การฝึกนิสัยการออมของคนในยุคนี้ จะต้องมีอะไรที่แปลกตาแปลกใจเพื่อการดึงดูดให้คนหันมาสนใจ การออมเงินมากขึ้น การออมเงิน เป็นหนึ่งในวินัยทางการเงินที่ดี ที่จะช่วยเสริมให้รู้จักการเก็บเล็กผสมน้อย เพื่อมีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ปัจจุบันมีการทำตารางการออมเงินที่ง่าย เกิดขึ้นมาให้การออมเงินสนุกมากขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมๆกันเลย
การออมเงินคืออะไร
“การออมเงิน” หมายถึงการบริหารจัดการกับเงินของตนเอง โดยเก็บเงินเข้าสู่บัญชีออมเงิน เพื่อสำรองเงินในภายหลัง และนำเงินมาช่วยตัดค่าใช้จ่ายประจำ หรือใช้ในการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต
- การออมเป็นการสะสมเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น
- เมื่อท่านหรือครอบครัวเกิดปัญหาทางการเงิน เช่น ท่านถูกไล่ออก จากงานทำให้ขาดรายได้ หรือประสบกับภาวะเงินเฟ้อทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย หรือท่านอยู่ในช่วงหลังการเกษียณอายุหากท่านมีเงินออมไว้มากพอ ท่านก็จะไม่ประสบกับปัญหาทางการเงินมากนัก
- จำนวนเงินออมที่เหมาะสมขึ้นกับแต่ละบุคคล และแต่ละครอบครัว โดยจะแตกต่างกันไปตามสภาวะแวดล้อม ความเป็นอยู่ รวมถึงนโยบายในการวางแผนทางการเงิน
- เหตุผลที่สำคัญในการออม ก็คือ ท่านจะมีเงินสำรองไว้ ใช้ในกรณีฉุกเฉินมากขึ้นอาจจะมีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเพิ่มขึ้นจากที่ท่านนำเงินไปลงทุนในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาล การซื้อหลักทรัพย์ หรือการซื้อกองทุน เป็นต้น
เก็บเงินตามวันที่ 1 เดือน ได้เท่าไหร่ 1 ปีได้เท่าไหร่
ตารางออมเงิน 1 เดือน
- สำหรับคุณที่อาจจะอยากเริ่มจากการออมเงินเป็นรายเดือนไป ก็สามารถใช้ตารางออมเงิน 30 วันได้
- ซึ่งตารางออมเงินรายเดือนนี้ ก็จะมีจำนวนวันคร่าว ๆ คือ 30 วัน แม้บางเดือนอาจจะไม่ครบ หรือเกิน 30 วัน แต่ก็สามารถยึด 30 วันเป็นระยะเวลามาตรฐานในการออมได้
- โดยการออมเงินจะเริ่มจาก เก็บเงินเท่าจำนวนวันที่
ตัวอย่างเช่น
- วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท เก็บแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบ
- เดือนไหน มี 30 วัน คุณจะเก็บเงินได้ 465 บาท
- เดือนไหน มี 31 วัน คุณจะเก็บเงินได้ 496 บาท
- ถ้าเก็บเงินจนครบ 1 ปี (365 วัน) คุณจะเก็บเงินได้ 5738 บาท
- ถ้าเก็บเงินจนครบ 1 ปี (366 วัน) คุณจะเก็บเงินได้ 5767 บาท
- สำหรับการออมเงินในยุคใหม่ในปี นี้นับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมากและมีคนนิยมเริ่มใช้ตารางเก็บเงิน 1 เดือนกันมากขึ้น
- เพื่อเป็นแรงกระตุ้นในการเก็บออมเงินให้ได้มากกว่าปกติตารางเก็บเงิน 1 เดือนช่วยให้เรามีวินัยในการออมเงินได้ดีขึ้น
