การประกอบอาชีพของประชาชนในไทยในปัจจุบันมีความเจริญเติบโตและมีการแบ่งปันประโยชน์ระหว่างกลุ่มภาคธุรกิจใหญ่และภาคเอกชน แต่ยังมีปัญหาในการสร้างงานให้กับประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่ำ และยังคงมีปัญหาในการให้ความสำคัญต่อการศึกษาและการฝึกอาชีพ ที่หลายๆคนเข้าไม่ถึง ในบทความนี้เรามาดูว่า อาชีพที่ให้เงินเดือนสูงจะมีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
อาชีพคืออะไร
อาชีพ (Occupation) เป็นการประกอบอยู่และทำงานในหน้าที่หรือตำแหน่งใดๆ ที่ให้รายได้ และสามารถใช้เวลาและความสามารถของตนในการประกอบอาชีพ อาชีพสามารถแบ่งเป็นหลายประเภท เช่น ธุรกิจ, วิชาชีพ, การเกษตร, การบริการ, การศึกษา, การวิจัย และอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถและความต้องการของแต่ละบุคคล
กลุ่มอาชีพตามลักษณะการประกอบอาชีพ
สามารถแบ่งอาชีพตามลักษณะการประกอบอาชีพได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
1. อาชีพอิสระ
- อาชีพทุกประเภทที่ผู้ประกอบการดำเนินการด้วยตนเอง แต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นกลุ่ม
- อาชีพอิสระเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่หากมีความจำเป็นอาจมีการจ้างคนอื่นมาช่วยงานได้
- เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน และจำหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเองทุกเรื่อง
- ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานอาชีพ เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์
การประกอบอาชีพอิสระ
- ขายอาหาร
- ขายของชำ
- ซ่อมรถจักรยานยนต์
2. อาชีพรับจ้าง
- อาชีพที่มีผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการ
- โดยตัวเองเป็นผู้รับจ้าง ทำงานให้ และได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน
- อาชีพรับจ้างประกอบด้วย บุคคล 2 ฝ่าย ซึ่งได้ตกลงว่าจ้างกัน บุคคลฝ่ายแรกเรียกว่า “นายจ้าง” หรือผู้ว่าจ้าง บุคคลฝ่ายที่สองเรียกว่า “ลูกจ้าง” หรือผู้รับจ้าง มีค่าตอบแทนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ ผู้รับจ้างเรียกว่า “ค่าจ้าง”
- การประกอบอาชีพรับจ้าง โดยทั่วไปมีลักษณะ เป็นการรับจ้างทำงานในสถาน ประกอบการหรือโรงงาน เป็นการรับจ้างในลักษณะการขายแรงงาน โดยได้รับค่าตอบ แทนเป็นเงินเดือน
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการประกอบอาชีพ
การเลือกประกอบอาชีพที่บุคคลส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นอาชีพที่มีคุณค่า ซึ่งค่านิยมที่มีอิทธิพลต่อการประกอบอาชีพมี 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
ปัจจัยภายในที่มีอิทธิพลต่อการเลือกประกอบอาชีพ
- การได้ประกอบอาชีพที่ตนเองชื่นชอบ
- การประกอบอาชีพที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์
- การประกอบที่ท้าทายความสามารถของตนเอง
- การประกอบอาชีพที่สามารถแสดงความเป็นตัวตนของตนเอง
ปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการเลือกประกอบอาชีพ
- การประกอบอาชีพที่มีอำนาจ
- การประกอบอาชีพที่สะท้อนคุณค่า
- การประกอบอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูง
อาชีพเงินเดือนสูง
อาชีพรายได้ดี ที่มีฐานเงินเดือนสูงมีอะไรบ้าง อัตราเงินเดือนของแต่ละอาชีพล้วนขึ้นอยู่กับทักษะเฉพาะด้านและความสามารถของแต่ละบุคคล อาชีพที่มีเงินเดือนสูงจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
อาชีพที่เด็กจบใหม่สามารถทำเงินได้สูง ส่วนใหญ่อยู่ในสายงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้าน
ตารางแสดงอาชีพเด็กจบใหม่ที่ได้เงินเดือนสูง
สายงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้าน | |
อาชีพ | เงินเดือน |
โปรแกรมเมอร์ | เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท สูงสุดที่ 50,000 บาท |
เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ | เงินเดือน 35,000-45,000 บาท |
Financial Controller ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ | เงินเดือนอยู่ที่ 35,000-45,000 บาท |
เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ | เงินเดือน 30,000-35,000 บาท |
