ปัจจุบันยังมีอีกหลายๆคน ที่ไม่ทราบว่าเราจะสามารถทำรายได้จากการเล่นอินเทอร์เน็ต ทั้งที่ในความเป็นจริง แม้จะไม่ใช่ทุกคน แต่ก็อีกมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายนี้ จนสามารถหารายได้มากพอที่จะใช้เลี้ยงชีพได้อย่างสบาย ๆ
ซึ่งหนึ่งในวิธีการหาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต ก็คือการเป็น ผู้สร้างเนื้อหา บนแพลตฟอร์มวิดีโอชั้นนำของโลกจาก YouTube ที่เรียกว่า ยูทูบเบอร์ หรือYouTuber ในบทความนี้เราจะมาส่องรายได้ ยอดวิวจาก Youtube ว่าจริงๆแล้วมันสามารถสร้างรายได้ให้กับ ยูทูบเบอร์ เท่าไหร่กัน
YouTube คืออะไร
- เว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำเทคโนโลยีของ Adobe Flash Player มาใช้ในการแสดงภาพวิดีโอ
- โดยผู้ใช้สามารถเข้าดูวีดีโอต่างๆ พร้อมทั้งเป็นผู้อัปโหลดวีดีโอ ผ่าน Youtube ได้ฟรี
- เมื่อสมัครสมาชิกแล้วผู้ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพวิดีโอให้คนอื่นดูด้วย แต่หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน Youtube ได้ แต่ไม่สามารถเป็นผู้อัปโหลดวีดีโอได้
- วิดีโอที่สามารถอัปโหลดลง Youtube ได้ ต้องมีความยาวไม่เกิน 15 นาที ยกเว้นวิดีโอจากพาร์ทเนอร์ของ Youtube ที่ได้รับอนุญาตจาก Youtube ขนาดของไฟล์ไม่เกิน 2 GB
- Youtube สามารถรับ file วิดีโอที่อัปโหลดเข้ามาในนามสกุลต่าง ๆ ได้แก่
- .AVI
- .MOV
- .MP4
- .FLV
- .DivX
- MPEG
- VOB
- .WMV
- นอกจากนี้ยังรองรับไฟล์สกุล 3GP ที่อัปโหลดเข้ามาทางโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
- ในการรับชมวีดีโอต่างๆผ่าน Youtube นั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกชมวิดีโอในโหมดคุณภาพต่างๆ กัน ตามความชอบและตามความเหมาะสม ของความเร็วในการดาวน์โหลด ได้แก่
- standard quality (SQ)
- high quality (HQ)
- high definition (HD)
- โดยการรับชมวิดีโอจากเว็บไซต์ แรกเริ่มผู้ชมต้องติดตั้ง Adobe Flash Player ลงในเว็บเบราเซอร์จึงจะสามารถรับชมวิดีโอได้
- แต่ในปัจจุบัน ยูทูบได้เปิดให้บริการเว็บ ในเวอร์ชั่นใหม่ ให้สามารถชมวิดีโอได้ผ่านเว็บเบราเซอร์ใดๆ ที่รองรับมาตรฐาน HTML5 ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Flash Player อีกต่อไป
Youtube สร้างรายได้ยังไง
YouTube ถือเป็นแพลตฟอร์มในการสร้างรายได้ง่ายๆ โดยจะเห็นได้จากสถิติของคนที่เข้าใช้งานมากถึง 1900 ล้านคนต่อเดือน และเมื่อเฉลี่ยต่อนาทีมีคลิปวีดีโอกว่า 500 คลิปถูกอัปโหลดลงไปเผยแพร่บนYouTube ในการสร้างรายได้โดยวิธีการต่างๆ ดังนี้
เข้าร่วมโปรแกรม YouTube Partner
- เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ง่ายเพียงแค่ติดตั้งบัญชี AdSense ก็สามารถทำให้ผู้ใช้งาน YouTube สามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ
- สามารถสร้างรายได้ให้กับช่องของคุณไม่ว่าจะเป็น โฆษณาของวีดีโอ ค่าธรรมเนียมการสมัคร YouTube Premium การสมัครเป็นสมาชิกและ Super Chat ต่างๆ
