สมัคร onlyfans ดีไหม ทำได้จริงไหม

คุณเคยได้ยินโซเซียลนี้ไหม ที่เขาเรียกกันว่า “onlyfans” สื่อสังคมออนไลน์ที่ฮิตในวัยรุ่ย 18+ ทั้งเป็นแหล่งการสร้างรายได้ในยุคโควิด และก็เป็นแหล่งผ่อนคลายความเครียดของผู้ใหญ่หลายๆท่าน รูปแบบการทำงานของโซเซียลนี้ทำให้คนตกงานหลายๆคนมีรายได้ออนไลน์ในช่วงโควิดอย่างมากมาย

ทำไมหลายๆคนให้ความสนใจกับ onlyfans

1. การสร้างรายได้ออนไลน์ที่มีต้นทุนต่ำ
2. โอกาสในการเติบโตจากสังคมออนไลน์ค่อนข้างสูง
3. การหารายได้เสริมจากงานประจำ
4. สร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กับผู้เป็นครีเอเตอร์
5. การสร้างคอนเทนต์ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเนื้อหา

สมัคร onlyfans ดีไหม 

การสมัคร onlyfans ของแต่ละคนนั้นมีจุดประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน ในส่วนที่ว่า ” สมัครแล้วดีไหม” เราให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของท่านนั้นที่จะสมัครเข้ามาเพื่ออะไร เราสามารถแบ่งได้ 2 แบบ  ดังนี้

สมัครเพื่อหารายได้

สมัครเพื่อเข้ามาหารายได้หรือสร้างรายได้เสริมในโลกโซเซียล ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากสมัครเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ที่เรียกว่า “เหล่าครีเอเตอร์”  ผู้สร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ผู้กดติดตามได้รับชมโดยไม่มีข้อจำกัดทางเนื้อหา ถึงจะเป็นเนื้อหาในด้าน 18+ ก็ตาม แต่การหารายได้ไม่ได้มีแค่เรื่อง 18+ อย่างเดียว ยังสามารถขายของส่วนตัวออนไลน์ได้อีกด้วย และได้รับรายได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ถูกหักค่าธรรมเนียมจาก onlyfans จำนวน 20 เปอร์เซ็นต์

สมัครเพื่อรับชมเนื้อหา

ผู้ที่สมัครเพื่อเข้ามาชมผลงานของเหล่าครีเอเตอร์นั้นสามารถเลือกกดติดตามครีเอเตอร์คนที่เราชื่นชอบได้โดยมีข้อแลกเปลี่ยนหากต้องการรับชมเนื้อหาที่พิเศษๆกว่าใครจะต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการได้รับชมสิ่งที่ชอบนั้นเอง ส่วนเรื่องการเสียเงินเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับว่า ครีเอเตอร์ที่เรากดติดตามนั้นกำหนดไว้ในผลงานนั้นเท่าไหร่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ประมาณ 150-1500 บาทกันเลยทีเดียว

สมัคร onlyfans ทำยังไง

ขั้นตอนที่ 1

ไปที่ Google พิมพ์ค้นหาคำว่า “Onlyfans” หรือคลิก https://onlyfans.com/

ขั้นตอนที่ 2 

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัญชี ให้คลิกที่ Sign up for onlyfans หรือ สามารถใช้เลือกบัญชีของ Twitter หรือ Google สมัครเข้าเว็บได้

ขั้นตอนที่ 3

เมื่อคลิก Sign up for onlyfans จะขึ้นมาให้กรอกข้อมูล

1. Name
2. E-mail
3. Password

กดติดตาม หรือ Subscribe ต้องทำยังไง

ขั้นตอนที่ 1

ให้เข้าไปที่ค้นหาหรือไปที่ ครีเอเตอร์ ที่ต้องการกดติดตาม

ขั้นตอนที่ 2

ที่หน้าบัญชีของครีเอเตอร์ จะมีค่า กดติดตาม แสดงให้เห็นอยู่ จะคิดเป็นรายเดือน

แล้วแต่ครีเอเตอร์จะกำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 

การกดติดตามจะมีเงื่อนไข จะต้องทำการผูกบัตรเครดิต หรือเดบิตไว้อยู่แล้วถึงจะกดติดตามได้ ขั้นตอนการผูกบัตรมีดังนี้

1. เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของเรา
2. ให้เลือก Your Cards (To subscribe)
3. จากนั้นกรอกข้อมูล บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
4. เมื่อกรอกเสร็จแล้วก็คลิกยืนยันข้อมูล

ขั้นตอนที่ 4 

เมื่อกรอกข้อมูลมีบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว ลองกดติตาม อีกรอบ

ขั้นตอนที่ 5

เมื่อกดติดตามเรียบร้อยแล้ว เงินจะถูกหักจากบัญชีไปอัตโนมัติ

• ในบางกรณีอาจจะมีครีเอเตอร์บางคนเปิดให้กดติดตามฟรีแต่บางคอนเทนต์การจะกดดูก็ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าไปดู นี้ก็เป็นหลักการทำรายได้อีกอย่างหนึ่งของครีเอเตอร์
• โดยเงินจะถูกหักทุกเดือนตามที่เราได้กดติดตามไว้ ส่วนใครอยากยกเลิกก็กดยกเลิกการติดตาม ระบบก็จะไม่ตัดเงินต่อ หรืออีกทางก็คือไปยกเลิกการผูกบัตรใน onlyfans ของท่าน

สมัคร onlyfans ต้องใช้อะไรบ้าง

การสมัคร onlyfans ถ้าคุณไม่ได้กดติดตามเหล่าครีเอเตอร์คุณแทบจะไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ถ้าคุณใช้สมาทโฟนขอแค่คุณมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตในมือถือของท่าน เมื่ออท่านสมัครแล้วมีการกดติดตาม ท่านจะต้องเตรียม สิ่งเหล่านี้

• บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต 

เมื่อการกดติดตามเงินในบัตรก็จะถูกหักตามจำนวนที่ท่านกดติดตามไว้ และก็จะมีการหักเงินเป็นประจำทุกๆเดือนเมื่อครบรอบเดือน

• บัตรประจำตัวที่ออกโดยราชการ
  • หนังสือเดินทาง
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบขับขี่

ใช้ในการยืนยันตัวตนเมื่อมีการสร้างผลงานของครีเอเตอร์

สมัคร onlyfans ต้องเสียเงินไหม

Onlyfans ถ้าสมัครโดยปกติแล้ว ไม่ต้องเสียเงินค่าสมัคร แต่เมื่อไหร่ที่ท่านมีการสนใจ คอนเทนต์ของเหล่าครีเอเตอร์และมีการเข้าไปกดติดตามนั้น เมื่อกดติดตามสำหรับท่านที่ยังไม่ได้ผูกบัตรไว้ทางระบบก็จะให้ท่านลงข้อมูลบัตรที่ใช้ในการหักเงินก่อนโดยเหล่าครีเอเตอร์เจ้าของคอนเทนต์จะกำหนดการเก็บเงินจากการดูคอนเทนต์ เริ่มต้นในราคาตั้งแต่ 4.99-49.99 $ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 150-1,500 บาท โดยระบบ onlyFans จะหักค่าธรรมเนียมไป 20% เพื่อแลกกับการลงคอนเทนต์ที่มีอิสระมากกว่า

วิธีสมัครผ่าน True Wallet ทำยังไง

การสมัครผ่าน Ture Wallet นั้นเหมาะสำหรับท่านที่ไม่อยากให้ตัดผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของตัวเอง แต่ยังอยากที่จะเล่น onlyfans อยู่ต่อไป ในบางท่านอาจจะพบปัญหาเกี่ยวกับการชำระของบุคคลที่เราจะกด ติดตาม เมื่อระบบ onlyfans เรียกเก็บเงินก่อนที่จะกดติดตามได้เราจึงมาบอกวิธีการสมัคร onlyfans ผ่าน True Wallet  มีขั้นตอนดังนี้

