความเสี่ยง ส่วนนี้เก็บไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพราะการค้าขายก็ผันแปรไปตามสภาพเศรษฐกิจและค่าเงินบาทของประเทศด้วย หรือหากโชคร้ายค้าขายล้มเหลวก็ยังเหลือเงินส่วนนี้ไว้ตั้งตัวต่อไปได้
- ควรทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วย ทั้งนี้เพื่อจะได้เห็นตัวเลขชัดเจนทั้งค่าใช้จ่ายและผลกำไรต่างๆ การบริหารเงินของคุณก็จะทำได้ง่ายขึ้น
สินค้า
- เมื่อสำรวจตัวเองและตั้งเป้าหมายพร้อมทั้งเตรียมการเรื่องการเงินพร้อมแล้ว การเลือกสินค้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะเป็นตัวชีวัดว่าการค้าของคุณจะไปรอดหรือไม่
การลงทุนในตัวสินค้ามีหลายรูปแบบ
เช่น
- การหาสินค้ามาขายเอง
- การเป็นตัวแทนจำหน่าย
- การซื้อแฟรนไชส์
- ซึ่งแต่ละรูปแบบนั้นคุณจะต้องไปศึกษาทำความเข้าใจ ข้อดี ข้อเสีย ต่างๆก่อน อาจจะดูยุ่งยากไปสักนิด แต่เชื่อเถอะคะว่าเสียเวลาหาข้อมูลยังดีกว่าลงทุนไปแล้วเงินเสียเปล่า
กลุ่มเป้าหมาย
- กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เราจะขายสินค้า ศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เทรนด์หรือกระแสความนิยม
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักให้ชัดเจน เช่น ถ้าขายเครื่องสำอางแบรนด์เนม แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือ ผู้หญิง อายุ 20 – 40 ปี หรือกลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อ
ทำเลค้าขาย/ค่าเช่า
- เมื่อสินค้าและกำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว การเลือกทำเลค้าขาย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
- ควรเลือกทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเยอะๆ หรือทำเลที่มีผู้คนผ่านไปมา จับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้า และถ้าหากต้องเสียค่าเช่าที่ต้องดูด้วยว่าทำเลนั้นจะขายแล้วคุ้มค่าเช่าหรือไม่
- ต้องดูด้วยว่าทำเลนั้นเหมาะกับสินค้าของเราหรือไม่ เช่น ถ้าเรา ขายของเล่น แล้วเลือกทำเลขายที่ตลาดสด แน่นอนว่านอกจากเราจะไม่ได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว ยังเสียเวลา ไม่คุ้มค่าเช่าและเสียโอกาสในการขายอีกด้วย
คู่แข่ง
- ถ้าหากสินค้าของเรานั้นมีคู่แข่งที่ขายสินค้าชนิดเดียวกันและแถมตั้งอยู่ในทำเลใกล้กัน
- ให้รู้จักหาจุดเด่นของร้าน หรือจุดขายของร้าน เรียกลูกค้า เช่นการจัดร้านให้ดูน่าสนใจ แต่ไม่ใช่ขายตัดราคาร้านอื่น ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาด
การบริการ
- การค้าขายถ้าพ่อค้าแม่ค้ามีการบริการที่เป็นมิตร มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสุภาพ เพราะลูกค้าที่ไหนก็อยากจะได้รับความรู้สึกที่ดีกลับไปจากร้านค้าทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ซื้อก็ตาม
- การบอกต่อปากต่อปากอย่าลืมว่าเร็วกว่าการโฆษณาเป็นไหนๆ ร้านไหนแม่ค้าพูดเพราะ สินค้าดี ก็จะได้รับการประชาสัมพันธ์จากลูกค้าต่อๆกันไปเอง