- โดยในการเข้าใช้โปรแกรม YouTube Partner มีขั้นตอนในการเริ่มต้นดังต่อไปนี้
- เริ่มต้นด้วยการเปิดช่อง YouTube เป็นของตนเอง
- จะต้องเพิ่มจำนวนผู้ติดตามของช่องให้ได้ 1000 คน และมีจำนวนการรับชมคลิปวีดีโอรวมกันมากกว่า 4000 ชั่วโมงในระยะเวลา 1 ปีเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ YouTube Partner
- เมื่อได้ตามข้อกำหนดแล้วติดตั้งบัญชี AdSense
- หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มรายได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น
- รายได้จากโฆษณา
- รายได้จากการสมัครสมาชิกของ YouTube Premium
- รายได้จากการสมัครสมาชิกของช่อง
- รายได้จากการขายของ
- รายได้ช่องทางอื่นๆ อีกมากมาย
- ขยันทำการตรวจสอบช่องของตัวเองอยู่เสมอๆ โดยจะต้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางของโปรแกรม Youtube
ขายสินค้าในแบรนด์ของตัวเอง
ถ้าหากคุณมีสินค้าของตัวเองคุณสามารถใช้สินค้าของคุณเองเป็นตัวช่วยสร้างรายได้ให้กับช่อง Youtube ของคุณ โดยอาจมีขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สามารถใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์สินค้าที่เป็นของตัวคุณเอง
- จัดหาแหล่งที่มาหรือแหล่งผลิต ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะหากคุณได้แหล่งผลิตที่ดีจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลหรือปวดหัวกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่ง การเก็บสินค้าหรือการคืนสินค้า
- ทำการสร้างเพจเพื่อทำการติดต่อซื้อขายกับลูกค้าอย่างเป็นทางการหรือจะให้ลูกค้าที่เข้ามารับชมคลิปวีดีโอของคุณคลิกผ่านลิงก์ที่ช่องของคุณได้โดยตรง
- ทำการโปรโมทสินค้าของคุณในช่องของคุณเองหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ของตัวคุณเอง
สร้างเนื้อหาคลิปวีดีโอเกี่ยวกับสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนคุณ
เมื่อคุณมีผู้รับชมจำนวนมากคุณอาจจะได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์หรืออยากจะได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ คุณก็สามารถสร้างเนื้อหาของคลิปวีดีโอที่มีความสอดคล้องกับแบรนด์เหล่านั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง โดยอาจมีขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- มองหาแบรนด์ที่คุณสนใจ โดยคุณภาพของแบรนด์ถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
- ทำข้อตกลงกับทางแบรนด์ โดยเฉลี่ยแล้ววีดีโอบน YouTube ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการสนับสนุนสูงที่สุด
- ทำตามนโยบายของโฆษณาที่ได้ตกลงกันไว้ ตามนโยบายของทางโฆษณา Google
ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือโปรแกรม Affiliate