- ตารางออมเงิน 30 วันเป็นวิธีเก็บเงินที่สามารถเก็บเงินได้จริงและตารางเก็บเงินให้มีวินัยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยังช่วยให้เราไม่ลืมว่าวันนี้เราต้องเก็บเงินตามวันที่เราตั้งเอาไว้
เก็บเงิน 1 เดือน 30 วัน ให้ได้ 5,000 บาท
วิธีนี้เป็นการกำหนดเป้าหมายจำนวน 5000 บาท ภายใน 30 วัน จะมีวิธีการเก็บอย่างไรไปดูกันเลย
- ไอเดียการเก็บเงินกับตารางเก็บเงิน 5000 ใน 1 เดือน
- สำหรับตารางเก็บเงิน 1 เดือนนี้ เราจะใช้เวลาในการเก็บเงิน เพียง 30 วัน คุณจะเก็บเงินได้ 5,000 กว่าๆ เลยนะ
- เรามาเริ่มกันเลยด้วยวิธีที่แสนจะเรียบง่ายไม่ยุ่งยากเลย เริ่มเก็บด้วยตารางหัวใจอันแน่แน่วของเรานี่แหละง่ายกว่ากันเยอะเลย สามารถเงินได้จริงตามเป้าหมาย 30 วัน
วิธีการออมเงิน
- ขั้นตอนแรกให้คุณนำเอาตัวเลข 5,000 ไปหาร 30 ได้เท่าไหร่มาดูกัน 5,000 หาร 30 เท่ากับ 166.7
- ให้นำเอาตัวเลขนี้มาทำตารางเก็บเงิน 1 เดือนด้วยตัวเองเลย
- สิ่งที่สำคัญนั้นเราจะต้องมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการเก็บเงินตามตารางเก็บเงิน 5000 ใน 1 เดือน
- ให้เริ่มเก็บวันละ 166.7 แต่เราควรจะปัดเศษออกให้เป็นการเก็บเงินวันละ 167 บาท
- ถ้าเก็บวันละ 167 บาทครบ 30 วันให้ทำตามตารางเก็บเงิน 1 เดือนเราก็จะมีเงินเก็บมากถึง 5,010 บาทเลย
เก็บเงิน 1 เดือน 10,000 บาททำได้อย่างไร
หากใครที่ไม่รู้ว่า เราจะเก็บเงิน 10000 บาท ภายใน 1 เดือนได้อย่างไร เราไปดูกันเลย
- วิธีเก็บเงิน 10,000 บาทใน 30 วัน ภายใน 1 เดือน กับตารางเก็บเงิน 1 เดือน
- สำหรับเริ่มเก็บเงินได้แบบง่ายกับการทำตารางเก็บเงิน 10000 บาท
วิธีการออมเงิน
- เริ่มต้นด้วยการนำตัวเลข 10,000 มาหาร 30 ทำได้ดังนี้ 10,000 หาร 30 เท่ากับคุณจะต้องเก็บเงินวันละ 333.4
- ให้การปัดตัวเลขออกตามตารางเก็บเงิน 10000 บาทให้คุณเก็บเงินวันละ 334 บาท
- ถ้าทำได้ตามตารางเก็บเงิน 1 เดือนคุณก็จะมีเงินเก็บ 10,020 บาทเลยทีเดียว
- เพียงคุณตั้งเป้าหมายและลงมือทำ ทำทุก ๆ วันเพียงแค่นี้คุณก็ทำสำเร็จแล้ว
ตาราง เก็บเงิน ฉบับสาวออฟฟิศ
การเก็บเงิน เป็นยุคที่ใครก็ว่าควรเก็บเงินสดไว้ดีที่สุด ไม่ว่าจะด้วยโควิด เศรษฐกิจ หรือเพื่ออนาคต ยังไงการเก็บออมก็เป็นเรื่องที่ดีเสมอ บทความนี้จึงนำตัวอย่างรูปแบบตารางเก็บเงินแบบสาวออฟฟิศมาแนะนำ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
- ตารางเก็บเงินทุกวันหวยออก
- ถ้าโชคมันไม่ได้ ก็มาช่วยตัวเองกันเถอะ เก็บเงินจากการเสี่ยงโชคนี่แหละ
- หยอดกระปุกเอาชัวร์ เค้าว่าทำไปเรื่อยๆ เผลอๆ เหมือนถูกรางวัลใหญ่เลยนะ
- ตารางเงินเก็บ 30% ของเงินเดือน
- ตารางนี้ใช้วิธีการจัดสรรด้วยการแบ่งสัดส่วนเงิน เป็น 3 ส่วน รายจ่ายที่จำเป็น รายจ่ายประจำวัน
- เงินเก็บซึ่งจะเริ่มที่ 10% 20% 30% หรือ 40% ตามความสามารถของแต่ละคน
