มีเงิน 100000 ลงทุนอะไรดี

การลงทุน 2566 เป็นปีเป็นปีที่ในประเทศไทย มีการลงทุน โดยมีการเข้าถือหุ้นในตลาดหุ้นรายใหญ่และตลาดหุ้นรายเล็ก นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในเชิงพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์เช่น การลงทุนในอาคารพาณิชย์และอาคารส่วนบุคคล

โดยโอกาสการลงทุนในปี 2566 นั้นอาจแตกต่างกันตามความชอบ และประเภทของการลงทุน ในบทความนี้เรามาดูกันว่า ถ้ามีเงิน 100000 ลงทุนอะไรดี 2566 ทำกำไรได้ดี ทำก่อนได้เปรียบ เรามาศึกษาไปพร้อมๆกันในบทความนี้เลย

การลงทุนคืออะไร

การลงทุน (Investment) คือการใช้เงินที่มีไว้ในการเป็นหุ้นส่วนหรือซื้อสินค้าในการลงทุนเพื่อเป็นแหล่งกำไรในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น อสังหาริมทรัพย์ กองทุน เงินฝากออมทรัพย์ และอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เป็นไปตามความต้องการและเป้าหมายของผู้ลงทุน

• การนำเงินที่เก็บสะสมไปสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมปัจจุบันให้ได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายนั้นในอนาคต
• ซึ่งผู้ลงทุนเชื่อว่า เงินสดหรือผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่จะได้รับคืนนั้น จะสามารถชดเชยระยะเวลา อัตราเงินเฟ้อ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างคุ้มค่า
• การลงทุนเป็นการออมเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยที่จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
• การตัดสินใจลงทุน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้และ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากการลงทุน

การลงทุนมีกี่ประเภท

การลงทุนแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

1. การลงทุนในสินทรัพย์ทีมีตัวตนเห็นประโยชน์จากการใช้ได้อย่างชัดเจน

• การลงทุนซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ซื้อเพชรพลอยของมีค่า
• ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่เราลงทุนเป็นเจ้าของไว้โดยตรงได้อย่างเต็มที่

2. การลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เห็นประโยชน์การใช้ได้ โดยชัดเจน

• การลงทุนในหุ้นพันธบัตรตราสารการเงินอื่น ๆ
• ซึ่งผู้ซื้อมีสิทธิเรียกร้องและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการถือกรรมสิทธิ์ในตราสารเหล่านี้ไว้ หรือที่จัดอยู่ในประเภทของการลงทุนทางการเงิน เป็นส่วนใหญ่

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการลงทุน

สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน หรือจะเริ่มลงทุนได้ไม่นาน สิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะเริ่มลงทุนเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการขาดทุน มีดังนี้

ประเมินความเสี่ยงตัวคุณเอง

• โดยคุณสามารถประเมินความเสี่ยงด้านการลงทุนสำหรับตัวเองได้ง่ายๆ
• จากแบบประเมินในอินเตอร์เน็ต เพื่อค้นหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุด

สำรวจนโยบายการลงทุน

• ตรวจสอบนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนอย่างถี่ถ้วนผ่านการอ่านหนังสือชี้ชวน
• ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนนั้นๆ ด้วยช่องทางต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นก่อน ตัดสินใจเลือกซื้อกองทุน

ศึกษาเงื่อนไขการซื้อขาย

• นอกจากนโยบายการลงทุนแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาเงื่อนไขการซื้อขาย เพราะแต่ละกองทุนมักมีเงื่อนไขในการซื้อขายแตกต่างกันออกไป
• ยกตัวอย่างเช่น เงินลงทุนเริ่มต้น เงินที่จะได้หลังจากการขายกองทุนจะเข้ามาภายในกี่วัน ถ้าหากคุณศึกษาไม่ถี่ถ้วนก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้เงินในชีวิตประจำวันของคุณได้อีกด้วย

ผลตอบแทนจากการลงทุน

ผลตอบแทนจากการลงทุน คือ การได้รับเงินจากการลงทุนที่คุณได้ทำ ซึ่งอาจเป็นเงินปันผลจากการขายหุ้น ดอกเบี้ยจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือการได้รับค่าเช่าจากการเช่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ หรือผลตอบแทนอื่นๆ ตามประเภทของการลงทุนที่เลือก