- การเชื่อมสัมพันธ์เช่นนี้จะทำให้คุณได้ลูกค้าประจำเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญให้คุณอย่างต่อเนื่องแน่นอน
และนี้ก็เป็นการเตรียมตัวเบื้องต้น จะเห็นว่าเราจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลต่างๆให้มาก ยิ่งมีความรู้มากความเสี่ยงหรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเราก็จะสามารถเตรียมตัวและรับมันรับกับสถานการณ์นั้นๆได้
ธุรกิจค้าขาย คืออะไร
ธุรกิจค้าขาย (Retail Business) คือการขายสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าส่วนบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบของร้านค้าปลีก หรือออนไลน์ เช่น ร้านค้าขายยานยนต์ ร้านค้าขายเครื่องสำอาง ร้านค้าออนไลน์
- ทำการค้าขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางการขายต่างๆ เพื่อสร้างรายได้และกำไร
- ธุรกิจค้าขายสามารถเริ่มต้นได้ง่าย และโตได้เรื่อยๆตราบเท่าที่ยังสามารถหาลูกค้าได้
- แต่ข้อเสียก็คือธุรกิจค้าขายส่วนมากมีคู่แข่งเยอะ และอาจมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสูง
- หลักการค้าขายโดยเบื้องต้นก็คือหลักการเดียวกันกับการแลกเปลี่ยน เช่น การแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการของเจ้าของธุรกิจกับค่าเงินตราของลูกค้า
- สาเหตุที่ธุรกิจค้าขายสามารถสร้างกำไรได้ก็เพราะว่ามนุษย์แต่ละคนให้คุณค่ากับสินค้าและกระบวนการแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน
- นอกจากนั้นก็ยังมีวิธีการค้าขายด้วยการ เพิ่มมูลค่า อย่างธุรกิจทำอาหาร ขายของกิน ที่นำวัตถุดิบมา เพิ่มมูลค่า เป็นอาหารที่ทานได้ เพื่อให้สามารถตั้งราคาที่แพงขึ้นได้ เพราะลูกค้าอยากได้ทุกอย่างที่ถูกผสมกันมาอย่างดีแล้ว
- แน่นอนว่าธุรกิจค้าขาย สร้างกำไรจากการแลกเปลี่ยนสินค้ากับค่าเงินนั้นมีมานานแล้ว การค้าขายน่าจะเป็นธุรกิจประเภทแรกๆของโลกเลยด้วยซ้ำ
ข้อดีของอาชีพธุรกิจค้าขาย
หากเรามองว่าอาชีพธุรกิจส่วนตัวคืออาชีพในฝันของทุกคน เราก็จะเห็นได้ว่าอาชีพค้าขายนั้นเป็นหนึ่งในตัวอย่างของอาชีพธุรกิจส่วนตัวที่เราเห็นได้บ่อยที่สุด เรามาดูกันว่าอาชีพนี้ดีอย่างไร
1. เริ่มต้นง่าย
- อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เริ่มต้นได้ง่าย คนส่วนมากไม่ต้องจบปริญญาโทสาขาการขายหรือการตลาดก็เข้าใจหลักการค้าขายอยู่แล้ว
- การค้าขายเป็นหลักการที่ทุกคนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ได้อยู่แล้ว
- โดยส่วนมากหากคุณไม่ได้เป็นคนขี้อาย สามารถพูดคุยกับลูกค้าคนแปลกหน้าได้ดี และสามารถบวกตัวเลขกำไรขาดทุนเบื้องต้นได้ คุณก็สามารถค้าขายได้แล้ว
2. โตได้เร็วเท่าที่เรามีทุน
- เนื่องจากว่าธุรกิจค้าขายมีโครงสร้างที่เรียบง่าย ตราบใดที่เราขายได้ ธุรกิจเราก็จะกำไร
- โดยเบื้องต้นนั้นคนที่มีทุนเยอะกว่าก็จะสามารถซื้อของในราคาถูกได้ สามารถทำการตลาดได้ และสามารถสต็อกสินค้าได้เยอะ
- หมายความว่าคนที่มีทุนเยอะก็จะโตได้เร็วมาก ในทางกลับกัน ร้านค้าที่ทุนน้อยๆก็ต้องค่อยๆขายเพื่อลดความเสี่ยง