- การมองหาแบรนด์ที่มีการทำการตลาดแบบออนไลน์หรือการตลาดแบบ Affiliate จะสามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับช่องของคุณได้
- เนื่องจากเมื่อผู้ชมของคุณเลือกคลิกเข้าชมผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ ผ่านลิงก์ของคุณ คุณก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์จากยอดขายไปด้วย
- ในการทำ Affiliate Program คุณไม่จำเป็นต้องมีสินค้าใดๆ สามารถแนะนำเพื่อนใช้บริการ software เช่น Tubebuddy ก็ได้ เพราะว่า Youtuber จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว หรือจะเป็น Link อื่นๆ ที่ขายสินค้าก็ได้
- โดยขั้นตอนในการเริ่มต้นนั้นจะคล้ายๆกันกับ การสร้างเนื้อหาคลิปวีดีโอเกี่ยวกับสปอนเซอร์ที่กล่าวไว้ด้านบน
โน้มน้าวให้ผู้รับชมหรือแฟนคลับของคุณสามารถให้การสนับสนุนคุณโดยตรงได้
- กลยุทธ์ในการที่จะให้แฟนคลับนั้นสนับสนุนคุณโดยตรงนั้นมีความคล้ายคลึงกับการถ่ายทอดสดหรือการสตรีมเป็นอย่างมาก
- โดยสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ ช่องทางในการสนับสนุนของช่องคุณนั้นจะต้องสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อนและมีความชัดเจน โดยอาจมีขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- การถ่ายทอดสดหรือการสตรีมสดโดยการใช้ Super Chat โดยจะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีการถ่ายทอดสดผ่านโปรแกรม YouTube Partner
- โน้มน้าวให้แฟนคลับเป็นสมาชิกช่องของคุณ โดยการกด JOIN โดยแลกกับการที่สมาชิกจะได้รับอีโมจิและสิทธิ์ในการเข้าถึงที่พิเศษเฉพาะสมาชิก
- โน้มน้าวให้แฟนคลับสมัครเป็นสมาชิกของ YouTube Premium ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีผลต่อรายได้ช่องของคุณทางอ้อม
การระดมทุนหรือการขอรับบริจาค
- การขอรับเงินบริจาคทางออนไลน์ในปัจจุบันก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้ในทั่วไป
- ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำที่มีขนาดใหญ่หรือกลุ่มขนาดเล็ก โดยอาจมีขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- โปรโมตแคมเปญของคุณในวีดีโอของคุณเอง คุณสามารถอธิบายเพื่อให้รายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ผู้ชมของคุณตัดสินใจว่าเขาจะต้องบริจาคมากหรือน้อยขนาดไหน
- สามารถเลือกใช้หลายๆ แพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์
อนุญาตให้สื่ออื่นๆสามารถเผยแพร่เนื้อหาที่คุณสร้างขึ้นได้
- หากเนื้อหาที่คุณเผยแพร่นั้นเป็นที่สนใจของคนส่วนมาก การให้สิทธิ์กับสื่ออื่นๆ ในการเผยแพร่นั้นจะช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้บน YouTube ได้
- โดยการลงคลิปสม่ำเสมอ และอัปเดตช่องทางการติดต่อคุณในหน้าโปรไฟล์ช่องของคุณ
- โดยรายได้ที่ได้จากการทำช่อง YouTube นั้นต้องอาศัยโปรแกรม Adsense เป็นอย่างมากเนื่องจากเจ้าของช่องจะได้รับรายได้จากจำนวนการรับชมโฆษณาที่ปรากฎในคลิปวีดีโอของคุณ