- ซึ่งใครมีแผนซื้อสินทรัพย์ ของที่มีมูลค่าแนะนำควรเก็บขั้นต่ำที่ 30% ของเงินเดือน จะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายไวขึ้น
- ตารางเก็บเงินรายวัน
- ตารางนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่กลัวใจตัวเองในการใช้เงิน แนะนำให้หยดกระปุกทุกวันไปเลย และต้องห้ามทุบด้วยนะ
- โดยกำหนดจำนวนให้เท่ากันทุกวันตามกำลังที่เราสามารถทำได้
- ตารางเก็บเงินรายเดือน
- อันนี้คล้ายการฝากประจำตามธนาคารต่างๆ อาจจะเลือกธนาคารที่ดอกเบี้ยดีหน่อย
- เพื่อช่วยในการเก็บเงินได้จริงๆ และกำหนดจำนวนเงินที่เราสามารถทำได้ในระยะยาว
- อาจจะเก็บเองโดยไม่ฝากธนาคารก็จะขยับจำนวนเงินเพิ่มได้ แต่ข้อสำคัญห้ามเอามาใช้จนกว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้นะ
- ตารางเก็บเงินซื้อของที่อยากได้
- ในเมื่อกำหนดด้วยวงเงินไม่รอด มาลองตั้งธงเป็นของที่อยากได้ไปเลย หารด้วยระยะเวลาที่ต้องการซื้อ
- โดยตารางจะกำหนดมาให้ใน 1 ปี
- ถ้ามีของที่อยากได้นอกเหนือจากนี้ ให้ลองปรับ และมาจับมือให้ไปถึงเป้าหมายกัน
ตารางเก็บเงิน คืออะไร
“ตารางเก็บเงิน” หมายถึง แผนการจัดการเงินของตนเอง ที่เก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ ตามวันเดือนปีที่กำหนด เพื่อให้เกิดการเก็บเงินและจัดการกับเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ในการออมเงิน หรือลงทุนเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต
- การเก็บเงิน อาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับหลาย ๆ คน แต่สำหรับหลาย ๆ คนอาจไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะอาจจะมีลืมเก็บบ้าง หรือเก็บได้ไม่ตามเป้าก็ถอนออกมาใช้ก่อนบ้าง
- ตารางออมเงิน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลืมว่า วันนี้จะต้องหยอดกระปุกแล้วนะ ทั้งยังทำให้ผู้เก็บเงินได้มองเห็นเป้าหมายของการเก็บเงินอยู่เสมออีกด้วย
- ซึ่งตารางการออมเงินนี้สามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย และทุกคนในครอบครัว
- โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกเริ่มออมเงิน โดยใช้ตารางออมเงิน และออมเงินไปพร้อม ๆ กันกับลูก
- พอครบกำหนดก็มาเปิดกระปุกออมสินดูว่าได้เงินจำนวนเท่าไหร่ เป็นการฝึกให้ลูกเห็นความสำคัญและรู้จักที่จะออมเงินเก็บสำหรับใช้ในอนาคต หรือใช้ในภาวะฉุกเฉิน หรือสำหรับซื้อสิ่งที่อยากได้ด้วยเงินเก็บของตัวเอง
- ซึ่งหลังจากออมเงินได้จำนวนหนึ่งแล้ว ยังสามารถนำเงินทั้งหมดที่ได้ไปเข้าบัญชีเงินฝากที่ธนาคาร เพื่อให้มีความปลอดภัยและได้รับดอกเบี้ยมากขึ้น
ประโยชน์ของการเก็บเงินด้วยตารางออมเงิน
มีประโยชน์หลายอย่างของการเก็บเงินด้วยตารางออมเงิน ได้แก่
- การจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ตารางออมเงินช่วยให้คุณสามารถจัดการเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมรายจ่ายของคุณได้อย่างมีความเป็นเลิศ
- การเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ การใช้ตารางออมเงิน ช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถนำเงินมาใช้ในการลงทุน หรือใช้ในการตัดค่าใช้จ่ายประจำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การออมเงินถือเป็นทักษะที่ควรปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เพื่อสร้างวินัยทางการเงินที่ดี คุณครูและผู้ปกครองสามารถใช้ตารางเก็บเงินง่าย ๆ
- นอกจากจะส่งเสริมนิสัยการออมและการรู้จักใช้เงินอย่างรู้คุณค่าแล้ว เด็ก ๆ จะได้ฝึกทักษะการนับเลข การบวกลบเลข การคิดและดำเนินการอย่างมีระบบ และทำความคุ้นเคยกับเงินเหรียญและธนบัตรต่าง ๆ
- ผู้ใหญ่สามารถร่วมทำกิจกรรมออมเงินไปพร้อมกับเด็ก ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีและเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักเก็บเงินและใช้เงินอย่างเหมาะสมได้อีกด้วย
ตัวอย่างแจกฟรีไฟล์ตารางออมเงิน 365 วัน excel
“การออมเงิน 365 วัน” หมายถึง การออมเงินในระยะเวลา 365 วัน (1 ปี) ซึ่งอาจเป็นแนวทางในการออมเงินเพื่อใช้ในการสร้างประสิทธิภาพในการจัดการเงิน และใช้เป็นการออมเงินชั่วคราว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายประจำในระยะเวลาเดียวกัน เพื่อให้การออมเงินง่ายขึ้น เราอาจจะใช้ตัวอย่างตารางออมเงินมาช่วยให้เราเก็บได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ปัจจุบันรูปแบบตารางการออมเงินนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากเพื่อตอบโจทย์สำหรับยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วตัวอย่างตารางออมเงินจะออกมาให้ดาวน์โหลดฟรีในรูปแบบของรูปภาพที่มีสีสันสวยงามมากมายให้ได้เลือก จะไม่มีรูปแบบของ ไฟล์ Excel แล้ว แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบใหม่อาจจะดึงดูดความสนใจให้คนยุคนี้ได้มากกว่าก็ได้ ไปดูพร้อมๆกันเลยจ้า
ตัวอย่างที่ 1
- เข้าไปที่ลิ้งค์ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2055653948081090&type=1&l=0d04a0b72c สามารถกดเลือกรูปภาพตารางออมเงิน 365 วัน จากในนี้ได้เลย
ตัวอย่างที่ 2
- เข้าไปที่ลิ้งค์ https://salehere.co.th/articles/table-to-save-money สามารถกดเลือกรูปภาพตารางออมเงิน 365 วัน จากในนี้ได้เลย
ด้านบนนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่นำมาให้ดูแค่นั้น คุณสามารถค้นหาไฟล์ตารางออมเงินได้ฟรีอีกในอินเตอร์เนท
ตารางเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน มีอะไรบ้าง