1. ก่อนที่เราจะไปทำการผูกบัตร True Wallet นั้นเราต้องมีบัญชีของ onlyfans ให้เรียบร้อยก่อน
2. สามารถทำสมัครเพียงคลิก https://Onlyfans.com/ และเลือกลงทะเบียนด้วยบัญชี ที่เราต้องการตามที่ระบบ onlyfans รองรับได้เช่น
3. Twitter
4. Google
5. เมื่อทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วนั้นให้สังเกตที่เมนูด้านซ้ายจะเห็นเมนูที่มีชื่อว่า More หรือสัญลักษณ์จุดสามจุด ให้เราทำการกดเลือกขึ้นมา
6. เมื่อเลือกคลิกเมนู More ขึ้นมาแล้วนั้นจะเจอกับเมนูให้เลือกมากมายไปเลือกคลิกที่ Your Card
7. จากนั้นให้จะเห็นรายการแสดงยอดเงินที่ใช้สำหรับชำระค่าบริการให้กับเหล่าครีเอเตอร์ทั้งหลาย และขั้นตอนนี้จะเป็นการเติมเงินเข้าไปโดยใช้ บัตร True Wallet
8. ให้ทำการเพิ่มบัตรเข้าไปที่สัญลักษณ์เครื่องหมายบวกกับรูปบัตรหรือสำหรับท่านอื่นๆอาจจะขึ้นว่า Add card เพื่อทำการเพิ่มบัตร True Wallet
9.  ขั้นตอนนี้จะเป็นการทำใน แอฟ True Wallet ทำตามวิธีได้ดังนี้
10. เปิดแอพ True Money Wallet และเข้าไปที่คำว่า ฉัน
11. เมื่อเข้ามาแล้วให้คลิกคำว่า วีการ์ด/ทรู ดิจิทัล การ์ด ของฉัน
12. หลังจากนั้นให้ทำการกดดูเลขบัตร True Wallet ของเรา
13. หลังจากนั้นให้กลับมาที่ onlyfans หน้า ADD CARDS อีกครั้งแล้วจากนั้นให้นำเลขที่ True Money Wallet  แจ้งกรอกข้อมูลเข้าไปที่ Add card ได้เลย
14. ทำการกด Verify Card ระบบจะทดสอบตัดเงินไม่เกิน 1.90$ หรือประมาณ 57 บาท จากบัตรที่เราผูกไว้
15. หลังจากนั้นเมื่อระบบตัดยอดเงินของเราเรียบร้อยแล้วให้เราทำการเช็คยอดเงินที่โดนตัดไปเพื่อมากรอกข้อมูลบน onlyfans ในช่อง Amount อีกครั้ง

วิธีสมัครเพื่อสร้างรายได้ทำยังไง

ขั้นตอนแรกจะต้องมีบัญชีของ onlyfans ก่อน หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการยืนยันเอกสารส่วนตัว

เมื่อมีการเริ่มสร้างรายได้ในสถานะครีเอเตอร์บน onlyFans คุณต้องส่งข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อให้ทางระบบตรวจสอบก่อน เมื่อระบบได้ตรวจสอบและอนุมัติบัญชีแล้ว จึงจะสามารถเพิ่มบัญชีธนาคารของคุณได้

1. คลิกไอคอนโปรไฟล์ที่มุมบนซ้ายมือ ในแถบเมนูคลิก Add Bank (to earn) 
2. จากนั้นคลิก COMPLETE VERIFICATION ระบบจะแสดง Pop Up ขึ้นมาให้คลิก CONFIRM
3. ควรใช้โทรศัพท์มือถือในการยืนยันตัวตน มีขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยเอกสาร ดังนี้
4. ถ่ายรูปบัตรประชาชนด้านหน้า
5. ถ่ายรูปบัตรประชาชนด้านหลัง
6. เซลฟี่ตัวเอง (คล้ายระบบสแกนหน้าของระบบธนาคาร)
7. เมื่อระบบสแกนเอกสารจากบัตรประชาชนแล้ว จะเข้าสู่หน้ายืนยันตัวตนรอบสองต้องใส่ข้อมูลดังนี้
8. ชื่อจริง
9. นามสกุล
10. ที่อยู่
11. เมือง
12. รหัสไปรษณีย์
13. วันเกิด
14. สามารถเพิ่มชื่อบัญชี Twitter และ Instagram ของคุณได้แต่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
15. ที่ด้านล่างข้อมูลส่วนตัว จะต้องอัปโหลดบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการเลือกคลิกประเภทที่คุณต้องการอัปโหลด เอกสารที่คุณสามารถใช้ได้ มีดังนี้
16. หนังสือเดินทาง
17. บัตรประจำตัวประชาชน
18. ใบขับขี่
19. จากนั้นคุณต้องอัปโหลดรูปถ่ายของ ID และรูปถ่ายของคุณถือ ID คู่กับใบหน้าของคุณ