- ซึ่งอัตรารายได้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาคของคนที่เข้ารับชม
- คุณจะเห็นว่ารายได้จาก YouTubeนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะมีหลากหลายช่องทางในการสร้างรายได้
วิธีการสร้างรายได้จาก YouTube และเงื่อนไขในการจ่ายเงิน
- การจะสร้างช่อง YouTube ที่จะให้ประสบความสำเร็จได้ เป็นงานที่ไม่ง่าย และมีความท้าทายสูง ต้องขยันอัปโหลดวิดีโออย่างสม่ำเสมอ
- อาจใช้เวลาอยู่นานหลายปี กว่าที่ช่องจะประสบความสำเร็จ มีผู้ติดตามจนสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
วิธีสร้างรายได้จาก YouTube
- การเริ่มต้นสร้างรายได้บน YouTube นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าเงื่อนไขแรกในการรับสิทธิ์ที่จะหารายได้ คือทางช่องจะต้องตั้งค่าเปิดคุณสมบัติ Monetization หรือ การสร้างรายได้ ให้ช่องของคุณเสียก่อน
- โดยการจะปรับค่าดังกล่าวได้ มีเงื่อนไขที่จัดว่ายาก สำหรับคนธรรมดา ที่ไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเสียง ต้องมีเงื่อนไขดังนี้
- ช่องของคุณจะต้องมีผู้ติดตามช่องอย่างน้อย 1,000 คน
- คลิปวิดีโอของคุณจะต้องมีคนรับชมวิดีโอแบบสาธารณะอย่างน้อย 4,000 ชั่วโมง
- นี้เป็นเงื่อนไขที่ใถ้าหากว่า คุณไม่ได้มีคลิปวิดีโอที่ประสบความสำเร็จจนติดอันดับยอดฮิต ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นเงื่อนไขที่ยาก และต้องใช้เวลาสะสมนานพอสมควร
- หลังจากที่คุณผ่านเงื่อนไขที่ทาง YouTube กำหนดเอาไว้ได้แล้ว การสร้างรายได้ของคุณถึงจะเริ่มต้นขึ้น
- การจ่ายเงินของ YouTube จะไม่ได้มีจำนวนเงินตายตัวเหมือนกับเงินเดือน โดยจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับ จำนวนยอดวิว ของคลิปที่คุณมีอยู่ภายในช่องคุณ
เงื่อนไขในการจ่ายเงินของ YouTube
ช่องทางรายได้ที่ทาง YouTube จะจ่ายให้กับทาง Youtuber มาได้จากหลายช่องทาง คือ
- Advertisement >>> การโฆษณา
- YouTube Premium >>> ยูทูปพรีเมี่ยม
ผู้ชมที่ใช้ YouTube Premium จะไม่เจอโฆษณา แต่เจ้าของช่องจะได้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากผู้ชมที่ใช้งาน YouTube Premium แทนค่าโฆษณา
- YouTube Membership >>> ค่าสมาชิกของช่อง
- Merchandising >>> การขายสินค้า
- Super Chat & Super Stickers >>> การซื้อข้อความแชทสดที่มีความโดดเด่น
การคิดรายได้จากยอดวิว
- ยอดวิว ของคลิปที่คุณได้อัปโหลดเข้าไปใน Youtube จะกลายเป็นรายได้ให้เจ้าของช่อง โดยยอดวิวยิ่งเยอะ >>> รายได้ยิ่งสูงตาม
- แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกยอดวิวที่จะถูกนำมาคำนวณเป็นรายได้ที่ทาง YouTube จะจ่ายให้กับคุณ
วิธีนับยอดวิวของ YouTube
ทางระบบของ YouTube จะนับยอดวิวให้คุณต่อเมื่อผู้ชม ใช้เวลาดูคลิปเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วินาที โดยที่ไม่จำเป็นต้องรับชมต่อเนื่อง เช่น
- คุณอาจจะรับชมทีเดียวมากกว่า 30 วินาที หรือดูครั้งละ 10 วินาที แล้วปิด ผ่านไป