วิศวกรซอฟต์แวร์ | เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท สูงสุดที่ 35,000 บาท |
เจ้าหน้าที่งานจัดซื้อ | เงินเดือน 20,000-30,000 บาท |
ในตารางนี้ก็เป็น เงินเดือนของสายงานเด็กจบใหม่ที่เริ่มต้นด้วยเงินค่อนข้างสูง
อาชีพที่มีเงินเดือนพนักงานมีประสบการณ์
ตารางแสดงอาชีพพนักงานที่มีประสบการณ์ได้เงินเดือนสูง
พนักงานมีประสบการณ์ | |
อาชีพ | เงินเดือน |
AVP – Accounting and Finance | เงินเดือน 180,000-250,000 บาท (ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป) |
Financial Controller | เงินเดือน 150,000-350,000 บาท (ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป) |
นักวิเคราะห์การเงิน | เงินเดือน 30,000-250,000 บาท |
ที่ปรึกษาภาษีอากร | เงินเดือน 30,000-250,000 บาท |
นักกฎหมาย-นิติกร-ทนายความ | เงินเดือน 50,000-300,000 บาท |
ที่ปรึกษากฎหมาย | เงินเดือน 25,000-230,000 บาท |
Data Governance | เงินเดือน 120,000-250,000 บาท (ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป) |
Pre-Sales Consultant | เงินเดือน 70,000-250,000 บาท (ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป) |
Software / Solutions Architect | เงินเดือน 50,000-250,000 บาท |
วิศวกรซอฟต์แวร์ | เงินเดือน 25,000-270,000 บาท |
Research & Development Specialist โรงงานอุตสาหกรรม | เงินเดือน 50,000-230,000 บาท (ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป) |
- หากมีประสบการณ์มาแล้ว 1-5 ปี ฐานเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาท และสูงสุดได้ถึง 120,000 บาท
- แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป เงินเดือนเริ่มต้นจะอยู่ที่ 15,000 บาท และอาจได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานและความสามารถ
10 อาชีพเงินเดือนหลักแสน
อาชีพที่ได้เงินเดือนสูงหลักแสนจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ธุรกิจประกันภัย
- บริษัทที่ทำธุรกิจประกันภัยยังคงปรับตัวและปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้เท่าทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค
- รักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ตำแหน่งงานในธุรกิจประกันภัยมีอัตราเงินเดือนสูงเป็นอันดับ 1
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 30,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 62,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 80,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 120,000 บาทต่อเดือน
2. ธุรกิจไอที
- กลุ่มธุรกิจที่แรงดีไม่มีตกตลอดช่วงระยะเวลาหลายดีที่ผ่านมา เพราะการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยี และการพึ่งพาเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน
- ทำให้ยังคงมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ และแน่นอนว่าจะยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน
- ทำให้คนที่ทำงานในธุรกิจไอทียังคงยิ้มออกแม้จะอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง และแม้จะไม่ได้มีอัตราเงินเดือนสูงเป็นอันดับ 1 แต่ก็เรียกได้ว่ามีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยต่ำกว่าธุรกิจประกันภัยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 32,500 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 57,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 80,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 120,000 บาทต่อเดือน
3. ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เติบโตไปตาม ๆ กันกับกระแสดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงธุรกิจไอที เพราะจะมีเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมี Device ที่มาคอยเป็นอุปกรณ์ให้สอดรับกับการใช้เทคโนโลยีไฮเทคต่าง ๆ ด้วย
- ซึ่งอุตสาหกรรมธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 37,500 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 45,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 72,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 125,000 บาทต่อเดือน