การเป็นมนุษย์เงินเดือน มักจะมีรายได้ประจำแต่บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเก็บเงินแบบไหน จนบางคนอาจจะลืมการเก็บเงินไปเลย วันนี้จึงนำตารางการเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือนมาให้ดูมีอะไรบ้างไปดูเลย
-
วิธีเก็บเงิน : ออมเงินหัก 10%
การออมเงินแบบหัก 10% นั้นก็คือ เมื่อเงินเดือนออก จะหักเงินออมออกมาจากเงินเดือน แค่ 10 %
ตัวอย่างในตาราง การออมแบบหัก 10 %
เงินเดือน | ออมหัก 10 % | 1 ปี | 2 ปี | 5 ปี |
10000 | 1000 | 12000 | 24000 | 60000 |
15000 | 1500 | 18000 | 36000 | 90000 |
20000 | 2000 | 24000 | 48000 | 120000 |
25000 | 2500 | 30000 | 60000 | 150000 |
30000 | 3000 | 36000 | 72000 | 180000 |
-
วิธีเก็บเงิน : ออมเงินหัก 20%
การออมเงินแบบหัก 20% นั้นก็คือ เมื่อเงินเดือนออก จะหักเงินออมออกมาจากเงินเดือน แค่ 20 %
ตัวอย่างในตาราง การออมแบบหัก 20 %
เงินเดือน | ออม 20 % | 1 ปี | 2 ปี | 5 ปี |
10000 | 2000 | 24000 | 48000 | 120000 |
15000 | 3000 | 36000 | 72000 | 180000 |
20000 | 4000 | 48000 | 96000 | 240000 |
25000 | 5000 | 60000 | 120000 | 300000 |
30000 | 6000 | 72000 | 144000 | 360000 |
-
วิธีเก็บเงิน : ออมเงินหัก 30%
การออมเงินแบบหัก 30% นั้นก็คือ เมื่อเงินเดือนออก จะหักเงินออมออกมาจากเงินเดือน แค่ 30 %
ตัวอย่างในตาราง การออมแบบหัก 30 %
เงินเดือน | ออม 30 % | 1 ปี | 2 ปี | 5 ปี |
10000 | 3000 | 36000 | 72000 | 180000 |
15000 | 4500 | 54000 | 108000 | 270000 |
20000 | 6000 | 72000 | 144000 | 360000 |
25000 | 7500 | 90000 | 180000 | 450000 |
30000 | 9000 | 108000 | 216000 | 540000 |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างรูปแบบการออมเงินที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดในชีวิตมนุษย์เงินเดือน สามารถเลือกใช้ให้ตรงตามการใช้ชีวิตของทุกท่านและเราสามารถตั้งเป้าได้ว่าเราจะมีเงินเก็บในแต่ละปีนั้นเท่าไหร่ และเราจะเก็บให้ได้เท่าไหร่ในแต่ละปี
วิธีการเก็บเงินให้ได้ผลจริงในทุกๆวัย
วิธีการเก็บเงินให้ได้ผลจริงๆนั้นมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
- ก่อนที่จะเริ่มตั้งเป้าหมายหรือสร้างตารางออมเงินใด ๆ นั่งทบทวนกับตัวเองว่า เราอยากมีเงินเก็บไปทำอะไร ภายใน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี
- หากคิดอะไรออกก็ให้เขียนลงบนกระดาษและนำความคิดนี้มารวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน
- วิธีนี้จะช่วยให้เราลำดับความสำคัญและเห็นภาพสิ่งที่เราต้องการชัดเจนมากขึ้น
- ซึ่งถ้าหากเราตั้งเป้าหมายชัดเจนแล้ว รับรองได้ว่า การตามหาวิธีออมเงินให้ได้เยอะ ๆ หรือ วิธีการเก็บเงินให้ได้ผลนั้น อยู่ไม่ไกลแน่นอน
แยกรายรับ-รายจ่ายในแบบที่เรารับไหว