- อีกวันมาดูต่ออีก 20 วินาที ก็ได้เช่นกัน ครบอย่างน้อย 30 วินาทีเมื่อไหร่ จึงจะนับเป็น 1 ยอดวิว
- ส่วนรายได้ที่เจ้าของช่องจะได้ นั้นมาจากยอดวิวโฆษณาที่ปรากฏบนคลิป
- ผู้ชมจะต้องรับชมโฆษณาที่แสดงผลบนคลิปวิดีโอของคุณอย่างน้อย 30 วินาที ถึงจะนับเป็น 1 วิว ที่มีรายได้
- หากเราดู โฆษณาบนคลิปวิดีโอ ครบ 30 วินาที เจ้าของช่องจะมีรายได้เกิดขึ้น และได้ยอดวิวให้คลิปดังกล่าวเพิ่ม แต่ในทางตรงกันข้าม หากเราดู คลิปวิดีโอ โดยที่ไม่ได้ดูโฆษณารายได้ก็จะไม่เกิดขึ้น
สรุปง่ายๆก็คือ
- ยอดวิว จะเกิดขึ้นเมื่อมีการดู >>> คลิปวิดีโอ >>> อย่างน้อย 30 วินาที
- รายได้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการดู >>> โฆษณาบนคลิปวิดีโอ >>> อย่างน้อย 30 วินาที
หรือเกินครึ่งของช่องเวลาโฆษณา ในกรณีที่เป็นโฆษณาแบบคลิปสั้น
ทำไมบางคลิปวิดีโอที่ลงไปไม่สามารถสร้างรายได้
- ปัจจัยสำคัญของการสร้างรายได้ คือ มีคนดู โฆษณาบนคลิปวิดีโอ อย่างน้อย 30 วินาที
- ในทางทฤษฎี เมื่อเราดูคลิปครบ 30 วินาที เราก็จะดูโฆษณา ครบ 30 วินาทีไปด้วยโดยปริยาย
- คลิปที่สามารถสร้างรายได้จากโฆษณาได้ จะต้องมีเนื้อหาที่ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของ YouTube อย่างถูกต้อง
- กฎข้อบังคับก็มีหลายระดับ ในกรณีที่คุณทำผิดกฎจะมีผลตามมาได้หลายรูปแบบ เช่น คุณสามารถอัปโหลดได้ แต่ไม่สามารถหารายได้จากมันได้ เพราะบางส่วนในวิดีโอมีเนื้อหาที่ติดลิขสิทธิ์อยู่ หรือคลิปมีความยาวสั้นเกินไป
- ถ้าหากคุณทำถูกต้องตามกฎทุกข้อของ Youtube ก็จะมีโฆษณาแสดงในคลิปของคุณ
- อย่างไรก็ตาม หลายๆคนเกลียดโฆษณา และหาทางในการปิดกั้น จากผลการสำรวจ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก ที่ใช้งานซอฟต์แวร์ปิดกั้นโฆษณา และสิ่งนี้ก็ส่งผลต่อรายได้ของผู้ที่เป็น ยูทูบเบอร์ ของ YouTube โดยตรง
- ยอดวิวคลิปจากผู้ชมที่ปิดกั้นโฆษณาบนเว็บ YouTube จะไม่ก่อให้เกิดรายได้กับทางช่องของคุณ
วิธีคำนวณรายได้จากยอดวิวบน YouTube
- เมื่อมีคนรับชมโฆษณาในคลิปเราครบอย่างน้อย 30 วินาที ทาง YouTube จะเริ่มคำนวณรายได้เพื่อจ่ายเงินให้เรา
- อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยหลายด้านที่ถูกนำมาคำนวณ ซึ่งทาง YouTube เรียกรายได้ที่จ่ายให้เจ้าของช่องว่า RPM (Revenue Per Mile) เช่น
- ประเทศที่ผู้สร้างช่องอาศัยอยู่
- ประเภทของเนื้อหา
- จำนวนผู้กดติดตาม (Subsribers)
- การ Engagement
RPM (Revenue Per Mile) คืออะไร
- รายได้ต่อยอดดู 1,000 ครั้ง ค่า RPM ของแต่ละช่องจะมีค่าไม่เท่ากัน และสามารถแตกต่างกันได้หลายเท่า
- โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่ RPM $0.5 หรือประมาณ 16.76 บาท ไปจนถึง RPM $200 หรือประมาณ 6,702 บาท