• การลงทุนมีความสัมพันธ์กับด้านผลตอบแทน และความเสี่ยง
• การที่คนเราลงทุนก็เพราะเราคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนเท่านั้นเท่านี้ แต่บางครั้งไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย ต้องอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย

ผลตอบแทนจากการลงทุน มีหลายรูปแบบได้แก่

1. รายได้ตามปกติ (Current income)

• รายได้ตามปกติได้แก่ ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลในกรณีที่บุคคลซื้อพันธบัตรหรือลงทุนในหุ้นต่าง ๆ
• ซึ่งกำหนดเวลาก็จะได้รับดอกเบี้ยหรือเงินปันผลตามที่บริษัทระบุไว้

2. กำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital gains)

• ในกรณีของหุ้นสามัญที่บุคคลลงทุนซื้อไว้มีราคาสูงขึ้น
• ซึ่งเมื่อขายออกไปแล้วจะได้กำไร

3. ค่าเช่า (Rent)

• ในการลงทุนซื้อทรัพย์สินโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกอสังหาริมทรัพย์ เช่นที่ดิน บ้าน อพาร์ตเมนท์ ที่อยู่อาศัย
• เมื่อนำไปให้ผู้อื่นเช่าก็จะมีรายได้ ค่าเช่าเป็นรายได้ที่คืนมาสู่เจ้าของ

4. ผลตอบแทนอื่น ๆ (Others)

• ยกตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้นสามัญก็จะมีสิทธิในหารออกเสียงเลือกคณะกรรมการของบริษัท ถ้าถือหุ้นไว้มากก็จะมีโอกาสจะได้รับเลือกเป็นผู้บริหาร
• ซึ่งสามารถกำหนดนโยบายของบริษัทได้ หรือสิทธิในการซื้อขายหุ้นใหม่ได้ในราคาพิเศษ เป็นต้น

มีเงิน 100000 ลงทุนอะไรดี

มีเงิน 100000 ลงทุนอะไรดี 2566 ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณและความเหมาะสมว่าคุณต้องการเป็นนักลงทุนแบบไหน ที่แน่นอนและมีการจ่ายเงินปันผลตลอดเวลา คุณอาจลงทุนในกองทุนรวมหรือกองทุนเปิด ซึ่งจะมีการบริหารจัดการโดยนักลงทุนมืออาชีพ และคุณอาจได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและการเพิ่มมูลค่าของกองทุน

ถ้าคุณต้องการการลงทุนที่เป็นอิสระ คุณอาจลงทุนในตลาดหุ้น โดยเลือกหุ้นในบริษัทที่มีปริมาณการเข้าถือสูง หากคุณต้องการลงทุนในตลาดเช่น การเงิน คุณอาจจะลงทุนในเงินฝากออมทรัพย์ ในธนาคาร หรือ หุ้นกองทุน คุณอาจต้องพิจารณาการจัดการความเสี่ยง โดยมีรูปแบบการลงทุนแบบไหนบ้างไปดูกันเลย

ลงทุนในสินทรัพย์ในตลาดทุน

• การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมที่นำเงินลงทุนไปลงทุนในหุ้นอีกต่อหนึ่งจะมีความผันผวนสูงก็ตาม แต่การลงทุนในสินทรัพย์เช่นหุ้นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการลงทุนที่น่าสนใจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนไม่น้อย
• หากว่าผู้ลงทุนนั้น มีความรู้และความเข้าใจในตลาดและสินทรัพย์เช่นหุ้นนี้เป็นอย่างดี
• การลงทุนในสินทรัพย์อย่างหุ้นหรือกองทุนรวมมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีตั้งแต่การเก็งกำไรไปจนถึงการเก็บสะสมหุ้นเพื่อรับเงินปันผล แต่กระนั้นเพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
• นอกจากที่ผู้ลงทุนจะต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในการลงทุน เงินทุนที่นำมาลงทุนเองก็ควรจะเป็นเงินเย็นที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่คุณจริง ๆ

ลงทุนในสลากออมสินหรือสลาก ธกส.