4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ทำให้แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ดีเวลอปเปอร์วางแผนจะขยายโครงการมากขึ้นด้วย
- แม้จะมีอัตราการเติบโตไม่มากแต่ก็ยังมีตัวเลขการเติบโตให้ได้เห็น ที่สำคัญไปกว่านั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กล้าจ่าย เลยทำให้อัตราเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานในอุตสาหกรรมนี้ยังสูง
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 25,500 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 50,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 72,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 117,500 บาทต่อเดือน
5. ธุรกิจการธนาคารและการเงิน
- คนเราก็ยังต้องใช้เงินเป็นสื่อกลาง ทำให้ธุรกิจการธนาคารและการเงินยังคงมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนภาคเอกชน และเป็นที่รู้กันดีว่าคนที่ทำงานในธุรกิจนี้ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญไม่น้อย
- ทำให้อัตราเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานในธุรกิจการธนาคารในระดับเจ้าหน้าที่ไปจนถึงระดับผู้จัดการสูงพอ ๆ กับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจไอทีด้วยซ้ำ
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 32,500 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 57,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 80,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 95,000 บาทต่อเดือน
6. ธุรกิจการผลิตทั่วไป
- แน่นอนว่าคนเราต้องกินต้องใช้ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ เลยไม่ได้รับผลกระทบมาก
- ยังคงมุ่งหน้าหาคนมีคุณภาพเข้ามาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินเดือนซึ่งเป็นหนึ่งในแรงจูงใจมีอัตราสูง
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 45,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 67,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 120,000 บาทต่อเดือน
7. ธุรกิจ Trading และธุรกิจจัดจำหน่าย
- ธุรกิจการผลิตและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจ Trading และธุรกิจจัดจำหน่าย มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยที่สูงขึ้น
- ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ทำให้อุตสาหกรรมนี้ยังคงจ่ายเงินเดือนเฉลี่ยสูง
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 50,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 72,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 105,000 บาทต่อเดือน
8. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจจัดเลี้ยง
- สำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจจัดเลี้ยง แต่ด้วยมาตรการที่ผ่อนคลาย และคนเริ่มปรับตัวและหันมาใช้ชีวิตให้อยู่ร่วมกับโควิดได้
- ทำให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจจัดเลี้ยงมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวกลับมามีผลประกอบการที่ดีอีกครั้ง
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 50,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 72,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 105,000 บาทต่อเดือน
9. ธุรกิจขนส่ง
- จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคน และโควิด – 19 ที่เป็นตัวกระตุ้นอย่างดี ทำให้คนหันมาซื้อของออนไลน์ สั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานที่บ้านมากขึ้น
- สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยชั้นดีที่ทำให้ธุรกิจขนส่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้อัตราเงินเดือนที่ใช้จ้างงานคนในธุรกิจนี้ติดอันดับเข้ามาด้วย
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 42,000 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 72,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้บริหารระดับสูง มีเงินเดือนเฉลี่ย 105,000 บาทต่อเดือน