- โดยรายได้นี้มีแค่เจ้าของช่องเท่านั้นที่สามารถมองเห็นค่านี้ได้ โดยค่านี้จะไม่ได้คำนวณจากยอดวิวคลิปเพียงอย่างเดียว แต่จะนับรวมรายได้ทั้งหมดของช่องที่เกิดขึ้น รวมเป็นรายได้จริงที่ได้รับหลังจากหักส่วนแบ่งรายได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมาจาก
- โฆษณา
- YouTube Premium
- การเป็นสมาชิกของช่อง
- Super Chat และ Super Stickers
ยอดวิว youtube 1 ล้านวิว เท่ากับกี่บาท 1 หมื่นวิวได้กี่บาท 1000 วิวได้กี่บาท
สำหรับในประเทศไทยแล้วเมื่อช่วงต้นปี ค่า CPM หรือยอดวิวจากการรับชมโฆษณา ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ $0.27 หรือประมาณ 9.05 บาทไทย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่าเงินในแต่ละช่วงด้วยนั้นเอง
เราสามารถคิดรายได้จากยอดวิวง่ายๆจากการเทียบบัญญัติไตรยางตามตารางด้านล่างนี้เลยจ้า
ยอดวิว | คิดเป็นเงิน |
1,000 วิว | 9.05 บาท |
10,000 วิว | 90.5 บาท |
100,000 วิว | 905 บาท |
1,000,000 วิว | 9,050 บาท |
10,000,000 วิว | 90,500 บาท |
100,000,000 วิว | 905,000 บาท |
เพราะฉะนั้น ยอดวิว youtube จำนวน 1 ล้านวิว สามารถคิดเป็นเงินได้ ประมาณ 9050 บาท
1 หมื่นวิว สามารถคิดเป็นเงิน 90.5 บาท และ 1000 วิวิ สามารถคิดเป็นเงิน 9.05 บาท นั้นเอง
จริงๆแล้ว รายได้จากการเป็น ยูทูบเบอร์ ของ YouTube หากจะให้อยู่รอดเป็นอาชีพหลักได้ ส่วนใหญ่จะไม่หวังพึ่งรายได้จากค่าโฆษณาเพียงอย่างเดียว เมื่อช่องของคุณประสบความสำเร็จมีฐานคนดูเยอะ ก็จะมีโอกาสที่สปอนเซอร์มาซื้อโฆษณากับคุณโดยตรง หรือจ้างคุณทำคลิปให้ ซึ่งรายได้ตรงส่วนนี้จะสูงกว่าค่าตอบแทนที่ได้จาก YouTube Ads
ยอดวิวนับยังไง
- ปัจจุบันการสร้าง Video Content ก้าวขึ้นมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการตลาดออนไลน์ โดยที่ 85% ของผู้ใช้งาน Social Media ต้องการชม Video Content จากแบรนด์ และ 93% ของบริษัทต่าง ๆ ก็ได้ลูกค้าใหม่จากการทำ Video Content
- แต่อย่างไรก็ตาม หากลองโพสต์วิดีโอลงบน Social Media คุณจะพบว่า วิดีโอบางแพลตฟอร์มมียอดวิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ในขณะที่ยอดวิวบางแพลตฟอร์มกลับไต่ระดับขึ้นอย่างยากลำบาก
- เพื่อการสร้าง Marketing Strategy ให้รองรับคอนเทนต์ประเภทนี้ คุณจึงจำเป็นต้องรู้ว่า Social Media แต่ละแพลตฟอร์ม มีวิธีการนับยอดวิวแบบใด
การนับยอดวิวบน Youtube
- Youtube แพลตฟอร์มวิดีโออันดับหนึ่งของโลก ผู้บุกเบิก Video Content มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005
- ทุก ๆ ยอดวิวมีผลต่อการสร้างรายได้มหาศาล ทำให้เจ้าของ Youtube Channel จำนวนไม่น้อยพยายามใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการปั่นยอดวิว
- เพื่อแก้ปัญหานี้ Youtube จึงปรับ Algorithm ใหม่สำหรับตรวจนับการกดดูคลิปซ้ำ ๆ
- ทางระบบมีการตรวจสอบให้มั่นใจว่ายอดวิวที่เพิ่มขึ้นมาจากคนที่กดดูคลิปจริง ๆ ไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ยูทูปนับยอดวิวอย่างไร