• สำหรับผู้ที่ไม่นิยมความเสี่ยงแต่ยังอยากให้เงินทุนที่มีอยู่นั้นงอกเงย แม้การลงทุนในสลากออมสินหรือสลาก ธกส. จะได้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและเหมาะมากที่จะเป็นที่พักเงินในช่วงสั้นๆ
• นอกจากการได้รับผลตอบแทนตามปกติ สลากทั้ง 2 ประเภทนี้ยังให้ผู้ลงทุนมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลต่าง ๆในแต่ละงวด ซึ่งอาจเรียกได้ว่านอกจากจะอุ่นใจ ปลอดภัยสูงก็ยังมีสิทธิ์ถูกรางวัลได้อีกด้วย
• การลงทุนในสลากทั้ง 2 ประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงสูญเสียเงินก้อนรวมถึงผู้ที่มีเงินทุนและต้องการพักเงินในช่วงสั้น ๆเพื่อรอทิศทางที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจขยับขยายการลงทุนไปยังแหล่งอื่น ๆ

ลงทุนขายสินค้าออนไลน์

• เมื่อโลกเข้าสู่ยุคออนไลน์ การขายสินค้าออนไลน์ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจในปัจจุบัน  เพราะเมื่อคนเรายังต้องกินต้องใช้และต้องการบริโภคสินค้าต่าง ๆ
• การขายสินค้าจึงยังเป็นธุรกิจที่ยังคงเติบโตไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม การขายสินค้าออนไลน์จึงยิ่งตอบโจทย์การลงทุนได้มากทีเดียว
• หากคุณเริ่มต้นคิดที่จะขายสินค้าออนไลน์จริง ๆ ลองสำรวจหาความชอบของคุณเสียก่อน ว่าคุณชอบสินค้าอะไรเป็นพิเศษเพราะความชอบนอกจากจะทำให้คุณเข้าใจสินค้านั้นดี คุณยังจะอยู่กับมันได้นานอย่างมีความสุข
• สินค้าที่คุณชอบและอยากขายนั้นยังเป็นสินค้ากระแสและเป็นที่ต้องการหรือมีกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ เพราะลำพังความชอบเพียงอย่างเดียวแต่สินค้าไม่เป็นกระแสหรือไม่ได้รับความนิยมก็อาจทำให้คุณขายสินค้าได้ลำบาก
• คุณจะขายสินค้าโดยไปรับมาขายต่อหรือการสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง เพราะทั้ง 2 อย่างนี้มีรูปแบบการทำการตลาดที่แตกต่างกัน หากคุณชอบค้าขายเป็นทุนเดิม การขายสินค้าออนไลน์ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจเช่นกัน

ลงทุนในแฟรนไชส์

• แฟรนไชส์ธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง เพราะเรามักจะนึกถึงแต่แฟรนไชส์แบรนด์ใหญ่ ๆที่จำเป็นต้องเสียค่าแฟรนไชส์ในราคาสูง
• ความเป็นจริงแล้วธุรกิจแฟรนไชส์ในปัจจุบันไม่ได้มีค่าใช้จ่ายที่สูงเลย หลายแฟรนไชส์มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่หลักหมื่นเสียด้วยซ้ำ

ข้อดีของการทำธุรกิจแฟรนไชส์

• การมีคู่มือความสำเร็จที่แบรนด์นั้น ๆสั่งสมมาเป็นองค์ความรู้ให้กับผู้ที่อยากทำธุรกิจแต่ไม่มีประสบการณ์ได้นำมาทำตาม
• นอกจากนี้เรายังได้วัตถุดิบที่ได้มาตรฐานเดียวกันกับทางแบรนด์รวมไปถึงฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นของทางแบรนด์มาเป็นของคุณโดยที่คุณไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก
• เพียงแค่คุณมีเงินลงทุนในหลักแสนคุณก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีสินค้าคุณภาพสูงได้แล้ว
• ที่สำคัญคุณยังสามารถทำธุรกิจแฟรนไชส์เป็นรายได้เสริมควบคู่กับการทำงานประจำที่จะทำให้คุณมีรายได้มากกว่า 1 ทางอีกด้วย

ลงทุนสร้างคอร์สออนไลน์

• ช่องทางหนึ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนทักษะที่น่าสนใจไปเป็นรายได้นั่นก็คือการทำคอร์สสอนออนไลน์นั่นเอง