10. ธุรกิจโทรคมนาคม
- การสื่อสาร สัญญาณโทรศัพท์ WiFi และสัญญาณอินเตอร์เน็ตยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่คนยุคดิจิทัลขาดไปไม่ได้
- ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมยังคงมีแนวโน้มที่จะยังเติมโตอยู่
เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับตำแหน่ง
- ระดับเจ้าหน้าที่ มีเงินเดือนเฉลี่ย 32,000 บาทต่อเดือน
- ระดับหัวหน้างาน มีเงินเดือนเฉลี่ย 57,500 บาทต่อเดือน
- ระดับผู้จัดการ / อาวุโส มีเงินเดือนเฉลี่ย 82,500 บาทต่อเดือน
นี้ก็เป็นตัวอย่าง 10 อาชีพ ที่มีเงินเดือนระดับแสน คนที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ จะใช้เป็นข้อมูลเอาไว้ในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งเป้าไว้กับการประกอบอาชีพของตัวเอง
อาชีพเงินเดือนหลักล้าน
เงินเดือนหลักล้านย่อมเป็นความใฝ่ฝันของพนักงานเงินเดือนทั้งหลายอยู่แล้ว หลายคนคงนั่งคิดต่อไปว่า จะต้องทำงานอีกกี่ปี ถึงจะได้เงินเท่านี้ จะมีอาชีพอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ผู้จัดการด้านการเงิน
- เป็นอาชีพที่ครองแชมป์เงินเดือนสูงลิบลิ่วที่สุด ณ ตอนนี้ ถึงปีละ 130,230 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยแค่เพียง 4.68 ล้านบาท
- แต่ถ้าพูดถึงหน้าที่ของอาชีพนี้แล้วก็สมควรแก่เงินเดือนจริงๆ เนื่องจากต้องรับผิดชอบงานเยอะ และรับแรงกดดันสูงมากๆ
- ต้องบริหารเงินของบริษัทให้งอกเงยมากที่สุด แถมต้องวางแผนการเงิน และบริหารความเสี่ยงให้ดีมีประสิทธิภาพ
- เกิดความคุ้มค่าแก่บริษัท จึงไม่น่าแปลกใจที่อาชีพนี้จะได้รับค่าตอบแทนสูง และมีโอกาสเติบโตในหน้าที่มากเป็นอันดับหนึ่งนั่นเอง
2. ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจ
- เป็นอาชีพที่ได้เงินเดือนเยอะไม่แพ้กัน เพราะต้องดูแลบริหารจัดการทุกอย่างในบริษัทให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น เป็นระเบียบ
- รวมถึงสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ใหม่ๆ ให้บริษัทอยู่เหนือคู่แข่งตลอดเวลา ด้วยขอบเขตงานที่กว้างและรับผิดชอบมากมายแบบนี้
3. ที่ปรึกษาด้านการเงิน
- อีกอาชีพที่ได้รับเงินเดือนกันเป็นก้อนถึงปีละ 108,090 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.89 ล้านบาท
- งานที่เคร่งเครียดที่ต้องให้คำปรึกษา วางแผน และรักษาความลับการเงินของลูกค้า จึงทำให้อาชีพนี้ได้รับผลตอบแทนที่ดีงาม
- ทั้งยังสามารถเติบโตในแวดวงการเงินการธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ และธุรกิจประกันได้อย่างฉลุยอีกด้วย
4. นักสถิติ
- การข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์เชิงวิชาการ เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงให้แก่ธุรกิจต่างๆ ขอแนะนำให้ไปทำอาชีพนักสถิติกันเลย
- นอกจากคุณจะได้ทำประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูลให้แก่สังคมแล้ว คุณยังจะได้เงินเดือนปีละ 84,010 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้วก็อยู่ที่ 3.02 ล้านบาทกันเลยทีเดียว
5. นักคณิตศาสตร์
- เป็นอาชีพที่ตลาดต้องการตัวมากๆ โดยเฉพาะ “นักคณิตศาสตร์ประกันภัย” แต่คงเป็นอาชีพเฉพาะที่เหมาะกับคนที่มีใจรักในเรื่องตัวเลขอย่างจริงจัง
- ในแต่ละวันคุณจะต้องคลุกคลีกับตัวเลขเสมือนเป็นเพื่อนซี้คู่กาย แต่รู้มั้ยว่ารายได้ที่คุณจะได้รับก็สวยงามสมกับความเครียดที่ต้องเจอ เพราะเขาการันตีเงินเดือนเข้ากระเป๋าปีละประมาณ 104,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.75 ล้านบาท
6. นักบัญชี
- เป็นอีกหนึ่งอาชีพของคนที่มีใจรักในตัวเลขอีกเช่นกัน เพราะตลอดทั้งวันคุณจะต้องนั่งเพ่งกับยอดรายรับรายจ่ายของบริษัทไม่ให้หลุดรอดไปแม้แต่สตางค์เดียว
- แต่ค่าตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยของคุณก็คุ้มค่าไม่น้อย เพราะรายได้ต่อปีมีให้คุณถึง 73,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.65 ล้านบาท
7. ผู้จัดการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์