- วิดีโอบน Youtube จะนับเป็น 1 ยอดวิว ก็ต่อเมื่อรับชมอย่างน้อย 30 วินาที
- โดยอาจรับชมต่อเนื่อง หรือกดข้ามบางส่วน แต่เวลารับชมโดยรวมต้องครบ 30 วินาที
- ในกรณีที่วิดีโอทั้งคลิปมีความยาวไม่ถึง 30 วินาที จะนับยอดวิวเมื่อรับชมจนจบคลิป
- หากการโพสต์คลิปบน Youtube คือหนึ่งใน Marketing Strategy ของคุณ พยายามตัด Highlight มาไว้ช่วงต้นคลิป เพื่อดึงดูดให้คนกดดูคลิปนานกว่า 30 วินาที
- ไม่นับยอดวิวจากผู้ที่แสดงความคิดเห็นเป็นสแปม และหาก Algorithm ตรวจพบการกดดูซ้ำอย่างผิดปกติ อาจหยุดนับยอดวิวทันที
การนับยอดวิวจากโซเซียลอื่น ที่ไม่ใช่ Youtube
การนับยอดวิวบน Facebook
- ใน Facebook ที่คุณโพสต์คลิปไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คลิปของคุณก็มีโอกาสปรากฏบนหน้าฟีดได้ตลอดไป นี่คือวิธีการขยายฐานผู้ชมที่ Facebook เลือกใช้
- Facebook Watch มียอดการชมคลิปโดยเฉลี่ยสูงถึง 4 พันล้านครั้ง
- ในปีนี้ Facebook ก็เริ่มปรับ Marketing Strategy มาเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับทั้งวิดีโอขนาดยาว และวิดีโอขนาดสั้นในชื่อ Facebook Reels
Facebook นับยอดวิวอย่างไร
- วิดีโอบน Facebook Watch จะนับเป็น 1 ยอดวิว ก็ต่อเมื่อรับชมอย่างน้อย 3 วินาที
- โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงวิดีโอ แต่สำหรับ Facebook Reels และ Facebook Stories จะนับยอดวิวทันทีที่กดชม
- ทั้งวิดีโอบน Facebook Watch, Facebook Reels และ Facebook Stories ไม่นับยอดวิวจากการกดดูซ้ำ และไม่นับยอดวิวเมื่อเจ้าของคลิปกดดูเอง
การนับยอดวิวบน Instagram
- Instagram คือ Social Media ที่ประสบความสำเร็จจากคอนเทนต์แบบไลฟ์สไตล์
- เป็นผู้บุกเบิกวิดีโอสั้น 15 วินาที เพื่อแชร์สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอย่าง Instagram Stories จนทำให้คอนเทนต์รูปแบบนี้แพร่กระจายไปในทุกแพลตฟอร์ม
- ล่าสุด Instagram ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ตัดสินใจปรับ Marketing Strategy ให้ตอบรับกับกระแส Video Content ที่กำลังมาแรง ในชื่อ Instagram Reels เพื่อรองรับคลิปสั้นไม่เกิน 1 นาที
Instagram นับยอดวิวอย่างไร
- วิดีโอบน Instagram Feed จะนับเป็น 1 ยอดวิว ก็ต่อเมื่อรับชมอย่างน้อย 3 วินาที โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงวิดีโอ
- แต่สำหรับ Instagram Reels และ Instagram Stories จะนับยอดวิวทันทีที่กดชม
- เนื่องจาก Instagram และ Facebook อยู่ภายใต้การดูแลของ Meta เช่นเดียวกัน จึงมีหลักเกณฑ์ที่เหมือนกัน
- ทั้งวิดีโอบนฟีด Instagram Reels และ Instagram Stories ไม่นับยอดวิวจากการกดดูซ้ำ และไม่นับยอดวิวเมื่อเจ้าของคลิปกดดูเอง
การนับยอดวิวบน Tiktok
- Tiktok แพลตฟอร์มที่ทำให้ Social Media ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ต้องลุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เพื่อร่วมแข่งขันในสมรภูมิ Video Content ขนาดสั้นด้วย
