ส่วนลดคืออะไร
ส่วนลด (Discount) คือ การลดราคาสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า มีวัตถุประสงค์หลายแบบ เช่น เพื่อเพิ่มยอดขาย ส่งเสริมการตลาด ลดความเสี่ยงของสต็อกที่ช้าหรือจะหมดอายุ รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการแข่งขันในตลาดด้วย
การใช้ส่วนลดจะต้องกำหนดเงื่อนไขอย่างชัดเจน เช่น ระยะเวลาในการใช้ส่วนลด วันที่สิ้นสุดของการลดราคา ปริมาณสินค้าที่สามารถใช้ส่วนลดได้ และวิธีการใช้ส่วนลด เช่น ใช้โค้ดส่วนลดหรือคูปองส่วนลด เป็นต้น
ส่วนลดมีกี่ประเภท
ส่วนลดมี 9 ประเภท คือ
- ส่วนลดเงินสด (Cash Discount)
- ส่วนลดเงินคืน (Rebate)
- ส่วนลดเชิ้ต (Trade Discount)
- ส่วนลดสำหรับกลุ่มลูกค้า (Customer Discount)
- ส่วนลดพิเศษ (Special Discount)
- ส่วนลดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ (Volume Discount)
- ส่วนลดสมาชิก (Membership Discount)
- ส่วนลดซื้อคู่ (Bundle Discount)
- ส่วนลดส่วนต่าง (Differential Discount)
ส่วนลดมีอะไรบ้าง
1.ส่วนลดเงินสด (Cash Discount)
ส่วนลดเงินสด (Cash Discount) คือ การลดราคาโดยตรงบนราคาขาย ลูกค้าจะได้รับส่วนลดเมื่อชำระเงินตามกำหนดระยะเวลา เช่น บริษัท A จะวางจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าโดยกำหนดราคาขายเท่ากับ 10,000 บาท แต่ลูกค้าจะได้รับส่วนลด 2% หากชำระเงินภายใน 7 วัน เมื่อลูกค้าชำระเงินภายใน 7 วัน ราคาที่จะต้องจ่ายจะเท่ากับ 9,800 บาท (10,000 – 2% = 9,800)
ส่วนลดเงินสดมักใช้ในการส่งเสริมการชำระเงินรวดเร็ว เพิ่มความเชื่อมั่นในการขาย และลดค่าใช้จ่ายในการรับชำระเงิน นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการสะสมเงินค้างชำระในธุรกิจด้วย
2.ส่วนลดเงินคืน (Rebate)
ส่วนลดเงินคืน (Rebate) คือ การลดราคาโดยให้ลูกค้าชำระเต็มจำนวนและจะได้รับเงินคืนหลังจากซื้อสินค้าไปแล้ว ส่วนลดเงินคืนจะจัดทำเป็นแบบฟอร์มและต้องส่งคืนกับผู้ขายเพื่อรับเงินคืนในภายหลัง ตัวอย่างเช่น บริษัท A วางจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าในราคา 50,000 บาท แต่ลูกค้าจะได้รับส่วนลดเงินคืน 10% หรือ 5,000 บาท เมื่อชำระเงินและส่งแบบฟอร์มกลับมาให้บริษัท A
ส่วนลดเงินคืนมักนำมาใช้เพื่อส่งเสริมการขายในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันกันรุนแรง เป็นเครื่องมือในการดึงดูดลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายในระยะยาวๆ โดยให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเพิ่มอีกในภายหลัง นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าของลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ขายและลูกค้า
-
ส่วนลดเชิ้ต (Trade Discount)
ส่วนลดเชิ้ต (Trade Discount) คือ ส่วนลดที่ผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้า เพื่อส่งเสริมการขายสินค้า จะลดราคาสินค้าก่อนที่ลูกค้าจะชำระเงิน ส่วนลดเชิ้ตนี้จะมีอยู่ในรูปแบบเปอร์เซ็นต์หรือเป็นจำนวนเงิน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทว่าจะให้ส่วนลดเชิ้ตเท่าไรสำหรับสินค้าแต่ละชนิด
ส่วนลดเชิ้ตนั้นไม่ได้รับการบังคับใช้ตามกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่พิจารณากันโดยสากลว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะว่าส่วนลดเชิ้ตมักจะมีผลต่อราคาขายที่จริงๆ ของสินค้าและอาจส่งผลต่อภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าด้วย ดังนั้น การใช้ส่วนลดเชิ้ตนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจใช้หรือไม่ใช้ส่วนลดนี้ในการขายสินค้าของตนเอง
-
ส่วนลดสำหรับกลุ่มลูกค้า (Customer Discount)
ส่วนลดสำหรับกลุ่มลูกค้า (Customer Discount) คือ การลดราคาสินค้าให้กับลูกค้าที่มีคุณสมบัติหรือตระกูลเดียวกัน เช่น ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าเป็นประจำ ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าในปริมาณมาก หรือลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าของบริษัทเดียวกัน เป็นต้น