- เป็นอาชีพสุดฮอตฮิตในวงการแพทย์ขณะนี้ และกำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก
- ส่วนหน้าที่ก็หนักหน่วงเอาการ เพราะต้องคอยวางแผนและประสานงาน เสมือนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์
- เพื่อให้การบริการดำเนินไปอย่างราบรื่น เรียบร้อย และรวดเร็วที่สุด
- ส่วนเงินเดือนไม่ต้องให้บอก เพราะคุณจะได้ปีละ 103,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.74 ล้านบาทเป็นค่าตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยไปเลย
8. พนักงานสินเชื่อ
- เห็นเงินเดือนแล้วแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะได้มากขนาดนี้ เพราะรายได้ปีละ 73,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.65 ล้านบาท
- เงินเดือนที่คุณจะได้รับ และคาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8% อีกด้วย
9. เจ้าหน้าที่ระดมทุน
- ด้วยเงินเดือนปีละ 56,840 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย 2.04 ล้านบาท
- แต่ก็ต้องอาศัยทักษะเฉพาะตัวและความรับผิดชอบที่สูงไม่แพ้กัน ต้องสามารถพูดโน้มน้าวเพื่อขอระดมทุนให้องค์กรการกุศล หรือพรรคการเมืองต่างๆ ได้จำนวนมากๆ
- จึงไม่แปลกใจว่าทำไมอาชีพนี้ถึงเป็นที่ต้องการ แถมได้ค่าตอบแทนมากโขถึงเพียงนี้
อาชีพเงินเดือนเป็นล้าน ทะลุเป็นหลักล้านเท่า ขอเพียงทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ สักวันหัวหน้าจะต้องเห็นความตั้งใจจริง และตอบแทนด้วยการขึ้นเงินเดือนงามๆ ให้คุณอย่างแน่นอน
อาชีพเงินเดือนสูงที่สุดไทยมีอะไรบ้าง
สายอาชีพที่มีเงินเดือนสูงในประเทศไทยจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
งานไอที
อาชีพสายงานนี้
- วิศวกรคอมพิวเตอร์
- โปรแกรมเมอร์
- พนักงานฝ่ายไอที
- งานลักษณะนี้จะเป็นงาน ที่ใช้ทักษะเฉพาะทาง ในเรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
- ซึ่งถือเป็นฐานความรู้ที่สำคัญ สำหรับการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวสู่โลกยุคดิจิตอลในอนาคต
- ซึ่งเป็นไปได้ว่า ความต้องการจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกยุคใหม่ ที่มีการใช้เทคโนโลยีกันอย่างกว้างขวาง
งานบริการด้านการแพทย์
อาชีพสายงานนี้
- แพทย์
- เจ้าหน้าที่บำบัด
- เภสัชกร
- ถึงแม้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะช่วยให้อะไรง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ เทคนิคในการรักษาใหม่ ๆ
- แต่ความเจ็บป่วยสำหรับคนเรา ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้อยู่ดี ดังนั้นสายงานทางการแพทย์ ก็ยังคงฮิตติดเทรนด์ในทุกช่วงเวลา
- เงินเดือนเริ่มต้นอาจไม่สูงมาก โดยเฉพาะถ้าทำเป็นข้าราชการ แต่ถ้าทำในโรงพยาบาลเอกชน บอกเลยว่าช่วงเงินเดือน 24,000-40,000 บาท เลยทีเดียว
งานวิศวกรรม
อาชีพสายงานนี้
- พนักงานขายงานวิศวกร
- วิศวกรไฟฟ้า
- อีกหนึ่งงานในใจของชายหนุ่มหลาย ๆ คน ต่างมีความฝันว่าอยากเป็นวิศวะกันแทบทั้งสิ้น เพราะส่วนใหญ่จะเป็นงาน ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนัก และที่สำคัญรายได้ก็หนักตามไปด้วย
- ซึ่งปัจจุบันผู้หญิงก็เริ่มเรียนในสายนี้กันมากขึ้น อาจเป็นเพราะโลกเปลี่ยนไป ซึ่งทำให้ความเท่าเทียมกันทางเพศ มีมากกว่าในอดีตค่อนข้างมาก
งานบริการเฉพาะทาง
อาชีพสายงานนี้
- นักกฎหมาย
- เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ธุรกิจ
- ล่ามภาษาญี่ปุ่น
- การติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย การทำธุรกิจร่วมกัน การติดต่อโดยการแปลภาษา และอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะอาชีพ เน้นความสามารถเฉพาะทาง
- ในอนาคตมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่จบสาขาดังกล่าว เนื่องจากจะมีความรู้ความเข้าใจ พัฒนาทักษะเกี่ยวกับงานได้เป็นอย่างดี รายได้เริ่มต้นจึงสูงตามลำดับ
งานโทรคมนาคม
อาชีพสายงานนี้
- วิศวกรระบบขนส่งมวลชน
- วิศวกรเครือข่าย
- เจ้าหน้าที่เทคนิค
- สำหรับสายอาชีพที่ช่วยวางแผนงาน เกี่ยวกับรากฐานของประเทศ หนึ่งในนั้นต้องมีทีมระบบโทรคมนาคม
- ซึ่งเป็นอาชีพอันดับต้น ๆ ในปัจจุบันที่ทุกคนใฝ่ฝัน เพราะถึงแม้จะเพิ่งเปิดสอนในบางมหาวิทยาลัย แต่ก็ถือว่าเป็นคณะที่โด่งดังไม่น้อย