ขั้นตอนการเพิ่มบัญชีธนาคาร

การเพิ่มบัญชีธนาคารมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

• เมื่อบัญชี onlyFans ได้รับการอนุมัติแล้ว คุณจะได้รับอีเมลเพื่อยืนยันการอนุมัติ
• เมื่อมีการแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้คุณสามารถเพิ่มบัญชีธนาคารและกำหนดราคาสมาชิกรายเดือนของคุณได้แล้ว
• จากนั้นเข้าสู่ระบบบัญชี onlyFans ของคุณ คลิกไอคอนโปรไฟล์แล้วคลิกที่ เพิ่มธนาคาร (Add Bank) 
• ระบบไปยังหน้า Banking ซึ่งวิธีการโอนรายได้มาให้ครีเอเตอร์ จะเป็นการโอนโดยตรงผ่านบัตรวีซ่าของคุณที่เร็ว และถูกกว่าการโอนเงินผ่านธนาคาร ช่วยให้คุณถอนเงินได้และรับเงินภายใน 3 วันทำการ

ครีเอเตอร์ได้เงินเท่าไหร่

1. การสร้างรายได้ของครีเอเตอร์นั้น เป็นการตลาดที่ครีเอเตอร์ สามารถล็อกคอนเทนต์บางส่วนที่ exclusive มากๆ ไว้หลัง Paywall เพื่อให้ผู้ติดตาม เข้าถึงได้โดยเสียค่าบริการแบบรายเดือนหรือเป็นทิปแบบครั้งเดียว
2. ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้จะถือเป็นรายได้ที่ครีเอเตอร์ ได้รับ 80 เปอร์เซ็นต์ โดย onlyFans จะเก็บ 20 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ไว้เป็นค่าธรรมเนียม
3. ในส่วนของรายได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าครีเอเตอร์ จะตั้งค่าสมัครสมาชิกไว้ที่เท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น Bella Thorne อดีตนักแสดงดิสนีย์ ตั้งค่าสมาชิกไว้ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน ภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังเธอเปิด account ใน onlyFans ทำให้เธอมีรายได้เข้ามามากถึง 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41.9 ล้านบาทไทย
4. เนื่องจาก onlyFans มีคอนเทนต์ที่หลากหลายและเปิดกว้างมาก ผู้ใช้งานเว็บไซต์นี้จึงต้องมีอายุ 18+ และจะต้องใช้บัตรประจำตัว ที่ออกโดยหน่วยงานราชการเพื่อลงทะเบียนเท่านั้น
5.  นอกจากนี้ คอนเทนต์ต่างๆ ยังได้รับการปกป้องโดย onlyFans เพื่อให้แน่ใจว่าไม่สามารถแชร์ออกนอกระบบ และผู้ใช้อาจถูกแบน หากถูกจับได้ว่าพยายามแคปเจอร์หน้าจอไปเผยแพร่ต่อ
6. ด้วยความที่ OnlyFans ให้อิสระในการโพสต์กับผู้คน และใช้งานง่าย มันจึงกลายเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 30 ล้านคน และมีครีเอเตอร์ มากกว่า 450,000 คน
7. ในประเทศไทยนั้น onlyFans ที่เป็นสื่อออนไลน์อาจจะยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก
8.  ในทางกลับกันการนำระบบของเว็บไซต์ onlyFans มาปรับเป็น account ที่ล็อกไว้ลงเฉพาะคอนเทนต์ 18+ ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีการให้ผู้ติดตามจ่ายค่าสมัครสมาชิกเพื่อเข้าไปดูเช่นเดียวกันกับระบบของเว็บไซต์ เป็นที่รู้จักและมี ครีเอเตอร์ ในไทยมากมายที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้
9. โดย สตอรี่จะถูกกำหนดด้วยสีที่แตกต่างกัน เมื่อผู้ใช้คนอื่นๆ เลื่อนมาเจอ Exclusive Stories มันจะแสดงข้อความว่า “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้นที่สามารถดูเนื้อหานี้ได้จนกว่าจะทำการเสียค่าใช้จ่ายหรือได้รับความยินยอมจากครีเอเตอร์ก่อน
10. สำหรับ onlyFans คือ Exclusive Stories จะไม่สามารถแคปเจอร์หน้าจอได้

Onlyfans สร้างรายได้จากอะไรบ้าง

• Subscriptions หรือกดติดตาม
• PPV หรือ Pay Per View
• Paid Direct
• Paid for Unlock Post 
• Tips
• การให้ทิปในโปรไฟล์
• การให้ทิปบนโพสต์
• การให้ทิปในสตรีม
• การให้ทิปในข้อความ
• ขายของใช้ส่วนตัว
• การแนะนำครีเอเตอร์ (Referrals Program)

สร้างโปรไฟล์ onlyfans ยังไงให้น่าสนใจ

เมื่อผู้ที่เป็นครีเอเตอร์มีบัญชีเป็นที่นิยิมในเหล่าผู้ติดตามนั้นสิ่งต่อมาที่ต้องคำนึงเพื่อให้เราเมีรายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือการที่ปรับปรุงโปรไฟล์ซึ่งเป็นหน้าต่างแรกที่ผู้ติดตามจะเห็นและให้ความสนใจที่จะกดติดตามหรือไม่กดติดตามก็ขึ้นอยู่กับตรงนี้ด้วยเช่นกัน คนผู้คนส่วนใหญ่แล้วอาจจะตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกหากมันดูดีตั้งแต่แรกเห็น ก็เป็นสิ่งที่น่าประจำใจ การทำให้หน้าแรกของตนเองออกมาดีก็มีเทคนิคต่างๆดังนี้

1. เมื่อกดยืนยันตัวตนเรียบร้อย ระบบจะพาคุณไปที่หน้า การตั้งค่าโปรไฟล์ แต่หากคุณหาไม่เจอให้ คลิก More (บริเวณซ้ายมือ) > Setting > Profile จะขึ้นหน้า Edit Profile
2. Username ชื่อผู้ใช้
3. Display Name ชื่อที่แสดง
4. Bio  การแนะนำเกี่ยวกับตัวคุณเองเบื้องต้น
5. Location คุณสามารถเพิ่มตำแหน่งที่อยู่ของคุณได้ที่นี่
6. URL ของเว็บไซต์
7. Amazon Wishlist
8. บัญชี Spotify
9. ใช้ส่วนประวัติของคุณเพื่อให้ผู้ติดตามของคุณทราบว่าจะเข้าถึงอะไรได้บ้างเมื่อพวกเขาติดตาม
10. ระบุให้ผู้ติดตาม ทราบถึงประเภทของเนื้อหาที่คุณโพสต์ เช่น
11. วิดีโอเต้นภาพถ่ายคอสเพลย์
12. การรีวิวสินค้า
13. เซ็ตถ่ายแบบในชุดต่างๆ
14. สามารถใช้ช่องนี้เป็นการโฆษณาตัวเองให้ได้มากที่สุด นี่คือโอกาสทองในการขายของ ที่ผู้ติดตามจะอยากเป็นสมาชิกหรือซื้อคอนเทนต์จากคุณ
15. แจ้งให้ชัดเจนว่าผู้ติดตามสามารถคาดหวังอะไรจากการสมัครสมาชิกได้บ้าง
16. สามารถแจ้งให้ผู้ติดตามทราบถึงเวลาโพสต์บ่อยแค่ไหน หากคุณโพสต์เป็นประจำคุณสามารถเพิ่มวลีลงในประวัติ เช่น
17. การอัปโหลดรายวัน (ภาษาอังกฤษคือ Daily Uploads)
18. เนื้อหาใหม่ที่เพิ่มทุกสัปดาห์  (New Content Out Every Week / New Content Added Weekly)
19. คุณสามารถเสนอขายเนื้อหาพิเศษที่ผู้ติดตามสามารถกำหนดหรือรีเควสต์ได้ให้เพิ่มเนื้อหานี้ลงในประวัติของคุณด้วยเนื้อหาในช่อง “เกี่ยวกับฉัน” (About)
20. แผนการออกกำลังกาย
21. สูตรอาหาร
22. คำขอรูปภาพหรือวิดีโอเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่