ส่วนลดสำหรับกลุ่มลูกค้านี้มักจะมีอยู่ในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์หรือเป็นจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทว่าจะให้ส่วนลดเท่าไรสำหรับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความภาคภูมิใจและสิ่งที่สำคัญของการค้าขาย คือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ให้ลูกค้ารู้สึกว่าบริษัทนั้นเป็นเพื่อนของลูกค้า และยังสามารถไว้วางใจในสินค้าและบริการของบริษัทนั้นได้อีกด้วย
-
ส่วนลดพิเศษ (Special Discount)
ส่วนลดพิเศษ (Special Discount) คือ ส่วนลดที่ให้มากกว่าส่วนลดทั่วไป เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าในช่วงเวลาที่กำหนดหรือเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เช่น งานประชาสัมพันธ์ งานแข่งขัน หรือเทศกาลต่างๆ ส่วนลดพิเศษนี้อาจมีเงื่อนไขในการใช้งาน เช่น การซื้อสินค้าในราคาตามที่กำหนด การซื้อสินค้าในปริมาณมากขึ้น หรือการซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่กำหนด
ส่วนลดพิเศษนี้เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความตึงเครียดในการแข่งขันในวงการธุรกิจ เนื่องจากการให้ส่วนลดพิเศษนี้จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากบริษัทเรามากกว่าสินค้าจากบริษัทคู่แข่ง ซึ่งส่วนลดพิเศษนี้อาจมีผลต่อกำไรของบริษัทในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าใช้ให้ถูกวิธีและคำนึงถึงต้นทุนในการผลิต ก็อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับบริษัทในระยะยาว
-
ส่วนลดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ (Volume Discount)
ส่วนลดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ (Volume Discount) คือ การลดราคาสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการในปริมาณมากจะมีการกำหนดจำนวนขั้นต่ำที่ลูกค้าต้องซื้อก่อนที่จะได้รับส่วนลดนี้ เช่น ลูกค้าที่ซื้อสินค้าในปริมาณมากกว่า 10 ชิ้น จะได้รับส่วนลด 5% หรือลูกค้าที่ซื้อสินค้าในปริมาณมากกว่า 100,000 บาท จะได้รับส่วนลด 10%
ส่วนลดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำนี้เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างกลไกในการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท การให้ส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการในปริมาณมากจะช่วยสร้างความพึงพอใจในลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าให้เข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับบริษัทด้วย
-
ส่วนลดสมาชิก (Membership Discount)
ส่วนลดสมาชิก (Membership Discount) คือ ส่วนลดที่ให้กับสมาชิกของบริการหรือร้านค้าที่มีการลงทะเบียนเป็นสมาชิก สมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ส่วนลดพิเศษ โปรโมชั่นพิเศษ บริการพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ส่วนลดสมาชิกนี้จะมีการกำหนดเงื่อนไขในการเข้าถึง เช่น ต้องซื้อสินค้าในราคาที่กำหนด หรือต้องซื้อสินค้าในปริมาณที่กำหนด ฯลฯ
การให้ส่วนลดสมาชิกนี้เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความผูกพันและความภาคภูมิใจในลูกค้า โดยการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับสมาชิกจะช่วยสร้างความติดชื่อของบริษัท และยังช่วยสร้างความชื่นชอบในลูกค้าโดยจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายของบริษัทด้วย
-
ส่วนลดซื้อคู่ (Bundle Discount)
ส่วนลดซื้อคู่ (Bundle Discount) คือ การลดราคาสินค้าเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าในชุดหรือแพ็คเกจที่ได้กำหนดไว้มักจะเป็นการเสนอซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ซื้อคอมพิวเตอร์และปริ้นเตอร์ในชุดเดียวกัน หรือซื้อเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศในแพ็คเกจเดียวกัน