3. ขายด้วย ช่วยคนอื่นด้วย
- หนึ่งในความสุขของการทำธุรกิจก็คือการที่เราสามารถสร้างเงินจากการแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่นได้
- หากเราสามารถเลือกสินค้าที่ดี มีคุณภาพ หรือมีความคุ้มราคา เราก็จะของแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่นได้เยอะ
ข้อเสียของอาชีพธุรกิจค้าขาย
อาชีพค้าขายนั้นเป็นอาชีพส่วนตัวที่เริ่มได้ง่ายนั้นเอง ในส่วนนี้เราจะมาลองวิเคราะห์ดูว่าอาชีพค้าขายนี้มีข้อเสียอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. มีคู่แข่งเยอะ
- เนื่องจากว่าธุรกิจค้าขายนั้นเริ่มได้ง่าย คนทุนน้อยก็เริ่มได้ นั้นก็หมายความว่าคนอื่นๆก็สามารถเริ่มได้เช่นกัน
- โดยรวมแล้วธุรกิจค้าขายก็จะมีคู่แข่งเยอะกว่าธุรกิจประเภทอื่น ยิ่งในยุคออนไลน์ด้วย ปัญหานี้ก็ยิ่งทวีคูณ
- แน่นอนว่าการมีคู่แข่งเยอะก็จะทำให้เกิดปัญหาการแย่งลูกค้า การตัดราคา ปัญหาเหล่านี้ทำไมการค้าขายโตได้ยากหากคุณไม่ได้มีข้อได้เปรียบเหนือคนอื่นจริงๆ
2. ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
- การค้าขายต้องใช้ทุนบ้าง แถมเนื่องจากว่าเราต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ
- ธุรกิจค้าขายหากไม่ได้ขายสินค้าดีๆจริงๆก็ค่อนข้างกำไรยาก
- หากเทียบกันในระยะสั้น 1-2 ปี การทำงานรับจ้างอาจจะได้เงินมากกว่าการค้าขายด้วยซ้ำ
- การค้าขายก็คือการทำธุรกิจ และการทำธุรกิจก็คือการลงทุน หากเราคิดว่าเป็นอาชีพที่เหมาะกับเรา เราก็ควรหาวิธีลดค่าใช้จ่ายในระยะสั้น อดทนรอเพื่อให้ได้กำไรในระยะยาว
3. ธุรกิจค้าขายสมัยนี้ซับซ้อนมาก
- หากคุณไม่ได้ขายสินค้าที่แปลกแหวกแนว และมีข้อได้เปรียบที่คนอื่นไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องยอมรับก่อนว่าการค้าขายให้ดีกว่าคู่แข่งนั้นทำได้ยากมาก
- ยิ่งเป็นการค้าขายในทำเลใกล้เคียงกัน ด้วยสินค้าชนิดเดียวกัน และราคาใกล้กัน
- โดยรวมแล้ว การค้าขายให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวก็ต้องอาศัยความรู้ด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เช่นการหมุนเงินที่เก่งกว่า ความรู้การตลาดที่มากกว่า หรือความกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ
นอกจากอาชีพขายของ เราควรทำธุรกิจอะไรดี ที่บ้านนอก
การทำธุรกิจที่ต่างจังหวัดนั้นไม่เหมือนกัน นอกจากคุณจะได้ต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจต่ำกว่าเมืองกรุงแล้ว หากคุณมีไอเดียที่ดีเกี่ยวกับสินค้าของคุณ บางทีสินค้าของคุณอาจจะเป็นสินค้า ที่หาซื้อได้ที่ร้านคุณแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น เราจึงยกตัวอย่าง ธุรกิจยอดนิยมที่สามารถทำได้ที่ต่างจังหวัด มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
โฮมสเตย์ หรือ รีสอร์ท
- ปัจจุบันจะเห็นว่า มีผู้คนจำนวนไม่น้อยอยากจะหลบหลีกความวุ่นวายจากสังคมเมืองและการทำงานอย่างหนัก มาใช้ชีวิตแบบ Slow Life นอนพักผ่อนและดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ
- โดยการไปออกท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ เพราะนอกจากจะได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญๆในต่างจังหวัดแล้ว ยังสามารถสัมผัสถึงความสวยงามจากธรรมชาติ
- ได้เรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในชนบท สัมผัสถึงกลิ่นอายขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในท้องถิ่นที่หาดูได้ยากนัก
- ทำให้เกิดความประทับใจอีกมาก อีกทั้งโฮมสเตย์ยังมีราคาที่ย่อมเยามากกว่าการเข้าพักในโรงแรม
ธุรกิจหัตถกรรมพื้นบ้าน หรือ สินค้าทำมือ
- หากไปท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัดทุกคนก็จะต้องแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านเพื่อไปฝากคนที่บ้านหรือคนรู้จักด้วย
- นอกจากอาหารแปรรูปแล้ว ยังมีสิ่งที่นิยมซื้อกับคับคั่งด้วย นั่นก็คือ สินค้าหัตถกรรม หรือ สินค้าทำมือนั้นเอง
- นอกจากจะมีสไตล์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครแล้ว ทั้งยังมีรูปแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ทำให้ดูเป็นสากลและดูทันสมัยมาก ส่วนราคาก็ถูกมากจนน่าตกใจ
สินค้าทำมือตัวอย่างเช่น
- โคมไฟที่ทำมาจากวัสดุเหลือใช้
- กระเป๋าสาน
- ผ้าทอมือ
- ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณชำนาญในการค้าขายสินค้าออนไลน์แล้วล่ะก็ คุณยังสามารถเปิดตลาดหัตถกรรมพื้นเมืองเหล่านี้ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักเป็นการยกระดับสินค้าหัตถกรรมให้เข้าสู่ความเป็นสากล
- เพื่อเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณอีกด้วย เหมาะกับยุคปัจจุบันนี้จริงๆ
การขายงานศิลป์
- หากคุณมีความสามารถในทางศิลปะ คุณก็อาจจะขายวาดภาพวาดของคุณได้ตามท้องตลาดหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ผู้คนนิยมไปกัน
เช่น
- งานวาด
- งานปั้น
- งานแกะสลัก
- คุณอาจจะนั่งวาดภาพวิวเล่นๆสักที่แล้วนำไปขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือวาดภาพเสมือนของครอบครัวหรือคู่รัก เพื่อเป็นที่ระลึกในการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ก็ได้
ธุรกิจด้านการเกษตร
- อาชีพที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดที่ต้องการจะหารายได้ส่วนตัว ดังนั้นการทำการเกษตรก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนทางหนึ่ง
- อีกทั้งยุคนี้เป็นที่รู้ๆกันดีว่าเป็นยุคของ Social Media คุณสามารถค้นหาข้อมูลในการทำการเกษตรสำหรับมือใหม่เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตต่างๆในการเกษตรได้
- มีตลาดรองรับการเกษตร ดังนั้นคุณไม่ต้องกลัวเลยล่ะว่า สินค้าของคุณจะขายไม่ออก แต่ทั้งนี้เราต้องเลือกวิธีการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่เราจะทำ เช่น ที่ดินนี้และสภาพอากาศแบบนี้ เหมาะสำหรับการทำไร่มากกว่าทำสวน เป็นต้น
- แม้กระทั่งการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มของเราอย่าง หมู วัว แพะ แกะ ไก่ ก็สามารถนำไปต่อยอดทำเป็นสินค้าแปรรูป เพื่อเป็นรายได้ให้กับฟาร์มของเราได้อีกด้วย