สิ่งที่คุณต้องลงทุน

• อุปกรณ์บันทึกภาพและเสียงที่ได้มาตรฐานกับการเปิดแพลตฟอร์มขึ้นมาเป็นของตนเอง
• การไปขอใช้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้องกับการทำคอร์สออนไลน์

ลงทุนในทักษะและความรู้ใหม่ๆเพื่อต่อยอดไปเป็นการหารายได้ในอนาคต

• นำไปลงทุนในความรู้และทักษะที่สามารถต่อยอดเป็นการสร้างรายได้ในอนาคต
• ในปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์มากมายที่เปิดสอนเพื่อเพิ่มพูนทักษะและความสามารถของคุณตามแต่ความสนใจ ยกตัวอย่างเช่น
• คอร์สฝึกภาษา
• คอร์สสอนการทำอาหาร
• คอร์สสอนการลงทุน
• คอร์สสอนการถ่ายภาพ
• ซึ่งทักษะที่น่าสนใจเหล่านี้คุณสามารถเรียนรู้เพื่อต่อยอดไปเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ในอนาคต
• สามารถต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าให้ตัวเองในงานประจำก็ได้เช่นกัน การลงทุนในความรู้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจที่เราอยากจะแนะนำให้แก่คุณ

ลงทุนอะไรดี ทำกำไรได้ดี

ลงทุนอะไรดี 2566 ที่จะทำกำไรได้ดี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณและความเหมาะสมของการลงทุน ถ้าคุณต้องการการลงทุนที่แน่นอนและมีการจ่ายเงินปันผลตลอดเวลา การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อจะยังดำเนินต่อไป และความผันผวนยังคงอยู่

แต่หากนักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ เข้าใจแนวโน้มใหญ่หรือเทรนด์สำคัญในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งกำลังกดดันและชี้นำสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก คุณอาจลงทุนในกองทุนรวมหรือกองทุนเปิด ซึ่งจะมีการบริหารจัดการโดยนักลงทุนมืออาชีพ และคุณอาจได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและการเพิ่มมูลค่าของกองทุน มีการลงทุนแบบไหนบ้างไปดูกันเลย

การฝากเงินกับธนาคาร

• การลงทุนแบบนี้เป็นการลงทุนแบบ ความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็ต่ำตามไปด้วย
• ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นจะเป็นไปตามเงื่อนไขของที่ทางธนาคารกำหนด และการฝากเงินก็มีหลายประเภท ดังนี้
• เงินฝากประจำ
•  เงินฝากระยะยาว
•  เงินฝากออมทรัพย์
• ซึ่งในแต่ละประเภทก็ให้ผลตอบแทนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนจะเลือกฝากแบบไหน

การลงทุนกองทุน

• การลงทุนแบบนี้เหมือนกับเราเอาเงินของเราไปฝากให้ ที่มีประสบการณ์ในการลงทุน เป็นตัวแทนของเราในการลงทุนในที่ต่าง ๆ
• ดังนั้นความเสี่ยงก็ไม่มากจนเกินไป แถมยังได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจทีเดียว

การลงทุนแบบผสม

• การลงทุนแบบผสมคือการฝากเงินส่วนหนึ่ง ลงทุนในกองทุนส่วนหนึ่ง ลงทุนในตลาดหุ้นส่วนหนึ่ง การลงทุนแบบนี้เป็นการลงทุนแบบ กระจายความเสี่ยง
• เนื่องจากการลงทุนแบบนี้ ท่านอาจจะขาดทุนจากการลงทุนหุ้น แต่ยังมีกำไรจากการลงทุนในกองทุน และยังได้ดอกเบี้ยจากทางธนาคาร แต่ต้องชั่งน้ำหนักว่าจะลงทุนแบบไหนมากกว่ากัน

การลงทุนในตลาดหุ้นแบบระยะยาว

• การลงทุนแบบนี้คือให้เจ้าของเงินซื้อหุ้นตัวที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือเรียกว่า หุ้น Blue-Chip โดยที่ไม่ต้องขายทำกำไรระยะสั้น แต่ให้ไปหวังผลจากเงินปันผล หรือ ขายเมื่อตัวราคาหุ้นขึ้นสูงไปมาก ๆ แล้วแทน
•  ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะต้องเป็นเงินเย็น คือเงินที่คิดว่าจะไม่นำไปใช้ที่ไหนอีกแล้วเพราะการขายหุ้นและถอนเงินออกมา อาจจะทำให้ขาดทุนในขณะนั้นก็เป็นได้