ส่วนลดซื้อคู่นี้เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความผูกพันและสร้างความสนใจในลูกค้า การเสนอการซื้อสินค้าในชุดนั้นจะช่วยสร้างความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกค้าด้วย เป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าของบริษัทด้วย
9.ส่วนลดส่วนต่าง (Differential Discount)
ส่วนลดส่วนต่าง (Differential Discount) คือ การใช้ราคาที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน เช่น ราคาสินค้าสำหรับนักศึกษาจะถูกกว่าราคาสินค้าสำหรับบุคคลทั่วไป หรือราคาสินค้าสำหรับลูกค้าที่ซื้อเป็นประจำจะถูกกว่าราคาสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไป
ส่วนลดส่วนต่างนี้เป็นวิธีการกำหนดราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างกลไกในการขายสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยส่วนลดส่วนต่างนี้จะช่วยสร้างความพึงพอใจในลูกค้าแต่ละกลุ่ม และช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับบริษัทด้วย
ยกตัวอย่างส่วนลด
ตัวอย่างของส่วนลดที่อาจเจอได้บ่อย
- ส่วนลดเชิ้ต (Trade Discount) สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ค้าส่งหรือผู้จัดจำหน่าย โดยจะมีการลดราคาสินค้าเพื่อส่งเสริมการขายและสร้างความผูกพันกับผู้ค้าส่งหรือผู้จัดจำหน่าย
- ส่วนลดสำหรับกลุ่มลูกค้า (Customer Discount) สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าจำนวนมากหรือซื้อสินค้าเป็นประจำ เพื่อสร้างความติดชื่อให้กับลูกค้าและสร้างความพึงพอใจในลูกค้า
- ส่วนลดพิเศษ (Special Discount) สำหรับส่งเสริมการขายในช่วงเวลาที่กำหนดหรือสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เช่น งานประชาสัมพันธ์ งานแข่งขัน หรือเทศกาลต่างๆ
- ส่วนลดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ (Volume Discount) สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในปริมาณมาก เพื่อสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในลูกค้า
- ส่วนลดสมาชิก (Membership Discount) สำหรับสมาชิกของบริการหรือร้านค้าที่มีการลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อสร้างความผูกพันและความภาคภูมิใจในลูกค้า
- ส่วนลดส่วนต่าง (Differential Discount) สำหรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน เช่น ลูกค้าที่ซื้อสินค้าในปริมาณมากกว่าจะได้รับส่วนลดในราคาต่ำกว่าลูกค้าทั่วไป หรือราคาสินค้าสำหรับนักศึกษาจะถูกกว่าราคาสินค้าสำหรับบุคคลทั่วไป
- ส่วนลดจ่ายล่วงหน้า (Early Payment Discount) สำหรับลูกค้าที่ชำระเงินก่อนกำหนด โดยจะได้รับส่วนลดในราคาสินค้า
- ส่วนลดซื้อใหม่ (New Customer Discount) สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าครั้งแรก เพื่อสร้างความสนใจในลูกค้าใหม่
- ส่วนลดโปรโมชั่น (Promotional Discount) สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการในช่วงเวลาที่กำหนด โดยจะมีการลดราคาหรือให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเช่น แถมสินค้า แถมบริการ ฯลฯ
ตัวอย่างการใช้ส่วนลดในชีวิตจริง
การซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ : ร้านค้าออนไลน์ XYZ ได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ที่ลงทะเบียนสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ โดยลูกค้าใหม่ที่สมัครสมาชิกจะได้รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อสินค้าครั้งแรกที่มียอดซื้อตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป โดยส่วนลดนี้จะมีการกำหนดเงื่อนไขในการใช้งานดังนี้
- ส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครสมาชิกในเว็บไซต์เท่านั้น
- ส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าครั้งแรกเท่านั้น
- ส่วนลดจะใช้ได้เฉพาะสินค้าที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาท
ส่วนลดนี้จะช่วยเพิ่มการขายและสร้างความติดชื่อของ XYZ ในกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเปิดตัวหรือช่วงเวลาที่มีความสำคัญสำหรับการขายของ XYZ ยังช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ อีกทั้งยังสร้างความสนใจในสินค้าและบริการของ XYZ ด้วย
อีกตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ส่วนลด คือ การจัดกิจกรรมส่วนลดในช่วงเทศกาล เช่น การซื้อของออนไลน์ในช่วงวันส่งท้ายปี หรือสัมผัสสมาชิกใหม่ในช่วงเทศกาลวันเกิด โดยกิจกรรมนี้จะมีการกำหนดเงื่อนไขในการใช้ส่วนลดเช่นเดียวกับตัวอย่างข้างต้นเช่นกัน
ส่วนยอมให้คืออะไร
ส่วนยอมให้ Allowance คือ ส่วนยอมให้หมายถึงการยอมรับความต้องการหรือข้อตกลงของลูกค้าหรือฝ่ายอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกันของแต่ละฝ่ายในการทำธุรกิจ ในสัญญาหรือข้อตกลงที่มีผลกับกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นการยอมให้ทำบางสิ่งที่ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาหรือการตกลง หรือเป็นการยอมให้ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
การยอมให้สามารถแสดงถึงความเป็นกลางหรือความร่วมมือระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจ เพื่อให้สามารถเติบโตและก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้
ซึ่งการยอมรับต่อส่วนยอมให้เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะในการทำธุรกิจที่มีผลกระทบต่อกฎหมายหรือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องการการวิเคราะห์และสอบถามความเห็นของอีกฝ่ายก่อนการดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างความเข้ าใจและความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายต่างๆ ทำให้การทำธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสำเร็จในระยะยาว
การยอมรับต่อส่วนยอมให้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันเช่นเดียวกับการใช้ส่วนลด ทั้งสองสิ่งนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสนใจและความพึงพอใจของลูกค้าและผู้ซื้อ และสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจระหว่างฝ่ายต่างๆ
ส่วนยอมให้มีกี่ประเภท
ส่วนยอมให้สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ตามลักษณะและลักษณะของการทำธุรกิจ โดยบางประเภทจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหรือสัญญา และบางประเภทจะเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขในการซื้อขาย หรือการทำงานร่วมกัน
ตัวอย่างประเภทของส่วนยอมให้ได้ แก่
- การกำหนดในสัญญาการจ้างงาน
- เงื่อนไขการสั่งซื้อสินค้า
- เงื่อนไขการเป็นพันธมิตรธุรกิจ
- ข้อตกลงการยืมเงิน
- การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า
- เงื่อนไขการจัดการทรัพยากรบุคคล
- การขายแบบสัญญา
- การจัดการด้านการเงิน
- การเป็นสมาชิกหรือสมัครสมาชิก
- เงื่อนไขการใช้บริการ
- เงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์
- เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
ส่วนยอมให้มีอะไรบ้าง
ส่วนยอมให้ในสัญญาการจ้างงาน
เป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์ต่อทั้งบริษัทและลูกจ้าง แต่การกำหนดส่วนยอมให้ในสัญญาการจ้างงานจะต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน และขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับบริษัทและลูกจ้างในแต่ละกรณี
ตัวอย่างของส่วนยอมให้ในสัญญาการจ้างงานได้แก่ ข้อกำหนดในการเปลี่ยนสภาพการจ้างงาน เช่น เงื่อนไขการเลื่อนขั้น เงินเดือนและสวัสดิการ รวมถึงการจัดทำข้อตกลงทำงานและความรับผิดชอบของลูกจ้าง การกำหนดส่วนยอมให้ในสัญญาการจ้างงานจะช่วยให้บริษัทและลูกจ้างมีความเข้าใจกันและลดความขัดแย้งในภายหลัง และช่วยเพิ่มความมั่นคงของตำแหน่งงานของลูกจ้างในระยะยาว
ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการสั่งซื้อสินค้า
รวมถึงการจัดส่งและการรับประกันสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญในการซื้อขาย และมีความสำคัญต่อลูกค้าและบริษัทเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในระยะยาว
ตัวอย่างของส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการสั่งซื้อสินค้า รวมถึงการจัดส่งและการรับประกันสินค้า ได้แก่ การกำหนดเงื่อนไขการสั่งซื้อ เช่น วันกำหนดส่งสินค้า วันที่รับรองการส่งสินค้า และวันที่คาดว่าจะได้รับสินค้า รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขการจัดส่ง เช่น การใช้บริการขนส่ง การจัดส่งเอง รวมถึงเงื่อนไขการรับประกันสินค้า เช่น ระยะเวลาการรับประกัน การทดสอบและตรวจสอบคุณภาพสินค้า และการแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีการข้อพิพาทในการซื้อขาย
ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรธุรกิจ
เช่น การแบ่งปันกำไรและการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจร่วมกัน และมีความสำคัญต่อการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว
ตัวอย่างของส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรธุรกิจได้แก่ การกำหนดสัดส่วนและเงื่อนไขการแบ่งปันกำไร การกำหนดเงื่อนไขการเข้าร่วมและการออกจากพันธมิตร รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน เช่น วิธีการทำงาน วิธีการปฏิบัติงาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด การพัฒนาเทคโนโลยีและการลงทุน
ส่วนยอมให้เกี่ยวกับข้อตกลงการยืมเงิน
เช่น อัตราดอกเบี้ย การผ่อนชำระ และเงื่อนไขการคืนเงิน เป็นสิ่งที่สำคัญในการยืมเงิน และมีความสำคัญต่อผู้กู้และบริษัทที่ให้บริการการเงิน เพื่อให้การกู้ยืมเงินเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในระยะยาว
ตัวอย่างของส่วนยอมให้เกี่ยวกับข้อตกลงการยืมเงิน รวมถึงอัตราดอกเบี้ย การผ่อนชำระ และเงื่อนไขการคืนเงิน เช่น การกำหนดเงื่อนไขการยืมเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย วันที่กำหนดชำระเงิน และเงื่อนไขการผ่อนชำระเงิน รวมถึงเงื่อนไขการคืนเงิน เช่น การใช้ประกันสินเชื่อ การชำระเงินล่วงหน้า และเงื่อนไขการตัดสินใจของบริษัทที่ให้บริการการเงินในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระเงินตามเงื่อนไขการผ่อนชำระ
ส่วนยอมให้เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า
การแก้ไขปัญหา และการคืนเงินในกรณีที่ไม่พอใจ เป็นสิ่งที่สำคัญในการบริการลูกค้า และมีความสำคัญต่อความพึงพอใจและความเชื่อถือของลูกค้าในบริการของบริษัท
ตัวอย่างของส่วนยอมให้เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า การแก้ไขปัญหา และการคืนเงินในกรณีที่ไม่พอใจ ได้แก่ การกำหนดเงื่อนไขการติดต่อสื่อสาร เช่น ช่องทางการติดต่อที่เหมาะสม ช่วงเวลาที่สะดวกในการติดต่อ รวมถึงเงื่อนไขการแก้ไขปัญหา เช่น ระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้า วิธีการแก้ไขปัญหา และเงื่อนไขการคืนเงินในกรณีที่ไม่พอใจ
นอกจากนี้ยังมีส่วนยอมให้อื่นๆ อีกหลายอย่าง ทั้ง ส่วนยอมให้กับเงื่อนไขการจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การเลือกและสรรหาบุคคลากร การจัดการและพัฒนาบุคคลากร และการประเมินผลการทำงาน
- ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดการด้านการเงิน เช่น การกำหนดเงื่อนไขการชำระหนี้ การจัดการการเงินและการบัญชี การบริหารความเสี่ยง และการสืบสวนทางการเงิน
- ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการเป็นสมาชิกหรือสมัครสมาชิก เช่น การสมัครสมาชิก การสมัครสมาชิกใหม่ การยกเลิกสมาชิก และการจัดการข้อมูลสมาชิก
- ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้บริการ เช่น การต่ออายุบริการ การแก้ไขปัญหา การยกเลิกบริการ และการคืนเงินในกรณีที่ไม่พอใจ
- ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์ เช่น การใช้สิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่น การใช้สิทธิประโยชน์จากการสะสมคะแนน และการใช้สิทธิประโยชน์จากการสมัครสมาชิก
- ส่วนยอมให้เกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เช่น การยอมรับข้อตกลงการใช้งาน การกำหนดเงื่อนไขการใช้งาน และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้