ธุรกิจร้านอาหาร
- ธุรกิจในด้านร้านอาหารนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจยอดนิยมในต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน
- โดยรูปแบบของร้านอาหารที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ มีทั้งรูปแบบที่ใช้ต้นทุนสูงและต้นทุนต่ำตามแต่กำลังความต้องการและต้นทุนที่ตนเองมี
- ซึ่งข้อดีของการที่จะเปิดร้านอาหารนั่นคือ นอกจากจัดตกแต่งให้มีความทันสมัย มีรสนิยม สะอาดสะอ้านอีกทั้งยังสามารถจัดให้เหมาะแก่สภาพแวดล้อมที่อยู่ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าได้มาสัมผัสกับบรรยากาศ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการยกตัวอย่างธุรกิจที่เราสามารถทำได้ในต่างจังหวัดที่ตอบโจทย์คนยุคนี้อย่างมาก
แนวคิดก่อนเริ่มธุรกิจต่างจังหวัด
การทำธุรกิจที่ต่างจังหวัดนั้นอาจจะไม่สะดวกสบายเท่าอยู่ในเมือง ก่อนที่เราจะทำธุรกิจนั้นเราต้องศึกษาอะไรบ้างไปดูกันเลย
ทำเลทองจำเป็นสำหรับร้านค้าที่ไม่มีที่จอดรถ
- สำหรับคนที่คิดจะเปิดร้านขายอาหาร กาแฟสด ลูกชิ้นปิ้ง ไก่ย่าง ส้มตำ แต่ไม่มีที่จอดรถแนะนำว่า อย่าเปิด ถึงแม้ร้านจะติดถนนใหญ่
- สมัยนี้รถวิ่งเร็ว และไม่หยุดเข้าร้านง่ายๆ บอกเลยว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ขี้เกียจจอดรถ
หากจะหาทำเลที่เปิดจึงขอแนะนำ ดังนี้
- ข้างร้านเซเว่น คนที่มาที่นี่ ส่วนใหญ่ต้องการมาซื้อของอาจเป็นทั้งของกิน หรือของใช้ และส่วนใหญ่มักเป็นร้านของบริเวณนั่น
- ขายหน้า ธ.ก.ส. ชีวิตเราชาวบ้านนอกผูกพันมาก กับ ธ.ก.ส. เพราะต้องไปนั่งรอคิวนานแสนนาน ชาวไร่ ชาวนา ถ้าเลือกอยากขายปุ๋ยขายยา อุปกรณ์การเกษตร บริการเกี่ยวกับมือถือ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
- เปิดข้าง ธนาคาร ข้าราชการเป็นบุคคลที่มีกำลังซื้ออยู่ตอนนี้ อาจจะขายเป็นพวกเสื้อผ้ากระเป๋าแฟชั่น เสื้อทีม เสื้อ Uniform สกรีนเสื้อ หรือพวกร้านทำป้ายไวนิล ตัดสติกเกอร์ต่างๆ อุปกรณ์เครื่องเขียน สำนักงานทั้งหลาย เป็นต้น
ถ้าจะเปิดร้านอาหารต้องจำไว้ว่า อย่าปิดร้านบ่อย
- ถึงแม้จะรสชาติอร่อย คนติดกัน แต่ถ้าหยุดบ่อยๆ เดี๋ยวไปงานแต่ง 3 วัน งานบวช 4 วัน งานศพ 10 วัน
- ลูกค้ามาทีไร ปิดทุกที จนเขาขี้เกียจมา พอกลับมาเปิดร้านอีกทีลูกค้าอาจจะหายไป
อย่าพึ่งลงทุน “เซ้งตึก”
- แนะนำให้เช่าก่อน หรือถ้าขายอาหาร อย่าเอาเงินทุนไปจมกับอสังหา หรือเครื่องชงกาแฟสามแสนบาท หรือตกแต่งภายใน
- สร้างร้านปรับที่สร้างแลนด์มาร์ค เพราะส่วนมาก ขายอาหารขายกาแฟได้แค่เสาร์-อาทิตย์ ได้คนมาเที่ยว มาถ่ายรูปเช็คอิน แต่การดูแลรักษาต้องใช้ทุนสูง
- ถ้าลงทุนไปขนาดนั้นแล้ว มันจะคืนทุนยาก หาความยั่งยืนของกิจการก็ยาก ดีไม่ดีกำไรที่ได้ อาจสู้ร้านส้มตำเพิงหมาแหงนที่รสแซ่บนัวยังไม่ได้เลย ถ้าจะทำร้านอาหาร รสชาติต้องมาก่อนเสมอเลย
เปิดร้านแล้วต้องแชร์ข้อมูล
- สิ่งที่ห้ามพลาดในยุคนี้คือ การแชร์รูปสินค้าลงไปในกลุ่มเฟซบุ๊กในจังหวัดบ่อยๆ นอกจากรูปอาหารน่ากินๆ ควรลงข้อมูลอื่นด้วย เช่นขายแถวไหน หน้าร้านเป็นไง
- หลายคนโพสต์แต่รูป จะตามไป ก็หาร้านไม่เจอ บางทีเจอร้านก็ดันปิด ร้านไม่ปิดบางทีก็ไม่มีที่จอดรถ เราต้องมองต้องแก้ปัญหานี้ให้กิจการให้ร้านของเรา
การจะทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตาม ทุกอย่างจะต้องศึกษาและลองทำโดยการเริ่มจากจุดเล็กๆก่อนหากธุรกิจไปได้ดี ก็ค่อยๆขยายให้ใหญ่ขึ้นจนมีกำไรมากมาย แบบนี้จะเป็นการทำธุรกิจที่สมบูรณ์และประสบความสำเร็จ
ธุรกิจค้าขาย ที่คุณควรศึกษามีอะไรบ้าง
เมื่อเราคิดจะทำธุรกิจค้าขายแต่ไม่รู้ว่ามีธุรกิจแบบใดบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆกันเลย
1. ธุรกิจค้าขายของกิน
- ของกินถึงแม้ว่าจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกันหมด แต่ก็มีหลายอย่างมาก
- มีตั้งแต่อาหารรถเข็น อาหารทอด ราคาชิ้นละไม่กี่สิบบาท ไปจนถึงอาหารราคาแพงๆราคาหลายร้อย
- หากคุณอยากจะขายของแบบนี้สิ่งแรกที่ต้องดูก็คือเรื่องของทำเล หากทำเลดีเราก็กำไรไปครึ่งหนึ่งแล้ว
- ส่วนการเลือกของกินนั้นเราต้องดูกันที่ว่าแถวนั้นมีคู่แข่งแบบไหนมากกว่า หากไม่มีใครขายของคล้ายๆเรา การเลือกของกินขายง่ายมาก็เป็นเรื่องง่าย
- ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณแล้วว่าคุณถนัดขายของราคาแพงแบบต้องใส่ใจ หรืออยากขายของราคาถูก ขายง่าย กำไรน้อยต่อชิ้นแต่ไม่ต้องคิดเยอะ
2. ธุรกิจค้าขายออนไลน์
- ขายของออนไลน์เป็นธุรกิจยอดฮิตของคนสมัยใหม่ เราไม่ต้องออกไปไหน นั่งอยู่บ้านก็รับออเดอร์ได้แล้ว
- หากเราไม่ได้มีสินค้าเป็นของตัวเอง เราก็จะไม่สามารถพึ่งพาการสร้างยอดขายจากช่องทางใดช่องทางหนึ่งได้
- การนำสินค้าเราไปขายใน Lazada Shopee Facebook Marketplace ยิ่งเราโพสเยอะๆ คนก็จะเห็นสินค้าของเรามากขึ้น
3. ธุรกิจค้าขายของแม่และเด็ก
- กรณีนี้เราจะไม่พูดถึงสินค้าใดเป็นพิเศษแต่จะอธิบายถึง กลุ่มลูกค้า มากกว่า สินค้าแม่และเด็กเหมาะมากหากคุณคลุกคลีอยู่ในวงการนี้ เพราะมีสินค้าใหม่ๆออกมาเสมอ
- ปัญหาหลักของธุรกิจนี้ก็คือคุณต้องสามารถขายให้กับคนกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษได้ ตัวอย่างที่เราเห็นได้ง่ายก็คือคุณแม่ขายคุณแม่ด้วยกันเอง
- โดยรวมแล้วสินค้าแม่และเด็กนั้นกำไรดี แต่คุณต้องมีหัวใจการค้าขายมากหน่อย ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่สามารถขยายตลาดจาก คนใกล้ตัว ไปสู่ลูกค้าแนวกว้างได้
4. ธุรกิจค้าขายอาหารเสริมและสินค้าความสวยความงาม
- อาหารเสริมและสินค้าความสวยความงานเป็นสินค้าที่กำไรดีมาก เพราะมูลค่าของสินค้าถูกกับ ผลลัพธ์ มากกว่าต้นทุนการผลิต
- ข้อดีก็คือขายง่ายกำไรดี แต่ข้อเสียก็คือหากสินค้าไม่ได้คุณภาพ คุณจะไม่สามารถขายซ้ำได้ จนทำให้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะค้าขายในระยะยาว
- ซึ่งก็ไม่แปลกที่สินค้าประเภทนี้จำเป็นต้องอาศัยการตลาดที่เยอะมากๆ หมายความว่าหากคุณไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ คุณก็ต้องเลือกแบรนด์ที่ดูทำการตลาดเก่ง ทำโฆษณาเยอะๆ คุณจะได้ขายง่ายๆ
เมื่อรู้จักกับประเภทของธุรกิจแล้วคุณก็อาจจะนำไปต่อยอดแนวคิดการทำธุรกิจของคุณได้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณไม่มากก้น้อย
สินค้าน่าขาย ขายของตลาดนัดอะไรดี 2023
ปัจจุบันแค่ทำงานประจำบางทีรายได้ไม่เคยพอใช้ นำไปสู่การหารายได้เพิ่ม ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเป็นพ่อค้าแม่ค้าและทำเลที่ง่ายสุดก็คือ ตลาดนัด แต่ไม่รู้ว่าจะขายอะไรเชื่อว่าเราต้องโฟกัสไปที่สินค้าที่คนมีความต้องการมากราคาไม่แพง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ลูกชิ้นปิ้ง และลูกชิ้นทอด
- ทุกตลาดนัดเราต้องเห็นเมนูสุดฮิตอย่างลูกชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด เป็นสินค้าราคาไม่แพง แต่ขายดีมาก แต่พ่อค้าแม่ค้าก็เยอะเช่นกัน
- ดังนั้นกลยุทธ์การขาย ไอเดียการทำตลาด คุณภาพสินค้าและบริการจึงสำคัญมาก แม้จะเป็นสินค้าที่ลงทุนน้อย มีเงินหลักพันก็เริ่มต้นได้
หมูปิ้ง และเนื้อย่าง
- เมนูที่ฮิตไม่แพ้กันและมีทุกตลาดนัดแน่นอนก็คือหมูปิ้ง และเนื้อย่าง ลงทุนแค่หลักพันก็เริ่มเปิดร้านได้
- อุปกรณ์หลักก็แค่โต๊ะ เตา หมูสำหรับปิ้ง ข้าวเหนียว ถ้าเงินทุนน้อยก็ไม่ต้องขายมาก เอาแค่พอมีรายได้และค่อยๆสะสมกำไรเอามาลงทุนให้ร้านค่อยๆโตขึ้น
ไก่ย่าง
- ไก่ย่างมีการลงทุนที่ไม่ยาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ และเป็นสินค้าที่ขายดีมาก เสน่ห์ของไก่ย่างคือกลิ่นหอมชวนกินทานคู่ข้าวเหนียว ราคาก็ไม่แพง ไม้ละ 10-20 บาทก็อิ่มอร่อยได้
- สำหรับคนที่อยากขายไก่ย่างก็ควรศึกษาสูตรการหมัก การย่าง และนำมาฝึกฝนจนได้สูตรที่ลงตัวจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้สินค้าดูน่าสนใจได้มาก
เต้าหู้ทอด
- ในยุคนี้เมนูสุขภาพมาแรง ซึ่งเต้าหู้ทอด เผือกทอด ข้าวโพดทอดก็เป็นสินค้าที่มีความต้องการ และขายง่าย ขายดี
- ยิ่งมีแฟรนไชส์ ก็ยิ่งทำให้เริ่มธุรกิจได้ไม่ยาก ซึ่งทางแฟรนไชส์ยังมีสูตรน้ำจิ้มเพิ่มความอร่อยให้ลูกค้าได้มากขึ้นสามารถขายได้ทุกทำเลไม่ว่าจะหน้าบ้าน ตลาดนัด หรือทำเป็นพ่วงข้างวิ่งขายตามตรอกซอกซอยต่างๆ ก็ได้
เฟรนฟรายด์
- อุปกรณ์ที่ใช้ก็เน้นง่ายๆ เช่น โต๊ะพับได้ 1 ตัว เก้าอี้ 1 ตัว
- วัตถุดิบหลักคือเฟรนฟรายด์พร้อมทอด 1 ถุงใหญ่ๆ รวมกับผงปรุงรสอย่างปาปริก้า ชีส หรือเกลือ และก็เตาแก๊สปิคนิค ตะแกรงสำหรับตักเฟรนฟรายด์ ถุงพลาสติกสำหรับใส่เฟรนฟรายด์
- อาจเริ่มจากร้านเล็กๆ พอมีทุนค่อยขยับไปทำเลอื่นที่มีคนพลุกพล่านมากขึ้น หรือสามารถเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ ที่มีประสบการณ์ยาวนานมีทีมงานให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพก็ได้
นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างสินค้าที่มีคนสนใจและซื้อมากที่สุดในตลาดนัด หากคุณคิดจะลงทุนก็ควรศึกษาและหาทำเลที่เหมาะสมเพื่อให้การขายของคุณเป็นไปในทางที่ดี
ข้อดีการทำธุรกิจขายของตลาดนัด
การขายของเป็นธรุกิจที่จะต้องลองผิดลองถูก เพราะอาชีพขายของนั้นเป็นการเปิดโอกาสกับผู้ที่อยากมีธุรกิจแบบอิสระ เรียกได้ว่าใครอยากเป็นนายตัวเองส่วนใหญ่ก็จะลองมาหาที่ขายของตามตลาดนัดขายนั่นเองและในปัจจุบันคนชอบเดินตลาดนัดจึงทำให้คนสนใจที่อยากจะหาที่ขายของที่ตลาดนัด เรามาดูกันว่าข้อดีของการขายของที่ตลาดนัดมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
เป็นนายตัวเอง
- การขายของตลาดนัดเป็นอาชีพให้อิสระ ไม่ต้องมีคนมาคอยสั่งคุณในการทำงาน ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องรีบไปทำงาน อยากหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่คุณจะต้องวางแผนการขายของของคุณให้ดีเท่านี้เอง
มีการแก้ไขเฉพาะหน้าได้ดี
- ปัญหาในการทำงานต้องมีอยู่ทุกที่ค่ะ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะการได้เป็นพ่อค้าแม่ค้านั้น ทักษะอย่างหนึ่งคือการตัดสินใจ อย่างเช่นลูกค้าต่อรองราคาเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าเราหลาย ๆ ชิ้น ซึ่งแน่นอนเราจะต้องเกิดการตัดสินใจเพื่อการขายสินค้าอย่างแน่นอน
ลุ้นรายได้ในแต่ละวัน
- เนื่องด้วยอาชีพขายของนั้นเป็นอาชีพที่ไม่มีความแน่นอนในเรื่องของรายได้ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในแต่ละวันนั้น รายได้เราจะได้เท่าไร
ฝึกความอดทนของตัวเอง
- การเป็นพ่อค้าแม่ค้าสิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความอดทน เพราะแต่ละวันเราจะต้องพบเจอคนเยอะ และสิ่งที่ต้องเจอคือลูกค้าที่เรื่องเยอะ เข้ามาแล้วไม่ซื้อ หรือลูกค้าแบบเปรียบเทียบราคาซึ่งเราต้องเจอและเป็นธรรมดาที่ลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าแบบนี้แต่ก็ไม่เป็นทุกคนเสมอไป เราจะต้องฝึกความอดทนให้มากพอ
ได้พบผู้คนมากขึ้น
- แน่นอน เมื่อเราขายของที่ตลาดนัดเราจะต้องเจอผู้คนมากมาย ซึ่งในแต่ละวันเราจะต้องเจอลูกค้าใหม่ ๆ เสมอ และการเลือกซื้อสินค้านั้นลูกค้าก็จะมีคำถามที่เราจะต้องคอยตอบ ซึ่งหากคุณรักในการขายของคุณจะไม่รำคาญที่จะตอบเลย
มีทักษะในการคิดและคำนวณ
- การเป็นพ่อค้าแม่ค้าเอกลักษณ์เด่น ๆ คือการคิดเงินเร็ว เพราะช่วงแรกอาจมีกลัวว่าจะคิดเงินผิด ทอนเงินผิด ซึ่งหากเราจะต้องคิดเงินทุกวัน เชื่อเถอะมันจะชำนาญโดยอัตโนมัติจะทำให้เรามีทักษะการคิดและคำนวณได้เร็วมากขึ้น
มีเวลาให้กับครอบครัว
- อาชีพค้าขายนั้นเป็นอาชีพที่อิสระ เราสามารถกำหนดการขายของของเราได้ อย่างเช่น ขายของช่วงเย็น ช่วงเวลาขายของก็จะประมาณ 16.30 น. ซึ่งช่วงเช้าเราก็จะมีเวลาในการอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
สรุป
- จะเห็นได้ว่าการขายของตลาดนัดนั้นเราสามารถทำเป็นอาชีพหลัก หรือเสริมก็ได้
- ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่อยากลองหาที่ขายของสักที่ และหาสิ่งที่ชอบให้เจอ พร้อมกับการลงมือทำมันอาจจะเป็นสิ่งที่ท้าทายและมาพร้อมกับความมั่นคงในชีวิตก็เป็นได้
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้