การลงทุนในตลาดหุ้นแบบระยะสั้น

• เป็นการซื้อขายหุ้นแบบ ไม่เกิน 1 อาทิตย์ หรือบางตัวซื้อขายภายในวันเดียวกัน
• ซึ่งการลงทุนแบบนี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องรู้ความเป็นมาเป็นไปของหุ้นรายตัวที่ซื้อ พร้อมทั้งมีการคาดคะเนตลาด การซื้อขายที่รวดเร็ว แต่ผลตอบแทนของการลงทุนแบบนี้จะได้มาเยอะมาก
• ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถ ซื้อขายหุ้น ภายใน 1 วันโดยทำกำไรได้ 300 บาทต่อตัว แต่ถ้าเราซื้อขายได้ 20 ครั้ง โดยกำไรเฉลี่ยได้ถึงตัวละ 200 ตลอดอาทิตย์จะได้กำไรเท่าไหร่

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ที่จะลงทุนควรศึกษาข้อดีข้อเสีย หรือระดับความเสี่ยงของแต่ละการลงทุนให้เข้าใจเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มลงทุน และต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าเงินที่ท่านจะนำมา ลงทุนนั้นเป็นเงินสำหรับลงทุนจริงๆ

ลงทุนอะไรดี ทำก่อนได้เปรียบ

มีอะไรน่าลงทุนบ้าง เตรียมตัวกันไว้ก่อนจะได้เปรียบมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม

• จากที่สินค้าได้รับการตอบรับที่ดีอยู่แล้ว เพราะผู้บริโภคสามารถจับจ่ายสินค้าเพื่อนำไปใช้ดูแลสุขภาพตัวเองที่บ้าน
• สำหรับในปี 2566 ธุรกิจบริการด้านสุขภาพที่ต้องเอาตัวออกมานอกบ้านก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก เช่น
• สปา
• นวดไทย
• นวดหน้า
• บริการด้านส่งเสริมรูปร่างและความงาม
• คลินิกศัลยกรรม
• ฟิตเนส

2. ธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์

• กลุ่มร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงคุณภาพ เช่น กลุ่มโซเดียมต่ำหรืออื่น ๆ โปรตีนจากพืช
• อาหารสุขภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมไปถึงอาหารที่ไม่ทำร้ายโลก เช่น ธุรกิจอาหารที่มีการเลี้ยงสัตว์ที่นำมาผลิตอาหารที่ลดก๊าซมีเทน
•  ธุรกิจอาหารที่ได้มาจากการปลูกพืชที่ไม่ได้เกิดจากการเผาไร่ หรือทำลายผิวดิน อาหารที่ลดการใช้สารเคมีทั้งในอาหาร และไม่ทิ้งสารเคมีไว้ให้สิ่งแวดล้อม

3. ธุรกิจการค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์

• การใช้แพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ร่วมกับการมีหน้าร้านแบบออฟไลน์ แบบ Omni Channel ที่ผู้บริโภคจะค้นหาสินค้าแบบออนไลน์
• ผู้บริโภคสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าในทันที ยังจะออกมาสัมผัสสินค้าตัวจริงที่อยู่บนหน้าร้านแบบออฟไลน์ก่อนจะไปตัดสินใจซื้ออีกครั้งบนออนไลน์
• จำนวนหนึ่งก็ตัดสินใจซื้อที่หน้าร้านแบบออฟไลน์ ดังนั้นในปี 2566 ธุรกิจร้านค้าปลีกต่าง ๆ ต้องพร้อมที่รองรับการจับจ่ายของลูกค้าทุกรูปแบบ

4. ธุรกิจกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ

• อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น แบตเตอรี่ เหล็ก
• กลุ่มนวัตกรรมประหยัดพลังงานอื่น ๆ เช่น แผงโซลาร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
• เซ็นเซอร์ที่ใช้ในครัวเรือน เช่น เซ็นเซอร์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพื่อสร้างความเหมาะสมในการใช้พลังงานในบ้าน
• เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการเป็น Smart Home รวมไปถึงงานบริการที่เกี่ยวกับการออกแบบติดตั้งระบบนวัตกรรมประหยัดพลังงานเพื่อโลกและคุณภาพชีวิต

5. ธุรกิจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง

• ธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงจึงมีโอกาสที่จะเติบโต ซึ่งรวมการกิน อยู่ นอน ขับถ่าย พักผ่อน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
• ธุรกิจอาหารสัตว์คุณภาพสูง อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แชมพูดูแลขน ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟัน ของเล่น เสื้อผ้า ที่นอน ที่ให้อาหารอัตโนมัติ
•  บริการสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร แบบ Pet Friendly รวมถึงกิจกรรมสัตว์เลี้ยง เช่น สถานที่สำหรับสัตว์ได้วิ่งเล่น สระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

6. ธุรกิจท่องเที่ยว ขนส่งผู้โดยสาร ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเพื่อความบันเทิง

• จากการคาดการณ์ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเกือบเหมือนปกติก่อนโควิดจะหมด
• กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกไปนอกบ้านของผู้คนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปท่องเที่ยวใกล้ หรือไกล การขนส่ง ธุรกิจรถเช่า
• ธุรกิจที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมบันเทิงและสันทนาการใด ๆ การพักผ่อน การรับประทานอาหาร กลุ่มนี้ล้วนมีโอกาสในปี 2566 นี้

การลงทุนอย่างยั่งยืน ที่น่าสนใจ

การลงทุนอย่างยั่งยืนที่น่าสนใจ ดังนี้

ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)

• จากการคาดการณ์ของ International Energy Agency  พบว่าพลังงานหมุนเวียนจะมาเป็นแหล่งพลังงานหลักแทนที่ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกในปี  2568 และคิดเป็น 1 ใน 3 ของพลังงานทั้งหมด
• โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  ต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ลดลงถึง 82%  โดยมองว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะลดลง 40 – 50%  ในอีก 10 ปีข้างหน้า
• จากเทคโนโลยีการแข่งขันและการประหยัดจากขนาดการผลิต  ซึ่งในกลุ่มนี้โรงไฟฟ้าในยุโรปมีเสถียรภาพและงบดุลแข็งแรงที่สุด ส่วนสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทาน (Electric Vehicle)

• Goldman Sachs และ Deloitte ประเมินว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 18% และ 29% ในอีก 10 – 20  ปีข้างหน้า และจะมีอัตราเร่งตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
• โดยภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูง คือ จีนและยุโรป  โดยการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทานนั้นมีตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์  ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนในแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่

ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security)

• สงครามรัสเซีย  – ยูเครน ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกและทำให้พืชผลสำคัญลดลง  ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น
• สิ่งนี้ได้ผลักดันให้ผู้นำเข้ากระจายแหล่งอุปทานและมองหาแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มผลตอบแทนด้วยการอาศัยเทคโนโลยีและเครื่องจักรมากขึ้น
• ขณะเดียวกัน บริษัทจำนวนมากเพิ่มการลงทุนในการผลิตหรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น
• ความมั่นคงทางอาหารจึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป  ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  การแข่งขันทางการค้าในหลายประเทศ รวมถึงจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
•  ทำให้ความต้องการปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น ธุรกิจอาหารมีบทบาทเพื่อเพิ่มปริมาณอาหารให้มีความเพียงพอกับประชากรโลก

การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)

• วิถีชีวิตใหม่ทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน การชอปปิงออนไลน์ การทำธุรกรรมทางการเงิน  หรือแม้แต่การศึกษาออนไลน์  ทำให้การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก  และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
• โดยองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น  หมายความว่า องค์กรต่าง ๆ  ทั่วโลกจะจัดงบประมาณเพื่อลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น

ในปี 2566 ธุรกิจด้านนี้จะเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าการลงทุนอย่างยั่งยืน  ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนที่ดีได้  แต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้

ธุรกิจมาแรงเป็นดาวรุ่ง

มีธุรกิจอะไรบ้างไปดูกันเลย

1) ธุรกิจการแพทย์และความงาม

• ครองอันดับ 1 มาต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน สืบเนื่องจากการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ และความต้องการการดูแลเรื่องความสวยความงามและผิวพรรณ

2) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจที่ทำการซื้อ-ขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์