- เมื่อเป้าหมายชัดเจนแล้วก็อย่าเพิ่งประหยัดทุกค่าใช้จ่าย เพราะการเริ่มต้นเก็บเงินเช่นนี้จะทำให้เราเป็นทุกข์และเลิกล้มการออมเงินไปอย่างง่ายดาย
- การคิดจะเก็บต้องดูพฤติกรรมการใช้เงินของเราผ่านรายรับและรายจ่ายดูก่อน
- ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายในทุก ๆ วันดู อาจจะไม่ต้องเป็นตารางยิ่งใหญ่อะไรมาก แต่ขอให้จดเอาไว้ว่า ตัวเองได้ซื้ออะไรไปบ้างก็เพียงพอ
- เราก็จะเห็นช่องทางในการเพิ่มเงินเก็บที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้แปลว่า เราไม่ควรซื้อของอะไรเลยถ้าไม่จำเป็น แต่อย่าซื้อเพลินจนลืมเป้าหมายการเก็บเงินครั้งนี้เท่านั้นเอง
แบ่งเงินใช้รายวันให้เท่ากัน และ เก็บเหรียญและแบงก์ 50 ทุกครั้ง
- เมื่อรู้เท่าทันรายรับ-รายจ่ายของตัวเองแล้ว ปัจจัยที่จะเสริมการเก็บเงินในช่วงเรียนให้ได้ผลมากยิ่งขึ้นนั้นอยู่ที่การแบ่งค่าใช้จ่ายแต่ละวันให้เท่ากัน
- การเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้หลังจากวันนั้น ๆ หยอดใส่กระปุก โดยอีกหนึ่งวิธีคือ การเก็บเหรียญและแบงก์ 50 ลงกระปุกทุกครั้งที่เจอ โดยเงินส่วนนี้อาจจะเหลือมาจากเงินที่ใช้จ่ายใน 1 วันก็ได้
- โดยวิธีนี้ นอกจากจะช่วยให้เราคุมค่าใช้จ่ายแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นตารางออมเงินแบบกลาย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มเงินเก็บให้เราในทุกวันอีกด้วย
ลองหางานพิเศษทำในเวลาว่างต่อวันที่มี
- งานพิเศษเป็นอีกวิธีเก็บเงินในวัยเรียน และวัยทำงานที่ได้ผลเป็นอย่างมาก นอกจากจะได้ประสบการณ์และได้ทดลองทำงานที่อาจอยากทำในอนาคต
- งานพิเศษยังช่วยให้เราได้เรียนรู้วิธีการเก็บเงินไปพร้อมกับการจัดสรรเวลาอีกด้วย
- โดยเราอาจเลือกมองหางานที่ทำแล้วได้เงินที่เหมาะสม รวมถึงงานต้องไม่กระทบต่อเวลาเรียนและเวลาทำทำงานหลัก
แยกกระเป๋าเงินใช้กับเงินเก็บออกจากกัน
- การแยกเงินเก็บออกจากกระเป๋าเงินใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนจะช่วยทำให้การเก็บเงินในวัยเรียนและวัยทำงานได้ผลมากกว่าที่คิด
- การทำเช่นนี้จะเป็นการเสริมวินัยทางการเงินที่ดี รวมถึงเป็นการป้องกันไม่ให้เราเผลอใจแอบใช้เงินเกินที่เราตั้งเป้า หรือแม้แต่แอบใช้เงินที่ตั้งใจจะเก็บออมด้วยนั่นเอง
สรุป
การออมเงิน ก็คือ การเก็บเงินไว้ในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อใช้ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายประจำ หรือสร้างประสิทธิภาพในการจัดการเงิน การออมเงินสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุน การลงทุนในหุ้น และอื่นๆ โดยตัวช่วยที่จะทำให้การออมสำเร็จได้มากขึ้นก็คือการใช้ตารางออมเงินที่มีหลากหลายรูปแบบ ทำให้การออมเงินเป็นแนวทางในการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้