- เมื่อจบออกมา รายได้ก็ไม่น้อยเช่นกัน เพราะได้ช่วงเงินเดือนราว ๆ 25,000-30,000 บาท
- ซึ่งบอกเลยว่า ยิ่งมีประสบการณ์ ยิ่งมีการเลื่อนตำแหน่ง ยิ่งรายได้สูงขึ้นเท่านั้น
อาชีพเงินเดือนสูงในอนาคต
อาชีพมาแรงในอนาคต มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
สาย Digital Marketing and Sales
1) Sales and Digital Marketing Manager
- อาชีพที่ต้องการในอนาคต และไม่มีวันตกยุค เพราะตั้งแต่สมัยโบราณมามนุษย์ก็เริ่มค้าขายด้วยการแลกสิ่งของกันแล้ว
- แตกต่างที่อาชีพนี้มี Hard Skill ที่เพิ่มขึ้นทุกยุคสมัย โดย Sales and Digital Marketing Manager อีก 10 ปีข้างหน้าจะถูกคาดหวังให้เป็นหัวเรือสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้ายุค Metaverse ที่มีการแข่งขันสูง
เรทเงินต่อเดือน
- 40,000-50,000 บาท (1-5 ปี) และ 50,000-250,000 บาทขึ้นไป (มากกว่า 5 ปี)
2) Digital Marketing Analyst
- Digital Marketing Analyst อาชีพมาแรงในอนาคต ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นเหมือนลูกผสมระหว่าง Data Analyst และ Digital Marketing
- มีหน้าที่หลักคือการหา Customer Insight, Market Research และ ข้อมูลที่เกี่ยวพันกับแคมเปญโฆษณา หรือ สินค้าของบริษัท
- เพื่อนำข้อมูลมายิงโฆษณา ตั้ง A/B Testing หรือ เสนอแผนงานแคมเปญต่างๆ ในกับฝ่าย Sales and Marketing หรือ ฝ่ายผลิตต่างๆในบริษัทใหญ่ตำแหน่งนี้มีบทบาทที่สำคัญมาก
เรทเงินต่อเดือน
- 50,000 – 80,000 บาท
สาย AI and Software Development
1) AI and Machine Learning Engineer
- AI and Machine Learning Engineer (AI and ML) คือ อาชีพที่มีความต้องสูงในอนาคต เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและการเรียนรู้ของเครื่องจักร
- ในปัจจุบันที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์ ทั้งการฝังชิปใน Smart Phone และ หุ่นยนต์ที่เราเห็นล้วนเกิดจากการวิเคราะห์ของคนทำงานสายนี้
- ซึ่งจะยิ่งเป็นที่ต้องการตัวมากขึ้นเมื่อระบบ Automation ถูกนำมาใช้ในการทำงาน
เรทเงินเดือนต่อปี
- เฉลี่ย 749,756 บาทต่อปี
2) Software and Applications Developers and Analysts
- อาชีพที่มีบทบาทสำคัญมากในหลายๆ ธุรกิจ เมื่อปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานในบริษัทมากขึ้น
- อาชีพ Software and Application Developers จึงเป็นกำลังสำคัญ
- โดยคนทำอาชีพนี้จะต้องมีความเข้าใจและเชี่ยวชาญตั้งแต่การระบุความต้องการของผู้ใช้งาน พัฒนาระบบ Information Technology (IT) ของบริษัทอย่าง Hardware, Software และ Applications ที่กำลังเป็นที่นิยมให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้
เรทเงินต่อเดือน
- 50,000 – 140,000 บาท
สาย Data
1) Data Analysts
- ในยุค Data Driven ที่ข้อมูลกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำการตลาด ธุรกิจ และการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ
- ทำให้อาชีพสาย Data Analyst เติบโตขึ้นอย่างมาก แค่ลองเสิร์ชใน JobsDB ก็เจองานที่เปิดรับมากกว่า 5000+ งานแล้ว
- บทบาทของอาชีพนี้จะต้องวิเคราะห์ข้อมูล Insights เพื่อการวางกลยุทธ์ ประเมินยอดขาย ลดต้นทุนทางธุรกิจ และ ใช้ข้อมูลในการสนับสนุนการทำงานของฝ่าย Marketing, Business management, Supplier เป็นต้น
เรทเงินต่อเดือน
- 40,000-50,000 บาท (1-5 ปี) และ 80,000-120,000 บาทขึ้นไป (มากกว่า 5 ปี)
2) Data Scientists
- หนึ่งใน อาชีพที่เงินเดือนสูง ไม่ตกงาน และอนาคตไกลสุดๆ แถมยังทำงานแบบ Globalization ได้สบายๆ
- Data Scientists (DS) คือ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างเป็นโมเดล (Model) หรือ เครื่องมือ (Tools) ที่่ใช้สำหรับทำการตลาด
- วางแผนธุรกิจ หลักๆ จะแบ่งหน้าที่เป็นสองส่วน คือ วิเคราะห์และทำนายผล (Predictive Analytics) เช่น ทำนายยอดขาย และ วิเคราะห์เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Operations Optimization) ใช้กับเครื่องมือ Automation ในองค์กร
เรทเงินต่อเดือน
- 35,000-40,000 บาท (1-5 ปี) และ 80,000 บาทขึ้นไป (มากกว่า 5 ปี)
สาย Organization and Management
- Digital Transformation Consultants
- Digital Transformation คือ การนำ Digital Technology มาปรับใช้กับทุกภาคส่วนขององค์กรตั้งแต่รากฐาน
- การเอาดิจิทัลเข้ามาปรับกระบวนการทำงานทั้งหมด ข้อดีคือสามารถให้วิ่งตามกระแสของโลกได้ทัน
- แต่การจะปรับเปลี่ยนกระบวนการแบบเดิมไม่ใช่เรื่องง่ายจึงต้องมี Digital Transformation Consultant เข้ามาช่วยในการเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีและระบบขององค์กร
- วิเคราะห์กลยุทธ์พัฒนา สร้าง Digital Journey โดยอาชีพนี้มักเป็นที่ปรึกษาฟรีแลนซ์ หรือ สัญญาจ้างในการให้คำปรึกษา
เรทเงินเดือนต่อปี
- เฉลี่ย 799,101 บาทต่อปี
2) General Business Operations manager
- ผู้ที่คอยจัดการ Workflow หรือ ระบบการทำงานภายในองค์กรให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
- โดยดูแลควบคุมทั้งระดับแผนก และ องค์กร จุดประสงค์เพื่อให้การทำงานมีระบบระเบียบตั้งแต่รากฐานจนถึงส่งออกให้กับลูกค้า
เรทเงินเดือนต่อปี
- เฉลี่ย 746,409 บาทต่อปี
3) Organizational Development Specialists
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กร มีหน้าที่ในการพัฒนาและปรับปรุงองค์กรอย่างต่อเนื่อง
- โดยจะมีการประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแต่ละแผนก เป็นผู้ดูแลการฝึกอบรม พัฒนาพนักงาน เพื่อการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
เรทเงินเดือน
- เฉลี่ย 131,000 บาทต่อเดือน โดยมีเรทตั้งแต่ต่ำสุดถึงสูงสุดอยู่ที่ 66,900-202,000 บาท
อาชีพยอดนิยมที่มีความต้องการสูงในยุคนี้
วิเคราะห์ข้อมูลจากสำนักสถิติแรงงานเพื่อจัดอันดับงานโดยพิจารณาจากความต้องการจ้างงาน การเติบโต เงินเดือนเฉลี่ย อัตราการจ้างงาน โอกาสในการทำงานในอนาคต ระดับความเครียด และความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน โดยตำแหน่งงานที่ดีที่สุด จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์
- พยาบาลเวชปฏิบัติ
- ผู้จัดการฝ่ายการแพทย์และบริการสุขภาพ
- ผู้ช่วยแพทย์
- นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล
- นักกายภาพบำบัด
- ผู้จัดการฝ่ายการเงิน
- ผู้จัดการฝ่ายไอที
- นักพัฒนาเว็บ เทคโนโลยี
- ทันตแพทย์
และนี้ก็เป็นอาชีพยอดนิยมที่มีความต้องการสูงในยุคปัจจุบัน อาจจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การพิจารณาการเลือกประกอบอาชีพของใครหลายๆคนในยุคนี้
อาชีพเสริม ที่ทำได้หลังเลิกงานมีรายได้สูง
ปัจจุบันช่องทางการหารายได้มีอยู่มากมาย สามารถทำได้หลังเลิกงาน เพราะรายได้ที่ได้รับอาจไม่เป็นแค่เสริมจากรายได้หลัก บางอาชีพอาจทำรายได้แซงหน้ารายได้หลักไปแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้ อาชีพเสริมหรือรายได้เสริมทำเงินสูง มีช่องทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย
อาชีพใดบ้างที่ต้องนำรายได้มาคำนวณยื่นภาษี
1. ขายของออนไลน์
- เป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องเสียค่าวางสินค้า เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและจำนวนมาก
- ที่สำคัญสามารถทำหลังเลิกงานได้อย่างสบาย แค่มีเพียงมือถือหรือคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตกามารถหาซื้อหามาขายได้แล้ว
สินค้าที่นิยมขาย
- เสื้อผ้า
- ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน
- เครื่องสำอาง
- สินค้ากิ๊ฟช็อป
- ขนม
2. ยูทูบเบอร์
- ใครก็สามารถเป็นยูทูบเบอร์ มีช่องของตัวเองได้ เนื่องจากทุกคนต้องมีไอดีสำหรับเข้าชมยูทูบอยู่แล้ว
- ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนจากการเป็นผู้ชม ลุกขึ้นมาทำช่องของตัวเองได้เลย โดยทำตามเงื่อนไขที่ยูทูบกำหนด ก็สามารถสร้างรายได้ได้ตลอดเวลาที่มีคลิปลงในช่อง
- พนักงานประจำอาจใช้เวลาว่างช่วงวันหยุด คิดคอนเทนต์ถ่ายคลิปแล้วลงไว้ในช่อง ปล่อยให้คลิปทำเงินให้เรื่อยๆ
3. รับงานฟรีแลนซ์
- เนื่องจากทักษะที่อาจสืบเนื่องมาจากงานประจำ อย่างเช่นงานกราฟิก งานแปลเอกสาร
- โดยรายได้เสริมนี้สามารถทำหลังจากเลิกงานหรือทำในวันหยุดได้อย่างสบาย
อาชีพเสริมที่พนักงานประจำนิยมทำ
- งานนายหน้า
- รับรีวิวสินค้า
- ออกแบบกราฟิก
- งานเขียน และแปลภาษา
4. รับเขียนบทความ
- เป็นอาชีพเสริมที่ทำได้ทุกที่ขอแค่มีคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กเพื่อใช้พิมพ์งานเขียน
- โดยเฉพาะยุคสมัยนี้ที่บทความออนไลน์มีความสำคัญกับธุรกิจทุกปะเภท
- จึงทำให้พนักงานประจำที่มีทักษะด้านการเขียน และมีความรู้รอบด้านก็มักจะรับเขียนบทความเป็นรายได้เสริมช่วงวันหยุดและช่วงมีเวลาว่าง
รูปแบบบทความ
- เขียนรีวิวสินค้า
- เขียนท่องเที่ยว
- เขียนรีวิวอาหาร
- เขียนเรื่องสุขภาพ
5. ขายอาหาร-สินค้าช่วงเย็นตามตลาดใกล้บ้าน
- อาชีพเสริมยอดฮิตตลอดกาล ต้องยกให้กับการขายอาหาร-สินค้าช่วงเช้าก่อนไปทำงาน และหลังเลิกงาน
- โดยพนักงานประจำสามารถทำอาหารมาขายช่วงเช้าตั้งแต่ 05.00 น. ได้ และหลังจากเลิกงานก็ยังสามารถขายอาหารหรือสินค้าอื่นๆ
ตัวอย่างสินค้า
- เสื้อผ้า
- สินค้าแฟชั่น
- รองเท้า
ตัวอย่างอาชีพที่ทำรายได้เสริมที่นิยมนี้ จะช่วยให้ผู้ที่ได้รับเงินเดือนน้อยมีรายได้เข้ามาช่วยในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น
ทำความรู้จักเทรนด์การทำงานใน 10 ปี ข้างหน้า
การคาดการณ์อนาคตการทำงานอีก 10 ปีข้างหน้า AI & Innovation จะแบ่งโลกการทำงานออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน
1. The Red World (Innovation Rules)
- โลกที่นวัตกรรมสร้างโอกาสใหม่ให้ทุกธุรกิจ โดยความสำเร็จจะวัดจากคนที่มีทักษะความสามารถ
- ในโลกนี้ผู้ประกอบการจะมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการการทำงาน ทำให้ประหยัดเวลาด้วยการใช้ระบบ Automation และ จ้าง Talent Outsources แทนงานประจำที่จะหลงเหลือเพียง 10%
- ทำให้อาชีพ HR กลายเป็นอาชีพที่จะหายไป
2. The Blue World (Corporate is king)
- Global Corporation จะเติบโตสูงสุด โดยทุกธุรกิจเชื่อมั่นว่าความกว้างขวาง อิทธิพล และความเป็นที่รู้จักในตลาดจะเป็นจุดสำคัญให้ธุรกิจดำเนินไปได้
- นั่นทำให้พวกเขาต่างต้องการผู้มีความสามารถในสายอาชีพ Negotiate และ Management เข้ามาดำเนินการ
- บอกเลยว่าในโลกนี้ HR มีบทบาทสำคัญมากในฐานะ Head of People and Productivity ในการมองหาคนคุณภาพมาร่วมงาน
3. The Green World (Companies Care)
- ธุรกิจโลกนี้ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกัน ความสำคัญของทรัพยากร และ การอนุรักษ์
- โดยเชื่อว่าการประสานงานที่ดีของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านมนุษยศาสตร์อย่าง HR, Management, Service และ ด้านดิจิทัลอย่าง Data Analysis, Digital Marketing, Content ล้วนต้องประสานกันให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- โดยคำนึงถึงธรรมชาติด้วย เทคโนโลยีที่นี่จะประสานเป็นหนึ่งเดียวกับการทำงานของมนุษย์
4. The Yellow World (Human Come First)
- ที่นี่จะมุ่งเน้นมนุษย์มาก่อนเทคโนโลยี พนักงานที่ทำงานจะได้รับอิสระในการทำงานที่ยืดหยุ่น จัดสรรชีวิตของตัวเองได้อย่างอิสระ
- บริษัทที่เป็นธรรมในการจ้างงานโดยมีนโยบายที่คำนึงถึงสภาพจิตใจและ Work-Life Balance ของพนักงาน แต่เทรนด์การจ้าง Outsources จะยังคงมีสูงพอๆ กับอาชีพ HR ที่มีบทบาทน้อยลง
สรุปเทรนด์การทำงานในอนาคต
- อาชีพที่เป็นที่ต้องการในอนาคตนั้น คือ Freelance – Outsources จะมีบทบาทมากขึ้น
- สวนทางกับการทำงานประจำ และ มนุษย์จะยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องการ
- เพื่อควบคุมและพัฒนาการทำงานของระบบ Automation
- โดยอาชีพที่จะได้ไปต่อ วัดจาก 3 ทักษะหลัก คือDigital Skill, Negotiate & Management Skill, Analytical Skill
เรามีประสบการณ์ด้านเว็บไซต์มายาวนาน ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี ทำให้เรารู้ว่า อะไรที่เป็นการให้ข้อมูลต่อผู้อ่าน เราจะสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางของชีวิตเราได้อย่างไร ผมจึงสร้าง halojepang.com ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้อ่านที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ได้ฟรี
การทำงานออนไลน์และมีรายได้นั้นมีจริง ยิ่งโลกปัจจุบันแล้ว มีช่องทางมากมาย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ ขอแค่ตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้