- ในประเทศไทย ที่มีจำนวนผู้ใช้งาน Tiktok มากเป็นอันดับ 7 ของโลก
- ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องเพิ่มวิดีโอบน Tiktok เข้าไปใน Marketing Strategy เพื่อหวังช่วงชิงพื้นที่การตลาดให้มากขึ้น
Tiktok นับยอดวิวอย่างไร
- การนับยอดวิวบน Tiktok ไม่มีความซับซ้อน เพราะจะนับยอดวิวทันทีที่กดชมหรือปัดผ่านหน้าฟีด และการกดชมซ้ำ 1 ครั้ง ยังนับเป็น 1 ยอดวิวด้วย
- Tiktok จะไม่นับยอดวิวหากเจ้าของคลิปกดชมเอง เช่นกันเดียวกับ Facebook และ Instagram
1 แสนซับได้เงินกี่บาท
โดยรายได้จากการถูกกดซับ ของช่องยูทูปแต่ละช่องจะมีรายได้ไม่เท่ากันเพราะรายได้หลักส่วนใหญ่แล้วนั้นมาจาก โฆษณานั้นเอง ความแตกต่างอาจจะอยู่ที่ คอนเทนต์ที่เจ้าของช่องทำ และโฆษณาที่เข้ามาในช่อง ถ้ามีคนดูมากก็จะยิ่งทำให้สามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้น เรามาลองคิดกันคร่าวๆว่า 1 แสนซับจะได้เงินกี่บาท
- ถ้าคลิปวีดิโอของคุณ เมื่อมีคนรับชมโฆษณาในคลิปครบอย่างน้อย 30 วินาที ทาง YouTube จะเริ่มคำนวณรายได้เพื่อจ่ายเงินให้เรา ซึ่งทาง YouTube เรียกรายได้ที่จ่ายให้เจ้าของช่องว่า RPM (Revenue Per Mile)
- RPM (Revenue Per Mile) หมายถึง รายได้ต่อยอดดู 1,000 ครั้ง ค่า RPM ของแต่ละช่องจะมีค่าไม่เท่ากัน และสามารถแตกต่างกันได้หลายเท่า ประมาณ 16.76 บาทไปจนถึง ประมาณ 6,702 บาท
- รายได้จะมาจากยอดวิวเป็นหลัก ซึ่งมาจากโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งค่านี้จะเรียกว่าค่า CPM ส่วนในการคำนวณรายได้นั้นสามารถเลื่อนไปดูได้จากบทความด้านบนเลยจ้า
ผู้ติดตาม 1 ล้านคนได้เงินกี่บาท
- การมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนบน YouTube ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ และในทางปฏิบัติมักจะหมายความว่า ยูทูปเบอร์ สามารถหาทำเป็นอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเองได้
- สำหรับการดูโฆษณาทุกๆ 1,000 ครั้ง ผู้โฆษณาจะจ่ายเงินให้กับ YouTube ในราคาที่ตกลงกันไว้ โดย 45% จะเป็นของ YouTube และที่เหลือจะเป็นของ YouTuber
- สำหรับการสร้างรายได้บน YouTube นั้นมีคำนวณรายได้ก็คือ อัตรา CPM หรือจำนวนเงินที่ผู้โฆษณาจ่ายให้กับ YouTube ต่อการดูโฆษณา 1,000 ครั้ง และอัตรา RPM ซึ่งเป็นรายได้ที่ยูทูปเบอร์ได้รับต่อทุกๆ 1,000 ครั้งต่อการดูวิดีโอ
- เหล่า YouTuber สามารถสร้างรายได้จากหลายวิธี แต่เงินจากโฆษณาที่เล่นในวิดีโอมักถือเป็นรายได้หลักของการทำยูทูป
- ส่วนการคำนวณรายได้สามารถเลื่อนขึ้นไปอ่านจากบทความด้านบนได้เลยจ้า
- รายได้ในแต่ละเดือนจะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับค่าเงินในแต่ละช่วงด้วย เช่น ในปีื 2566 ค่าเงินอาจจะต่ำลง ถ้าวิดีโอของคุณมียอดวิวที่น้อยก็อาจจะทำให้รายได้ของคุณน้อยตามยอดวิวด้วยเช่นกัน
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้