• เป็นธุรกิจที่ให้บริการซื้อ-ขายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งมีปริมาณการใช้งานจำนวนมาก และมีโอกาสทางธุรกิจในการขายสินค้าและบริการต่างๆ ได้หลากหลาย
• ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจในเวลานี้ที่เติบโตเร็วมาก และมีความโอกาสในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่สนใจ

3) ธุรกิจโซเชียลมีเดียและออนไลน์ เอนเทอร์เทนเมนต์

• เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในโลกออนไลน์ ได้แก่ การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย การสร้างและให้บริการเนื้อหาและเกมออนไลน์ และการให้บริการด้านการเรียนการสอนออนไลน์
• ธุรกิจโซเชียลมีเดียและออนไลน์ เป็นธุรกิจในเวลานี้ที่เติบโตเร็วมาก และมีความโอกาสในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่สนใจ

4) ธุรกิจด้านฟินเทค (Fintech) และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี

• เป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีในการให้บริการด้านการเงินและการชำระเงิน เช่น การชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ต การเปิดบัญชีเงินฝากผ่านแอปพลิเคชัน การให้บริการการเงินโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เป็นต้น
• ซึ่งธุรกิจนี้มีโอกาสการเติบโตและมีปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

5) ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ YouTuber การรีวิวสินค้า และอินฟลูเอนเซอร์

• ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการก้าวหน้าและเติบโตในปี 2566 เนื่องจากการเปิดตัวอินฟลูเอนเซอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ ทำให้ความต้องการของผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
• ธุรกิจ YouTuber การรีวิวสินค้า และอินฟลูเอนเซอร์ ก็เป็นธุรกิจที่เป็นแนวโน้มในปัจจุบัน สามารถเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมได้สำหรับผู้ที่มีความสามารถในการสร้างเนื้อหา และเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้สนใจ

ความเห็น Pantip

Pantip เป็นเว็บไซต์สำหรับการแสดงความเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น เทคโนโลยี การเงิน โลจิสติกส์ การเขียน และอื่นๆ ซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทย อาจสามารถใช้งานเป็นเว็บไซต์ในการเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาและเรื่องต่างๆ และเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาหลักสูตร และการทำงาน ในบทความนี้เรามาดูความเห็นกันว่ามีเงิน 100000 บาท ลงทุนอะไรดี เราไปดูพร้อมๆกันเลย

กระทู้ความเห็นที่ 1

Cr : ขอบคุณภาพประกอบ

หัวข้อกระทู้

• สอบถามครับ มีทุน 100,000 บาท ลงทุนอะไรดีครับ อยากหารายได้เสริม ตอนนี้ทำงานประจำครับ

รายละเอียดกระทู้

สอบถามครับ มีทุน 100,000 บาท ลงทุนอะไรดีครับ อยากหารายได้เสริม ตอนนี้ทำงานประจำครับ อกหักครับ ฟุ้งซ่านอยากหาอะไรทำ พัฒนาชีวิต สร้างรายได้เพิ่ม พอมีผู้แนะนำการลงทุนไหมครับ (ขอผ่านน่ะครับ เทรดคริปโต ไม่มีความรู้) ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 1

• defiเลยครับปีละ50%

ความคิดเห็นที่ 2

• พัฒนาตัวเองครับ ลองหัดทำอะไรที่อยากทำ หรือที่ชอบทำแต่ไม่มีโอกาสทำซะทีได้ทำสิ่งที่เรารัก เราชอบ เดี๋ยวรายได้จะตามมาเอง ถ้าอยากมีความรู้เรื่องการเงินการลงทุน ลดหย่อนภาษี ไปอ่านกระทู้นี้ครับ https://pantip.com/topic/37903747

ความคิดเห็นที่ 3

• ถ้าสมัยก่อน ก็หมูปิ้ง สมัยนี้คง คริปโต

ความคิดเห็นที่ 4

• ถ้ายังไม่รู้จะลงทุนอะไรอย่าใจร้อน ลงทุนกับความรู้ไปก่อน  ทั้งความรู้งานเพื่อให้ได้เงินเดือนหรือตำแหน่งสูงขึ้นหรือการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ไปก่อนครับอย่ารีบร้อน เดี้ยวเงินจะหายไปทั้งหมด

