ประกันสุขภาพเดือนละ 300 500 1000 รายเดือน

การทำประกันสุขภาพแบบรายเดือนเป็นประเภทของประกันสุขภาพที่ผู้ใช้จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพทุกเดือน ซึ่งจะมีปริมาณความคุ้มครองและค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามแต่ละแผน และมีข้อจำกัดในการรับประกัน ซึ่งผู้ใช้จะต้องตรวจสอบและเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของตนเอง โดยสามารถศึกษารายละเอียดได้จากบทความนี้เลยจ้า

Contents

ประกันสุขภาพคืออะไร

ประกันสุขภาพเป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาการป่วยหรือการรักษาสุขภาพของบุคคล ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการรักษาการป่วยต่างๆ และค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพต่างๆ

  • การประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย
  •  ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้แก่ผู้เอาประกันภัย
  •  โดยที่วิธีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับการประกันสุขภาพ จะยึดเกณฑ์เดียวกับการประกันภัยประเภทอื่น ๆ คือ การจ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินที่เอาประกันภัยไว้
  • โดยทั่วไปแล้วการประกันสุขภาพจะถูกแบ่งออกตามลักษณะกลุ่มการประกันเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
  • การประกันสุขภาพหมู่
  • การประกันสุขภาพรายบุคคล
  • นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งประกันสุขภาพตามลักษณะความคุ้มครอง และการแบ่งประกันสุขภาพตามวัยของผู้เอาประกันอีกด้วย

ประกันสุขภาพมีกี่ประเภท

2 ประกันสุขภาพมีกี่ประเภท

ประกันสุขภาพในปัจจุบันมีค่อนข้างหลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรูปแบบประกันสุขภาพที่ต้องการได้ ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด และรูปแบบของประกันสุขภาพมีดังนี้

ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน

  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน คือ แผนประกันสุขภาพที่จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันมีอาการเจ็บป่วยและได้รับคําแนะนําหรือคําวินิจฉัยจากแพทย์ว่า ผู้เอาประกันจะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
  • ทั้งนี้ รวมถึงการที่สถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลรับตัวผู้ป่วยไว้แต่เสียชีวิตก่อน 6 ชั่วโมงด้วย

ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก

  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก คือ แผนประกันที่ให้ความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันมีอาการเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแต่ไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
  • การรักษาตัวจากอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง เช่น กรณีเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ หรือ การฉีดวัคซีน เป็นต้น

ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง

  • ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง คือ แผนประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาเฉพาะทางค่อนข้าง ซับซ้อน ต้องใช้เครื่องมือแพทย์เฉพาะทาง
  • ใช้เวลารักษาที่ค่อนข้างยาวนานและมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้อ งอก กลุ่มโรคหัวใจ กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับสมอง ระบบหลอดเลือด รวมถึงโรคที่เกิดจากการบาดเจ็บร้ายแรง

ประกันอุบัติเหตุ

  • ประกันอุบัติเหตุ คือ แผนประกันที่ให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย
  • ผลของอุบัติเหตุนั้นทำให้ผู้เอาประกันต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเพียงอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ รวมถึงทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
  • ซึ่งบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล รวม ถึง จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันหากผู้เอาประกันต้องสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนั้นๆ ด้วย

ประกันชดเชยรายได้

  • ประกันชดเชยรายได้ คือ แผนประกันที่ให้ความคุ้มครองรายได้ระหว่างที่คุณต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
  • โดยบริษัทประกันจะทำการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรายวันให้ระหว่างที่คุณไม่สามารถทำงานได้ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เงินชดเชยในส่วนนี้เป็นเพียงเงินชดเชยรายได้เท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

ประกันสุขภาพเดือนละ 300 500 1000 รายเดือน

1 ประกันสุขภาพเดือนละ 300

ประกันสุขภาพเดือนละ 300 500 1000 คืออะไร มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

  • ในส่วนของการทำประกันสุขภาพนั้นมีให้เราเลือกหลากหลาย
  • แต่ที่ดูจะได้รับความสนใจหนีไม่พ้นประกันสุขภาพเดือนละ 300 500 1000 ซึ่งมีเงื่อนไขอย่างไรให้เราบ้าง แล้วจะเลือกประกันสุขภาพที่ไหนดี
  • โดยทั่วไปแล้วประกันสุขภาพนั้นมีให้เลือกหลัก ๆ แล้ว 2 กลุ่มด้วยกัน คือประกันสุขภาพแบบเดี่ยว และประกันสุขภาพแบบกลุ่ม โดยที่แต่ละประเภทจะมีรูปแบบประกันแตกต่างกัน
  • ซึ่งประกันสุขภาพรายเดือน เดือนละ300 500 หรือ 1000 ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบให้บริการ โดยจะเลือกได้ว่าเป็นประกันสุขภาพผู้ป่วยใน หรือผู้ป่วยนอก ประกันโรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ ประกันชดเชยรายได้
  • ซึ่งปัจจุบันนั้นเราสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ด้วย แต่ว่าการจ่ายประกันสุขภาพรายเดือนนั้นผ่อนจ่ายทีละเดือนในจำนวนเท่า ๆ กันที่ได้ทำตามเงื่อนไขก่อนสมัคร
  •  เหตุผลที่เราควรเลือกทำประกันสุขภาพรายเดือนละ300 500 1000 นั้นก็เป็นเพราะว่ามีส่วนช่วยให้เราประหยัดมากขึ้น
  • ในขณะที่เงื่อนไขก็เป็นไปตามที่แหล่งให้บริการกำหนดอยู่แล้ว ทำให้เราไม่ต้องมาเสียทีเดียวเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท เหมือนว่าได้ผ่อนจ่ายไปเรื่อย ๆ
  • ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต จึงทำให้ประกันสุขภาพจ่ายรายเดือนได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
  • การซื้อประกันสุขภาพเป็นรายเดือน 300 500 1000 บาท ยังเป็นการจ่ายเบี้ยที่เข้าถึงกับทุกกลุ่มคนที่มีความต้องการอยากทำประกันสุขภาพอย่างที่สุด บางแหล่งก็เป็นประกันสุขภาพไม่ต้องตรวจสุขภาพอีกด้วย

ข้อดี ของการทำประกันสุขภาพเดือนละ 300 500 และ1000 บาท

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลให้น้อยลง
  • ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้ารับการรักษาตัว
  • ช่วยให้ได้รับการรักษาตัวอย่างรวดเร็ว มากกว่าการใช้ประกันสังคม
  • ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวและคนที่รัก

ซื้อประกันสุขภาพได้ ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่กัน

3 ซื้อประกันสุขภาพได้

การพิจารณาเลือกซื้อประกันสุขภาพเราต้องดูว่าค่าใช้จ่ายเราไหวไหม พอจ่ายไหม คุ้มครองขนาดไหน รายละเอียดเพิ่มเติมมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย

  •  ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า แผนประกันสุขภาพนั้นมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่เลือก
  • ถ้าแผนไหนจ่ายเบี้ยเยอะ คุ้มครองก็จะสูง แผนไหนจ่ายเบี้ยน้อยก็คุ้มครองน้อยเป็นธรรมดา
  • เราจะเลือกซื้อแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนหรือกำลังทรัพย์ที่พอจะจ่ายไหว
  • ต้องดูถึงอนาคตว่าเราจ่ายต่อไหวไหม เพราะประกันสุขภาพบางบริษัทปรับเบี้ยขึ้นตามอายุ
  • ประกันสุขภาพบางตัว ให้คุณจ่ายเดือนละ 1,000  2,000 3,000  10,000 ก็มี มันขึ้นอยู่กับว่า บริษัทจะมีแผนประกันให้เลือกเยอะขนาดไหน
  • ถ้าเยอะมาก มันก็จะมีหลายราคา พอมีหลายราคา ลูกค้าก็มีโอกาสที่จะเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมมากกว่าบริษัทที่มีแบบประกันน้อยๆ

ประกันคุ้มครองทันทีคืออะไร

  • ความคุ้มครองประกันสุขภาพ เป็นการให้ความคุ้มครองค่ารักษาที่เกิดจากอาการเจ็บป่วยจากโรคภัย เช่น ค่ารักษาผู้ป่วยใน ค่ารักษาผู้ป่วยนอก ค่าผ่าตัด ค่าห้องโรงพยาบาล
  • โดยบริษัทประกันจะเข้ามาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายจากการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้กับบริษัท
  • หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเครือข่ายของบริษัทประกันก็ไม่ต้องสำรองจ่าย
  • นอกเหนือจากนั้นจะเป็นลักษณะของการออกค่ารักษาไปก่อนแล้วมายื่นเคลมคืนเงินกับบริษัทประกันทีหลัง

ประกันสุขภาพ จะเริ่มคุ้มครองตอนไหน

  • การซื้อประกันสุขภาพ เริ่มคุ้มครองตอนไหน ความคุ้มครองค่ารักษาไม่ได้เริ่มทันที เพราะประกันสุขภาพทุกฉบับจะมี “ระยะเวลารอคอย” (Waiting Period) ถึงจะเริ่มเคลมหรือใช้ประกันได้
  • โดยปกติแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาตามการคุ้มครอง คือ
  • โรคทั่วไป มีระยะเวลารอคอย 30 วัน นับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ
  • โรคร้ายแรง มีระยะเวลารอคอยอยู่ที่ 90 วัน นับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ

เจ็บป่วยในช่วงระยะเวลาที่ประกันไม่คุ้มครองจะทำอย่างไร

ถ้าเจ็บป่วยในช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง ผู้ใช้จะไม่ได้รับความคุ้มครองในการรักษาประกัน ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผลต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพหมดอายุ หรือประกันสุขภาพถูกยกเลิก หรือประกันสุขภาพไม่คุ้มครองสำหรับโรคหรืออาการที่เกิดขึ้น ผู้ใช้จะต้องเป็นเก็บค่าใช้จ่ายเอง และควรตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขของประกันสุขภาพก่อนการเปิดประกันใหม่

  • ถ้าเจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอย ต้องกลับไปดูที่เงื่อนไขของตัวกรมธรรม์ที่ทำไว้ก่อน ว่าระบุไว้ว่าอย่างไร
  • แต่ส่วนใหญ่ถ้าป่วยในช่วงระยะเวลาที่ประกันยังไม่เริ่มคุ้มครองก็ไม่สามารถเคลมประกันได้
  • ยกตัวอย่างเช่น เจ็บป่วยต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วง 30 วันแรกที่เพิ่งทำประกันไป แต่ในสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าระยะเวลารอคอยคือ 30 วัน แบบนี้ก็แน่นอนแล้วว่า ไม่สามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพที่เพิ่งซื้อได้
  •  นอกจากนี้ ประกันสุขภาพยังมีข้อยกเว้นเรื่องความคุ้มครองค่ารักษาเอาไว้ด้วย
  • โดยเฉพาะการเจ็บป่วยที่เกิดจากการใช้สารเสพติด การศัลยกรรม การทำร้ายตัวเอง นั่นหมายความว่า ต่อให้เจ็บป่วยในระยะเวลาการคุ้มครอง แต่ถ้ามีสาเหตุมาจากข้อยกเว้นในสัญญาประกันสุขภาพก็อาจไม่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาเช่นกัน

ประกันแบบเหมาจ่ายคืออะไร

4 ประกันแบบเหมาจ่ายคืออะไร

ประกันแบบเหมาจ่าย (หรือประกันแบบรายปี) เป็นประเภทของประกันสุขภาพที่ผู้ใช้จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพทุกปี ซึ่งจะมีปริมาณความคุ้มครองและค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามแต่ละแผน และมีข้อจำกัดในการรับประกัน ซึ่งผู้ใช้จะต้องตรวจสอบและเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของตนเอง

  • โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถเลือกทำประกันสุขภาพได้ 2 รูปแบบ อย่างแรกคือการทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย เข้าโรงพยาบาล ตรวจเจอโรคไหนที่ครอบคลุมอยู่ในกรมธรรม์ก็คุ้มครอง
  • ส่วนอย่างที่สองจะเป็นการเลือกซื้อสัญญาแนบท้ายประกันชีวิต ซึ่งสามารถแยกซื้อตามรูปแบบความคุ้มครอง ตามโรคที่ต้องการเฝ้าระวัง ได้ จึงทำให้เบี้ยประกันของแบบแยกซื้อนั้นถูกกว่า
  • ซึ่งจริงๆ ถ้าเปรียบเทียบกับประกันแบบเหมาจ่าย ที่จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกันในกรณีเจ็บป่วย ตามทุนประกันที่ได้เลือกแผนประกันไว้ ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล OPD, IPD จึงทำให้มีเบี้ยประกันสูงกว่า
  • สำหรับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย นอกเหนือจากความคุ้มครองในรูปแบบของการทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลแบบเป็นครั้งๆ ไปแล้ว ยังมีรูปแบบความคุ้มครองที่เรียกว่า “เจอ จ่าย จบ” อีกด้วย
  • เป็นการทำเรื่องเบิกแบบครั้งเดียวตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แล้วรับเงินก้อนไปรักษาเองได้เลย
  • เพื่อความสะดวกและอุ่นใจมากกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น คุณทำประกันโรคมะเร็งแบบเหมาะจ่ายเจอจ่ายจบไว้ที่ 2,000,000 บาท วันใดวันหนึ่งขึ้นมาตรวจเจอโรคนั้น ทางประกันก็จะจ่ายเช็คให้คุณทันที 2 ล้าน เพื่อให้คุณไปจัดสรรค่ารักษาเอาเอง

ประกันสุขภาพมีบริษัทอะไรบ้างในแต่ละราคา

ปัจจุบันการทำประกันสุขภาพนั้นมีมากมายหลายบริษัท มีมากมายหลายรูปแบที่มาให้ท่านสามารถเลือกพิจารณาความคุ้มครองและราคาของเบี้ยประกันต่างๆ ในบทความนี้เรามายกตัวอย่างบริษัทประกันสุขภาพมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

บริษัทประกันสุขภาพ

ชื่อประกันสุขภาพแต่ละบริษัท รายละเอียดความคุ้มครอง
AIA Health Happy จากเอ ไอ เอ อายุรับประกัน : 6-75 ปี ต่ออายุถึง 84 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี
แผนประกัน : มี 4 แผน คือ แผน 1 ล้านบาท, แผน 5 ล้านบาท, แผน 15 ล้านบาท และแผน 25 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 1,500 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : 1,000 บาท/วัน ค่ายากลับบ้าน : 20,000 บาท/ครั้ง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง ค่าล้างไต เคมีบำบัด เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : ไม่มี  กรณีป่วยด้วยโรคร้ายแรง : เพิ่มความคุ้มครองเป็น 2 ล้านบาท ในปีที่ตรวจพบ 6 โรคที่กำหนด และต่อเนื่องรวม 4 ปีกรมธรรม์ เงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต : 10,000 บาท
BLA Happy Health จากกรุงเทพประกันชีวิต           อายุรับประกัน : 11-80 ปี และสามารถซื้อความคุ้มครองต่อไปได้เท่ากับระยะเวลาเอาประกันภัยของสัญญาประกันชีวิต สูงสุดถึงอายุ 99 ปี
แผนประกัน : มี 3 แผน คือ แผน 5 แสนบาท, แผน 1 ล้านบาท และแผน 5 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ครั้ง  ค่าห้อง : จ่ายตามจริงตามค่าห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาลนั้น (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : 20,000 บาท/ครั้ง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : 2,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : ไม่คุ้มครอง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : ไม่คุ้มครอง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : 100,000 บาท/ปี กรณีนอนโรงพยาบาลด้วยโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง : เพิ่มความคุ้มครองอีก 10% เป็น 1,100,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 / 30,000 / 50,000 / 100,000 บาท/ครั้ง
Health Fit DD จากไทยประกันชีวิต           อายุรับประกัน : 1 เดือน – 80 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี (อายุ 1 เดือน – 5 ขวบ ซื้อได้เฉพาะแผนที่มีความรับผิดส่วนแรกเท่านั้น)
 แผนประกัน : มี 4 แผน คือ แผน 1 ล้านบาท, แผน 5 ล้านบาท, แผน 15 ล้านบาท และแผน 30 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 2,000 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : 20,000 บาท/ครั้ง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 / 30,000 / 50,000 บาท/ครั้ง
D Health Plus จากเมืองไทยประกันชีวิต           อายุรับประกัน : อายุ 11-90 ปี และคุ้มครองสูงสุดถึง 99 ปี
แผนประกัน : มี 2 แผน คือ แผน 1 ล้านบาท และแผน 5 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ครั้ง ค่าห้อง : เหมาจ่ายตามจริง แต่รวมทุกรายการแล้วไม่เกินค่าห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาล (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : 20,000 บาท/ครั้ง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : ไม่คุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 / 20,000 / 50,000 บาท/ครั้ง
Precious Care จาก FWD           อายุรับประกัน : 6-75 ปี ต่ออายุได้ถึง 84 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี
 แผนประกัน : มี 6 แผน คือ แผนบรอนซ์ (1 ล้าน), ซิลเวอร์ (3 ล้าน), โกลด์ (6 ล้าน), แพลทินัม (12 ล้าน), แซฟไฟร์ (40 ล้าน) และไดมอนด์ (100 ล้าน) ตัวอย่างความคุ้มครองแผนบรอนซ์ 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 2,500 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : เหมาจ่ายตามจริง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : 3,000 บาท/ปี ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 และ 30,000 บาท/ครั้ง
Tokio Good Health จากโตเกียวมารีนประกันชีวิต           อายุรับประกัน : 1 เดือน 1 วัน – 70 ปี (ต่ออายุได้ถึง 84 ปี คุ้มครองถึง 85 ปี)
 แผนประกัน : มี 9 แผน ตั้งแต่ 5 แสนบาท จนถึง 120 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน VIP 3000 วงเงิน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 3,000 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : เหมาจ่ายตามจริง ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : 8,000 บาท ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : 5,000 บาท/ปี (สามารถใช้ตรวจสุขภาพประจำปี หรือฉีดวัคซีนได้) ค่าเตียงเสริมบิดา-มารดา สำหรับผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปี : 3,000 บาท/วัน ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ เช่น เฝือกอ่อน อวัยวะเทียมนอกร่างกาย : 8,000 บาท/ปี ค่าพยาบาลเฝ้าไข้เมื่อพักฟื้นที่บ้าน : 1,000 บาท/วัน กรณีป่วยด้วยโรคร้ายแรง 18 โรคที่กำหนด : เพิ่มความคุ้มครองเป็น 2 ล้านบาท
ปลดล็อก สบายกระเป๋า จากอลิอันซ์ อยุธยา อายุรับประกัน : 11-69 ปี (ต่ออายุสัญญาได้ถึงอายุ 89 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี)
แผนประกัน : มีแผนเดียวคือ วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 2,000 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : 1,000 บาท/วัน ค่าบริการพยาบาล : 500 บาท/วัน ค่ายากลับบ้าน : 1,000 บาท  ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีและค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการก่อนเป็นผู้ป่วยใน 30 วัน และหลังออกจากโรงพยาบาล 60 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : ไม่คุ้มครอง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 และ 30,000 บาท/ปี
Super Health จากอาคเนย์ประกันชีวิต           อายุรับประกัน : 11-70 ปี  (ต่ออายุได้ถึง 80 ปี)
แผนประกัน : 4 แผน วงเงิน 5 แสน, 1 ล้าน, 2 ล้าน และ 3 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 4,000 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : 2,000 บาท/วัน ค่ายากลับบ้าน : 2,000 บาท/ครั้ง  ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 8 ครั้ง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : ไม่คุ้มครอง
ลักซ์ชัวรี่ แคร์ จากซัมซุงประกันชีวิต           อายุรับประกัน : 30 วัน – 65 ปี (ต่ออายุได้ถึง 98 ปี ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี)
แผนประกัน : 7 แผน ตั้งแต่ 5 แสน – 30 ล้านบาท ตัวอย่างความคุ้มครองแผน 1.5 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาล : เหมาจ่ายตามจริงไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ค่าห้อง : 2,500 บาท/วัน (ICU จ่ายตามจริง) ค่าแพทย์ : เหมาจ่ายตามจริง ค่ายากลับบ้าน : 20,000 บาท/ครั้ง  ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน-หลังนอนโรงพยาบาล 30 วัน : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชม. : เหมาจ่ายตามจริง ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังนอนโรงพยาบาล (เช่น กายภาพบำบัด) : เหมาจ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 15 ครั้ง ค่าล้างไต เคมีบำบัด-เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษาโรคมะเร็ง : เหมาจ่ายตามจริง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก : 3,000 บาท/ปี ค่ารักษาพยาบาลจากการผ่าตัดจากความผิดปกติที่เกิดจากโรคหรืออาการหยุดหายใจขณะหลับ : จ่ายตามจริง (สูงสุด 1 ครั้ง/รอบปีกรมธรรม์ประกันภัย) ความรับผิดส่วนแรกต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง : 0 / 25,000 / 50,000 บาท/ครั้ง

ก่อนที่คุณจะทำการซื้อประกันสุขภาพควรพิจารณาเงื่อนไขของแต่ละบริษัทให้ดี เพราะเป็นการซื้อบริการและความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาเลือกซื้อประกันสุขภาพให้เหมาะกับตัวเอง ได้แก่ การประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสม เงื่อนไขการรับประกัน การเรียกร้องสินไหม ผู้ดูแลและให้บริการ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามความเหมาะสม และค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับตัวคุณเองด้วย

วิธีเลือกซื้อประกันสุขภาพรายเดือน ให้ได้เบี้ยหลักร้อยควรเลือกแบบไหน

5 วิธีเลือกซื้อประกันสุขภาพรายเดือน

ประกันสุขภาพเดือนละ 300-1000 บาท ต้องเลือกซื้อแบบไหนถึงจะคุ้มค่า และตรงกับงบประมาณที่กำหนดไว้เรามาดูไปพร้อมกันเลย

เลือกซื้อเฉพาะประกันโรคร้ายแรงก่อน

  • การเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงเป็นหลักก่อน จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายสุขภาพได้
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรง ซึ่งค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งร้ายแรงอาจมีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาการรักษาอยู่ที่ตั้งเเต่หลักล้าน หรือสิบล้านบาทได้
  • ขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรคมะเร็งที่เกิดขึ้น วิธีการรักษาที่เลือกใช้ ระยะเวลาการรักษา และสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
  • ทำให้นอกจากจะมีค่ารักษาพยาบาลในระหว่างการรักษาแล้วเเล้ว ยังอาจมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยทั้งในระหว่างรักษา หรือแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายในช่วงพักฟื้นหลังการผ่าตัดร่วมด้วย
  • ประกันโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองคลอบคลุมทุกโรคมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงที่มักมีความเสี่ยงในการเกิดโรคสูง และตรวจพบได้บ่อยในผู้ป่วยชาวไทย
  • โดยให้ความคุ้มครองเมื่อตรวจพบโรคมะเร็งในทุกระยะ รวมถึงให้ความคุ้มครองครบตลอดระยะเวลาการรักษาในแบบเหมาจ่ายตามจริง หรือตามวงเงินที่กำหนด ทั้งค่าห้องพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้อง
  • โดยบางแบบประกันอาจให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในรูปแบบแบบเงินก้อนชดเชยการขาดรายได้ หรือค่าเดินทางเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเข้ามาด้วย
  • ประกันโรคร้ายแรงจึงเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาประกันสุขภาพ เดือนละ 300 บาท หรือประกันสุขภาพ เดือนละ 500 บาท ที่ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงเป็นหลัก

เลือกซื้อเฉพาะประกันสุขภาพ IPD OPD ก่อน

  • หากโรคร้ายแรงยังไม่ใช่ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่กังวลใจมากที่สุด การเลือกซื้อประกันสุขภาพ IPD OPD
  • สำหรับการเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องเข้านอนรักษา จากอาการเจ็บป่วยทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน หรือการเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน จากอาการเจ็บป่วยกระทันหัน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาประกันสุขภาพที่มีเบี้ยรายเดือนถูก
  • ค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย วิธีการรักษาตามความเห็นของแพทย์ และสถานพยาบาลที่เลือกใช้บริการ
  • โดยหากเป็นอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ปวดหัวตัวร้อน เวียนหัว หรือท้องเสียอาหารเป็นพิษอาจสามารถเข้ารับการตรวจโรค และรับยาเพื่อไปรักษาอาการต่อที่บ้านได้โดยไม่ต้องแอดมิดในโรงพยาบาล

เลือกซื้อเฉพาะประกันสุขภาพเหมาจ่ายเท่านั้น

  • การรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเฉพาะทางขั้นสูงในการรักษา หรืออาการเจ็บป่วยที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • อาจทำให้วงเงินการรักษาในประกันสุขภาพประเภทประกันโรคมะเร็ง หรือประกัน IPD OPD หมดไปอย่างรวดเร็ว
  • ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจึงเหมาะที่จะใช้เตรียมรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงเป็นพิเศษ หรือมีระยะเวลาในการรักษาที่ยาวนานกว่าปกติ
  • ซึ่งแม้ว่าเบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายอาจมีเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประกันสุขภาพประเภทอื่นๆ แต่จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่านั่นเอง

เลือกทำประกันภัยสุขภาพ แบบไหนถึงเหมาะกับช่วงอายุ

6 เลือกทำประกันภัยสุขภาพ

คนยุคนี้หันมาใส่ใจกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น ด้วยการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอกผ่านการตรวจสุขภาพประจำปี ทานอาหารครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมต่อสู้โรคร้ายที่อาจมาเยือนโดยไม่รู้ตัว

การซื้อประกันภัยสุขภาพถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่หลายคนให้ความสนใจ แต่ไม่รู้ว่าควรทำประกันภัยสุขภาพตอนช่วงอายุเท่าไหร่เราไปดูพร้อมๆกันเลย

  1. วัยเด็ก (แรกเกิด – อายุ 5 ปี)
  • สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ถือเป็นช่วงวัยที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย
  • การทำประกันภัยสุขภาพติดไว้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาลเมื่อลูกเจ็บป่วย ทั้งยังเป็นหลักประกันคุ้มครองรายได้ในอนาคตถ้าพบว่าลูกของคุณมีโรคประจำตัวเพิ่มเติม
  • วงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์จะกลายเป็นเงินทุนสำหรับรักษาตัว โดยผู้ปกครองอาจสมัครประกันภัยสุขภาพเหมาจ่ายที่กำหนดเพียงวงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบต่อครั้งต่อโรค หรือต่อปี
  • โดยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันสูงสุดให้ลูกน้อย พร้อมให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาลด้วย
  1. วัยเรียนและวัยรุ่น (อายุ 6 – 20 ปี)
  • นอกเหนือไปจากประกันภัยสุขภาพที่ควรมีในวัยเรียนแล้ว ผู้ปกครองควรเสริมประกันภัยอุบัติเหตุเข้าไปสักฉบับ เพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีเจ็บป่วยที่เกิดจากอุบัติเหตุ
  • เนื่องจากช่วงวัยดังกล่าวมีโอกาสทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • โดยประกันภัยชนิดนี้เข้ามาดูแลค่ารักษาพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะหกล้ม ถูกรถชน สุนัขกัด หรือโดนของมีคมบาด เป็นต้น
  1. วัยเริ่มทำงาน (อายุ 21 – 30 ปี)
  • สำหรับช่วงอายุนี้ถือเป็นวัยสร้างตัว เพราะเริ่มทำงานและมีรายได้เป็นของตัวเอง นอกเหนือจากสวัสดิการที่รัฐมอบให้แก่ผู้ประกันตน ม.33 หรือลูกจ้างอย่างสิทธิประกันสังคมที่เข้ามาดูแลค่ารักษาพยาบาล
  •  คุณสามารถวางแผนลดหย่อนภาษี ด้วยการทำประกันภัยสุขภาพซึ่งช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้
  • แถมได้รับการดูแลด้านค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมกว่า ทั้งค่าห้อง ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าบริการรถพยาบาล ค่าปรึกษาแพทย์พิเศษ รวมถึงมีเงินชดเชยรายได้ ที่สำคัญผู้ทำประกันภัยมีโรงพยาบาลให้เลือกเข้ารับการรักษามากกว่าประกันสังคม
  1. วัยสร้างความมั่นคง (อายุ 31 – 50 ปี)
  • เป็นช่วงเวลาที่หลายคนเริ่มมีเงินเก็บ พร้อมวางแผนการเงินเพื่อความมั่นคงให้แก่ตนและครอบครัวผ่านการเปิดบัญชีฝากประจำ ลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน กองทุนรวม ไปจนถึงซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพิ่มเติม
  • นอกเหนือประกันภัยสุขภาพและประกันภัยอุบัติเหตุที่เป็นหลักประกันให้กับชีวิตในด้านค่ารักษาพยาบาล นั่นคือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่ช่วยให้คุณเก็บออมเงินได้มากขึ้น
  • ทั้งเป็นหลักประกันว่าถ้าวันหนึ่งคุณในฐานะผู้ทำประกันเสียชีวิตลง ครอบครัวจะไม่เดือดร้อนเพราะบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินตามความคุ้มครองให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามที่คุณระบุไว้ในกรมธรรม์
  1. วัยเกษียณอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
  • แม้คนวัยนี้แทบไม่มีภาระอะไร แต่ยังต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเหมือนเดิม คงไม่ดีแน่หากเจ็บป่วยแล้วดึงเงินออม เงินบําเหน็จ หรือเงินบำนาญมาจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจนหมด
  • ดังนั้นใครที่ไม่เคยมีประกันภัยสุขภาพมาก่อน ควรมองหาประกันภัยสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทั้งในฐานะผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก หรือรับเงินชดเชยรายวันกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ
  • บางคนอาจเลือกทำประกันภัยสุขภาพพ่วงประกันชีวิตแม้เบี้ยประกันค่อนข้างสูง แต่ได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพควบคู่กับการวางแผนประกันชีวิตไปพร้อม ๆ กัน

สรุป

การทำประกันภัยสุขภาพมีความสำคัญต่อทุกช่วงชีวิตของเรามาก แต่หากถามว่าอายุเท่าไหร่ควรทำประกันภัยสุขภาพ ควรเลือกซื้อประกันภัยสุขภาพบริษัทไหนดี ควรเลือกที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการดูแลทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยในโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ควรเลือกประกันที่ดีและสะดวกกับการใช้งานสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพวกคุณเองด้วยเช่นกัน

 

halo icon removebg preview

เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี

การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้