ความคิดเห็นที่ 5

• ลงคอร์สออนไล์ก่อน อยากเรียนรู้อะไรไปหาเรียนเลย
  คริปโตไม่สน เคยลงกองทุนรวมยังคะ ไม่เลวนะ (แต่เลือกกองดีๆ)

กระทู้ความเห็นที่ 2

Cr : ขอบคุณภาพประกอบ

หัวข้อกระทู้

• มีเงินเย็นอยู่ 100,000 บาท ลงทุนอะไรดีครับ

รายละเอียดกระทู้

อายุ 33 เพิ่งจะมีเงินเก็บครบ 1 แสนบาท ตอนนี้ฝากออมทรัพย์ออนไลน์ดอก 1.5 % แต่ได้น้อย หรือมีที่ไหนฝากได้มากกว่านี้ ดอกเบี้ยมากกว่า ลงทุนอะไรดีครับ ถือยาวได้ครับ ทองดีไหม ถ้าหุ้นของ 5 ตัวตรงๆเลยครับ ขอกันอย่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 1

• ลองหาหุ้นดีๆสักตัวถือครับ

ความคิดเห็นที่ 2

• ลง defi ครับ

ความคิดเห็นที่ 3

• ผมจะไม่บอกให้คุณไปขายหมูปิ้ง หรือแทงแมนยู แต่จะบอกว่า
  >>>ถ้าหุ้นของ 5 ตัวตรงๆเลยครับ ขอกันอย่างนี้เลยนะครับ แสดงว่ายังมองหุ้นเหมือนหวย ติดว่าถ้าได้ 5 ตัวแล้วจะได้กินเหลา จริงๆแล้วหุ้นตัวเดียวกัน ซื้อต่างเวลา ต่างราคาก็ให้ผลต่างกัน จริงๆแล้วแล้วเงิน 100,000 เอามาเล่นรอบ หรือ เล่นแบบ ViVi ก็ต้องมีประสบการณ์ค่าเล่าเรียน หรือจะเอามาถือแบบ VI จำนวน 5 ตัว สมมตราคา 10 บาท/หุ้น 5 ตัว ก็ตัวละ 2000 หุ้น รอปันผลสมมติ ปันผลปีละ 0.20 บาท/หุ้น  ก็จะได้ปันผล 1,800 บาท/100,000 บาท =1.8% ได้มากกว่านี้ไหมอาจได้ แต่คุณต้องเข้าใจในตลาด เข้าใจวิธีเทรด เหมือนว่ายน้ำต้องลงเองทำเอง กว่าจะว่ายเก่งก็กินน้ำหลายอึกจะว่ายท่า กบ ฟรีสไตน์ ผีเสื้อ ก็ต้องว่ายนานๆ
  คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยลงทุนในหุ้น มักคิดว่าง่ายๆ ซื้อตามเซียน ขอหุ้นเด็ด
  ส่วนใหญ่จะบอบช้ำ แต่ถ้าลงมาลุยเอง แผลเต็มตัว ยืนระยะให้ได้ ถ้าไม่หมดตัวก่อนก็เป็นผู้อยู่รอดเหมือนสร้างบ้านต้องก่อฐานก่อน…ไม่ได้ทำหลังคาก่อนก่อฐาน สรุป ต้องใช้เงิน เวลา และ ประสบการณ์ครับ

ความคิดเห็นที่ 4

• ซื้อหุ้นลงทุนหมื่นกว่าบาท กำไรมาพันนึง ค่าขนม

ความคิดเห็นที่ 5

• ขอหุ้นเด็ดในนี้ ก็จะได้หุ้นที่คนนั้นๆถืออยู่นั่นแหละ
  ซึ่งมัน bias ล้วนๆ

สรุป

จากกระทู้ใน Pantip ที่มีหัวข้อกระทู้ที่ว่า มีเงิน 100000 ลงทุนอะไรดี จากการรวบรวมความคิดเห็นที่มาแสดงในกระทู้จะเห็นได้ว่า ความคิดเห็นส่วนให้แล้วให้การลงทุนไปในทางการนำเงินไปหากำไร ดอกเบี้ย โดยการไปลงทุน หุ้น หรือการนำเงินไปฝากออมทรัพย์ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยดีกว่านำไปทำอย่างอื่น แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในรูปแบบต่างๆมีความเสี่ยงควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน