วิธีการออมเงินแบบคนยุคใหม่ แบบง่าย ๆ

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่พบปัญหาในเรื่องการเงินที่เป็นปัญหาก็คือ การเก็บเงินไม่อยู่ สาเหตุมาจากการที่ไม่รู้จักวิธีการออมเงินที่ถูกวิธี และเป็นการออมที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเราไม่มีเงินออมในเวลาที่เกิดเหตุการณ์คาดฝันเกิดขึ้นยกตัวอย่างเช่น ตกงาน เจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ

ทำให้ไม่สามารถจัดการปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะปัญหาที่ยกตัวอย่างมานั้นล้วนแล้วต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ซึ่งนั่นก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องมีการกู้ยืม เป็นหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ในบทความนี้จึงนำวิธีการออมเงินมาให้ทุกคนได้ศึกษาไปพร้อมๆกันเลยจ้า

การออมเงินคืออะไร

การออมเงินคือการเก็บเงินเข้าไปในบัญชีออมเงินเพื่อใช้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เรามีเงินสำรองในกรณีฉุกเฉิน หรือใช้ในการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต

• ​​​การออม ​เป็นการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเก็บสะสมไว้สำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อไว้ใช้ในอนาคต เผื่อเวลาฉุกเฉิน เพื่อใช้ในสิ่งที่อยากได้หรืออยากทำ
• การออมส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นต่ำ และได้รับผลตอบแทนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุน เช่น การฝากออมทรัพย์ การฝากประจำ การซื้อสลากออมทรัพย์ ​
• โดยทั่วไปควรออมเงินประมาณ 1 ใน 4 ของรายไ​ด้แต่ละเดือน อย่างไรก็ตามอัตราส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับรายได้ปัจจุบัน
• แผนทางการเงินที่วางไว้ เช่น หากเรามีแผนที่จะใช้เงินก้อนใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้ อาจจำเป็นต้องออมเงินมากกว่า 1 ใน 4
• เพื่อให้เราถึงเป้าหมายทางการเงินเร็วขึ้น แต่ถ้าเรามีรายได้น้อยและหนี้สินเยอะ ก็อาจลดการออมลง
• เพื่อนำเงินจำนวนนี้ไปทยอยผ่อนชำระหนี้สินที่มีให้หมดก่อน แล้วค่อยออมเพิ่มขึ้น

ทำไมเราต้องมีการออมเงิน

การออมเงินถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานทางการเงิน การออมเงินเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งที่ทุกคนควรจะทำเพราะเงินออมมีประโยชน์อย่างมาก แล้วทำไมการออมเงินถึงเป็นเรื่องสำคัญ เราไปดูเหตุผลกันเลยจ้า

ออมเงินไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

• หลายๆครั้ง เมื่อชีวิตไม่เป็นใจหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิตก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอบัติเหตุ ปัญหาสุขภาพ รวมไปถึงการตกงาน แบบที่เราไม่ได้วางแผนมาล่วงหน้า
• ถ้าเราไม่มีการวางแผนบริการความเสี่ยงอย่างการทำประกันไว้ ส่วนใหญ่แล้วปัญหานั้นก็จะต้องใช้เงินออมในการแก้ไขปัญหา
• แต่ถ้าเราไม่มีเงินออมมาเพื่อแก้ไขปัญหานั้น เราอาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจัดการปัญหา
• ถ้าเราใช้บริการสินเชื่อ สิ่งที่จะตามมาก็คือ “ดอกเบี้ย” ที่จะเป็นภาระรายจ่ายในอนาคตให้กับตัวเรา
• เหตุผลนึงที่คนไทยเป็นหนี้กันมาก ก็เพราะไม่มีเงินออมไว้รับรองเหตุการณ์ที่เราไม่ได้วางแผนไว้

ออมเงินไว้เผื่อรอรับโอกาสในอนาคต

• เรื่องของ โอกาสไม่ว่าจะเป็นการเจอจังหวะในการศึกษา ดาวน์ซื้อบ้าน หรือแม้แต่โอกาสในการลงทุน ไม่ว่าจะทำธุรกิจหรือว่าหุ้นที่ดี มีราคาปรับตัวลงมาก็ตาม การที่เราจะไปซื้อหรือลงทุนนั้นก็จำเป็นต้องใช้เงิน
• ถ้าเราไม่มีเงินออม โอกาสที่เราเจอก็อาจจะเป็นเหมือนกับอากาศที่ลอยผ่านไปเท่านั้นเอง แล้วเราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าโอกาสนั้นจะกลับมาหาเราอีกมั้ย หรือว่าจะมีโอกาสอื่นๆผ่านเข้ามาในชีวิตอีกหรือเปล่า
• เงินออม เป็นเรื่องพื้นฐานของเรื่องการเงิน เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถทำได้
• ถ้าเราอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเรื่องการเงินแล้ว เรื่องของเงินออมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จเลยก็ได้

วิธีการออมเงินแบบคนยุคใหม่

การจะดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคนในยุคนี้นั้นจึงต้องมีการควบคุมรายจ่ายให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาการเงินที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ การมีเงินสำรองเก็บเอาไว้นั้นจะช่วยเราได้ การออมเงินเอาไว้เพื่ออนาคตเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การออมเงินแบบคนยุคใหม่โดยมีวิธีดังนี้

1. บัญชีเงินฝากสำหรับการออม

• สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มมีบริการเปิดบัญชีเงินฝากรูปแบบใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินด้วยวิธีการฝากเงินเข้าบัญชี เพื่อรับดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ ตามที่ทางสถาบันการเงินได้กำหนดไว้
• ซึ่งวิธีนี้ถือว่าน่าสนใจ และอยากแนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มมีรายได้ หรือต้องการเก็บออมเงินอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ต้องการฝากกับบัญชีเงินฝากแบบประจำ การฝากเงินในรูปแบบนี้ก็ถือตอบโจทย์

2. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

• สำหรับวัยทำงาน การออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด และได้ผลจริง การออมเงินด้วยวิธีนี้จะเป็นการหักเงินจากเงินเดือนไปเลย โดยจะหักตั้งแต่ 2%-15% ของเงินเดือน ขึ้นอยู่กับผู้ออมและเงื่อนไขของทางบริษัทเองด้วย
•  ซึ่งข้อดีของการออมเงินวิธีนี้ก็คือช่วยสร้างวินัยในการออมเงินได้ และมีความต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เงินเพลินจนลืมออม เพราะเงินส่วนที่ออมจะถูกหักจากบัญชีออกไปโดยอัตโนมัติ

3. การลงทุนกับกองทุนและการเล่นหุ้น

• สำหรับใครที่มีเงินเก็บอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง และต้องการต่อยอดการเงินให้สูงมากขึ้น การลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ถือว่าเป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจ
• หากเลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนต่อเนื่อง ก็จะช่วยเพิ่มพูนรายได้ให้กับคุณได้
• ในขณะเดียวกัน ต้องมีการวางแผน และรับความเสี่ยงจากความผันผวนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น การลงทุนกับกองทุนรวม เป็นทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่มองหาแหล่งสะสมรายได้
• รวมถึงการเล่นหุ้น ที่เป็นการลงทุนรูปแบบที่นำเงินไปใช้ในการบริหารธุรกิจ โดยผู้ถือหุ้นจะมีสถานะเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ๆ และมีส่วนได้ส่วนเสียจากผลประกอบการของธุรกิจนั้น ๆ หากธุรกิจได้รับผลกำไร ผู้ถือหุ้นก็จะได้รับผลกำไรด้วย

4. ประกันสะสมทรัพย์

• การออมเงินผ่านประกันสะสมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ค่อนข้างคุ้มค่า หากคุณกำลังมองหาแหล่งออมเงินที่มอบผลประโยชน์อื่น ๆ ให้คุณด้วย การรับความคุ้มครองจากประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
• นอกจากจะได้รับเงินคืนหลังครบกำหนดสัญญากรมธรรม์แล้ว คุณจะได้รับความคุ้มครองชีวิต ในวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย
• ใครที่กำลังวางแผนออมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในวัยเกษียณ พร้อมรับวงเงินคุ้มครองเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางเงินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

วิธีการออมเงินแบบคนยุคใหม่ แบบง่าย ๆ 10 วิธี

การออมเงินของคนยุคใหม่ด้วย 10 วิธีเก็บเงินง่ายๆ ที่คุณสามารถเลือกไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรายรับของตัวเองได้ มีดังนี้

วิธีที่ 1 กันเงินเดือน 10% เก็บไว้ก่อนใช้จ่าย

• แบ่งเงินออมไว้ 10% จากเงินเดือน สมมติว่าได้เงินเดือน 30,000 บาท ให้แบ่งออมไว้ก่อนเลย 3,000 บาท
• เมื่อครบปีเท่ากับว่าจะออมเงินได้ถึง 36,000 บาท หากใครที่รายจ่ายรัดตัวจริงๆ อาจเริ่มออมเดือนละ 5% ก่อนก็ได้

วิธีที่ 2 เก็บเงินตามลำดับวันใน 1 ปี

• เก็บเงินโดยไล่ตามลำดับวันใน 1 ปีไป เช่น วันที่ 29 เก็บ 29 บาท วันที่ 351 เก็บ 351 บาท
• ซึ่งหากเก็บได้ครบทุกวันจะมีเงินเก็บถึง 66,795 บาทเลย
• ข้อดี: ช่วงแรกๆ เก็บจำนวนเงินน้อย ทำให้มีแรงจูงใจในการเก็บเงิน นอกจากนี้เมื่อรู้ว่าวันต่อๆ ไปต้องเก็บเงินจำนวนเท่าไหร่ก็มีเวลาเตรียมตัวอีกด้วย
• ข้อเสีย: ช่วงเดือนท้ายๆ ต้องเก็บเงินเยอะ อาจเก็บต่อเนื่องยาก และไม่เหมาะกับคนที่รายได้ยังไม่มา

วิธีที่ 3 เก็บเงินใส่กระปุกที่เปิดยาก

• สำหรับคนที่ชอบหยิบเงินเก็บมาใช้ ลองมองหาภาชนะเป็นกระปุกที่เปิดยากๆ โดยเลือกกระปุกขนาดใหญ่ เพื่อสามารถหยอดทั้งเหรียญและธนบัตรได้ทั้งปี
•  หากมีเด็กๆ ที่บ้าน นี่ก็เป็นวิธีออมเงินสุดคลาสสิกที่ยังใช้ได้ดีเลยทีเดียว
• ข้อดี: สามารถบังคับตัวเองไม่ให้หยิบเงินเก็บมาใช้ได้ดีขึ้น
• ข้อเสีย: ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินจะต้องทุบกระปุกเท่านั้น

วิธีที่ 4 เก็บเงินจากส่วนต่างของส่วนลด

• เก็บเงินจากส่วนต่างของราคาเต็มและส่วนลดเวลาซื้อของมาเป็นเงินออม เช่น ค่ากับข้าวเดือนนี้  3000 บาท แต่ใช้ไปแค่ 2500 บาท จะเก็บออมได้ 500 บาท เป็นต้น
• ข้อดี: ทำให้มองหาส่วนลดต่างๆ ก่อนใช้จ่ายมากขึ้น ประหยัดเงินในกระเป๋าและได้ออมเงิน
• ข้อเสีย: อาจเก็บได้น้อยและได้จำนวนเงินไม่แน่นอน ควรใช้เป็นวิธีเสริมมากกว่าใช้เป็นวิธีเก็บเงินหลัก

วิธีที่ 5 เก็บเงินจากแบงก์ 50 ให้ครบปี

• เก็บธนบัตรฉบับละ 50 บาททุกใบที่ได้รับ แนะนำว่าให้เก็บสะสมไว้จนครบปีแล้วค่อยนับ จะรู้สึกตื่นเต้นกับการเก็บเงินมากขึ้น
• บางคนแค่เก็บสะสมแบงก์ 50 บาท ก็ได้เงินเก็บร่วมหมื่นเลยทีเดียว
• ข้อดี: เป็นวิธีการเก็บเงินที่ให้ความรู้สึกเหมือนทำภารกิจในเกม ไม่รู้สึกถูกบังคับ และได้เงินออมจากแบงก์ 50 จำนวนหนึ่งแน่นอน
• ข้อเสีย: บางวันที่ได้จำนวนแบงก์ 50 หลายใบอาจเบียดเบียนค่าใช้จ่าย สุดท้ายต้องใช้แบงก์ 50 ในที่สุด ทำให้เก็บได้น้อยลง

วิธีที่ 6 เก็บเงินตามตารางออมเงิน

• ทำตารางออมเงิน โดยวางเป้าหมายไว้ เช่น อยากเก็บเงินให้ได้ 5,000 บาท ภายใน 60 วัน ก็สร้างตารางขึ้นมาแล้วกำหนดว่าแต่ละวันใน 60 วันนี้ ต้องเก็บเงินวันละเท่าไร จึงจะได้ 5,000 บาท
• ข้อดี: ได้วางแผนการเก็บเงินล่วงหน้าให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เหมาะกับคนที่มีรายได้รายวัน
• ข้อเสีย: หากไม่มีเป้าหมายการเก็บเงินที่ชัดเจน ก็อาจทำให้ท้อหรือขี้เกียจได้ง่าย

วิธีที่ 7 เก็บเงินแบบตั้งเงื่อนไข

• สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีแรงจูงใจ ก็ต้องลองใช้วิธีการเก็บเงินแบบฮาร์ดคอร์สักหน่อย โดยลองตั้งเงื่อนไขกับตัวเองดู เช่น ตื่นสาย 10 นาทีเก็บเงิน 150 บาท น้ำหนักขึ้น 1 กิโลกรัม เก็บเงิน 1,500 บาท เป็นต้น
• ข้อดี สร้างแรงจูงใจให้เก็บเงินและเปลี่ยนพฤติกรรมที่ตัวเองอยากเปลี่ยน
• ข้อเสีย อาจจะเกิดการโกงตัวเองได้ หรือรู้สึกกดดันเกินไป ทำให้การเก็บเงินไม่สนุก

วิธีที่ 8 เก็บเงินตามเลขท้ายสามตัว

• วิธีเก็บเงินแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นและชอบลุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาล ลองเก็บเงินจากเลขท้ายสามตัวที่ออกรางวัล สร้างสีสันให้การเก็บเงินสนุกขึ้น
• ข้อดี: ทำให้การเก็บเงินสนุกมากขึ้น และน่าจะเก็บได้หลักพันต่อเดือน
• ข้อเสีย: จำนวนเงินเก็บไม่แน่นอน

วิธีที่ 9 แข่งเก็บเงินกับคนในครอบครัว

• ลองชวนพ่อแม่พี่น้อง ลูกๆ หลานๆ มาแข่งกันออมเงินชิงรางวัลกันดูสิ เป็นอีกวิธีการเก็บเงินที่น่าสนุก ได้สานสัมพันธ์ แถมมีเงินออมกันทั้งครอบครัวอีกด้วย
• ข้อดี: เปลี่ยนการเก็บเงินให้สนุกมากขึ้น และได้ช่วยกันเก็บเงินทั้งครอบครัว
• ข้อเสีย: คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่อาจจะไม่ค่อยได้เก็บเงิน เพราะต้องเอาไปให้รางวัลเด็กๆ แทน

วิธีที่ 10 เก็บเงินด้วยการเปิดบัญชีฝากประจำ

• การเปิดบัญชีฝากประจำเป็นวิธีออมเงินที่บังคับให้ตัวเองมีวินัยเก็บเงินทุกเดือน เหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำ
• ข้อดี: ได้เงินก้อน พร้อมดอกเบี้ยเป็นของแถม สามารถฝากโดยตัดบัญชีอัตโนมัติได้เลย
• ข้อเสีย: ไม่สามารถนำเงินฝากออกมาใช้ก่อนกำหนด ต้องปิดบัญชีเท่านั้น

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วิธีเก็บเงินแบบไหน สิ่งสำคัญของการออมเงินคือ ต้องตั้งเป้าหมายที่ไม่หักโหมเกินไป และมีวินัยต่อตนเอง ไม่ว่าจะเก็บเงินด้วยวิธีไหนก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

วิธีการออมเงินแบบจริงจัง

การออมเงินแบบจริงจัง เป็นการออมเงินที่จะช่วยให้เราได้เตรียมความพร้อมในการเตรียมเงินสำรองในกรณีฉุกเฉิน และใช้ในการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต การออมเงินแบบจริงจัง ควรจะเริ่มจากการวางแผนการเงิน คือการตั้งเป้าหมายในการออมเงิน และการจัดการค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม จากนั้นให้คำนวณรายได้และค่าใช้จ่าย และตั้งเป้าหมายในการออมเงินให้เหมาะสม

ให้เงินรายวันตัวเอง

• การจำกัดรายจ่ายของตัวเองจะช่วยให้การใช้จ่ายในแต่ละวันลดน้อยลง
• โดยต้องมีการวางแผนตั้งแต่เงินเดือนออก แล้วตัดแบ่งส่วนที่ต้องการออมเก็บไว้ เงินที่เหลือจึงมาถัวเฉลี่ยสำหรับใช้จ่ายในแต่ละวัน

เปิดบัญชีฝากประจำ

• การเปิดบัญชีฝากประจำเป็นการเปิดบัญชีแบบถอนไม่ได้
• ผู้เปิดจะต้องฝากเงินให้ครบตามที่กำหนด อาจมีการให้ธนาคารดึงเงินจากเงินเดือนเก็บเข้าบัญชีฝากประจำได้เลย รวมไปถึงการลงทุนในกองทุนรวมด้วย

เก็บจากเศษเงินเดือน

• เงินเดือนในแต่ละเดือนมักจะมีเศษเงินที่ไม่ลงตัวหลังจากหักค่าสมทบประกันสังคมแล้ว
•  เงินส่วนที่เป็นเศษนั้นให้เก็บไว้ และใช้เฉพาะยอดที่เป็นจำนวนเต็ม

บันทึกรายรับ-รายจ่าย

• การจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นประจำจะช่วยให้เห็นเงินที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน
•  กระตุ้นให้เกิดการออมเมื่อเห็นยอดใช้จ่าย และช่วยในการตัดยอดซื้อที่ไม่จำเป็นออกไปได้

ใส่กระปุกที่เปิดไม่ได้

• กระปุกออมสินเป็นตัวช่วยสำคัญในการออม และกระปุกแบบที่ไม่มีช่องสำหรับเอาเงินออกมา
•  ต้องทุบกระปุกทิ้งเท่านั้นก็เป็นสิ่งที่ช่วยบังคับให้การออมบรรลุผล

งดอาหารหรือสินค้าฟุ่มเฟือยประจำวัน

• การออมที่ดีจะต้องเริ่มต้นด้วยการมีเงินเหลือออม การจะทำให้มีเงินเหลือจึงจำเป็นต้องตัดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป
•  มีการลดค่าใช้จ่ายบางส่วน โดยมากมักลดอาหารทานเล่น เช่น ลดกาแฟเหลือเพียงวันละแก้ว หรืองดขนมขบเคี้ยวหลังพักเที่ยง

เผื่อเวลาตัดสินใจก่อนซื้อของ

• ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้ามูลค่าสูงสักชิ้น ควรต้องให้เวลาในการทบทวนเสียก่อน เมื่อแน่ใจว่าอยากได้จริง ๆ จึงค่อยซื้อ
• รวมถึงมองหาโปรโมชั่นทั้งของทางร้าน โปรโมชั่นบัตรเครดิต และโปรโมชั่นบัตรสมาชิกต่าง ๆ เพื่อให้การใช้จ่ายถูกลง ไม่เบียดบังเงินออม

เก็บเฉพาะแบงก์หรือเหรียญที่กำหนด

• วิธีที่ได้รับความนิยมมาก คือ การงดใช้แบงก์หรือเหรียญบางชนิด
• ยกตัวอย่างเช่น บางคนไม่ใช้แบงก์ 50 บาท เมื่อได้รับแบงก์ 50 บาทมา จะต้องเก็บเท่านั้น หรือบางคนอาจจะเลือกเก็บเหรียญ 10 บาทแทนก็ได้

สะสมเงินทุกวันตามวันที่

• การเก็บเงินโดยเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการเก็บเงินตั้งแต่ต้นเดือน
• นับวันที่ 1 แล้วเก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท จนถึงวันสุดท้ายเก็บ 28, 29, 30 หรือ 31 บาท แล้วแต่วันที่สุดท้ายของเดือน

กำหนดเงินเก็บตามเหตุการณ์

• วิธีนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีแรงบันดาลใจในบางอย่าง
• ยกตัวอย่างเช่น ชื่นชอบศิลปินหรือดารา จึงมีการกำหนดเงินเก็บอิงตามการปรากฏตัวตามสื่อต่าง ๆ เช่น ออกงานใหญ่ เก็บ 100 บาท โพสต์ลงบนสังคมออนไลน์ เก็บ 150 บาท

วิธีการออมเงินเก็บเงินได้เร็ว

การออมเงินเก็บเงินได้เร็ว จะได้รับผลตอบแทนเร็วขึ้น แต่อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าการออมเงินที่เป็นแบบปกติหนึ่งในวิธีการออมเงินเก็บเงินได้เร็วก็อาจจะทำให้เรานำไปใช้ได้เร็วขึ้น เรามีวิธีการออมเงินเก็บเงินได้เร็วมาบอกกันทำตามวิธีดังนี้

ไม่ใช้แบงค์ 50

• วิธีที่หลายๆ คนเลือกจะทำกัน ไม่เว้นแม้แต่ในเว็บไซต์ดัง Pantip.com ก็มีคนแชร์วิธีนี้มาแล้ว
• การเก็บแบงค์ฟ้า หรือ แบงค์ 50 ที่ไม่ค่อยพบ ในเมื่อหาเจอยาก ก็จัดการเก็บเข้ากระปุกแบบไม่ดึงมาใช้เลยดีกว่า
• เป็นอีกหนึ่งหนทางการออมที่มีการการันตีแล้วว่าได้ผลมานักต่อนัก บางรายเก็บไปปีๆ หนึ่งได้เป็นหลักหมื่นเลยด้วย

จำกัดการถอนเงินของตัวเอง

• จำกัดการถอนเงินของตัวเองนั่นเอง ใช้วิธีถอนเงินมาก้อนเดียวหรือสองก้อนเก็บไว้ที่บ้าน แล้วดึงมาใช้รายวันจะสามารถเก็บเงินได้ง่ายกว่า
• แต่ไม่ใช่ว่าถอนมาทีเดียวหมดบัญชีนะ แค่คิดก่อนว่าเราใช้เงินปกติวันละไม่เกินเท่าไหร่ แล้วจัดแจงคูณตามวันที่มาทำงานเลย
• ส่วนการถอนครั้งต่อไปก็เก็บไว้ให้เหตุฉุกเฉินที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น

ตั้งเป้าแล้วแปะบนกระปุก

• ทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่เราเก็บเงินแทบไม่อยู่จะทำง่ายๆ แค่เขียนใส่กระดาษแล้วแปะข้างกระปุก ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน
• อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดใช้เงินเท่าไหร่ กลับบ้านวันหยุดยาวเอาเงินไปฝากพ่อฝากแม่ เลี้ยงดูลูกหลานใช้เงินเท่าไหร่ เขียนแปะไว้เลย
• นอกจากมันจะเป็นแรงจูงใจแล้ว บางครั้งเรื่องเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้เราเก็บเงินด้วย
• ซึ่งวิธีแปะกระปุกนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้กระปุกเดียวในการเก็บออม ใช้หลายกระปุกก็ได้ แล้วหยอดตามความสำคัญที่เราเห็นควร

ใช้กระติกน้ำ

•  การพกกระติกน้ำไปทำงานเป็นหนึ่งในวิธีการประหยัดเงินที่ได้ผลสุดๆ
• เมื่อเราหิวน้ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำขวดใหม่ คว้ากระติกตัวเองมาได้เลย นอกจากจะประหยัดเงินแล้วยังดีต่อทรัพยากรโลกอีกต่างหาก

ใช้เท่าไหร่ เก็บเท่านั้น

• จะทำอย่างไร สมมติว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากการกินอยู่ และการตั้งเป้าหมายไว้ เช่นวันนี้เราอยากซื้อหนังสือใหม่ซักเล่ม เลยซื้อหนังสือราคา 120 บาทไป หยอดกระปุกเพิ่มไปเลย 120 บาท
• เราเห็นของลดราคา เสื้อยืดตัวละ 199 ขายเหมาสามตัว 500 บาท เลยหยิบมาหยอดกระปุกไปอีกครั้ง 500 บาท
• มันทำให้เราหลีกเลี่ยงการใช้เงินอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการใช้จ่ายตามเป้าหมาย รวมไปถึงเพิ่มเงินออมโดยรวมได้เร็วขึ้น
• หากเราซื้ออะไรตามความอยากของตัวเองบ่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มวินัยทางการเงินอย่างดีเข้าไปอีก ซื้อเท่าไร ทบเงินเก็บไปเท่านั้น

วิธีเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน

เพียงแค่ต้องรู้เทคนิคการออมเงินและนำมาปรับใช้กับตนเองให้เป็นนิสัย ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน บอกการเก็บออมเงินนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด ทำให้สามารถวางแผนเรื่องเงินได้ชัดเจน เรามาดูวิธีพร้อมๆกันเลย

1. แบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจน

• สูตรการออมเงิน ข้อแรกก็คือการแบ่งสัดส่วนของเงินตั้งแต่ที่ได้เงินมา ข้อดีของเทคนิคการแบ่งสัดส่วนของเงินให้ชัดเจนนั้นคือช่วยให้เราสามารถบริหารเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
• เพราะเรารู้ว่าเงินที่มีนั้นจะต้องนำไปใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง และมีส่วนใดที่เหลือเก็บ หลาย ๆ คนใช้เทคนิคการออมเงินแบบนี้ในการเริ่มเก็บเงินง่าย ๆ และได้ผลมาแล้ว
• สูตรแบ่งสัดส่วนที่ถูกนิยมใช้กันคือ 50-30-20
• ซึ่งจะแบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายประจำวัน-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว – เงินสำหรับเก็บออม
• เมื่อแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนแบบนี้แล้วก็จะทำให้เรามองเห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่าในแต่ละเดือนนั้นเรามีเงินสำหรับใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ เท่าไหร่บ้าง

2. ช้อปเท่าไหร่ ออมเท่านั้น

• สิ่งที่ทำให้การออมเงินไม่สำเร็จของมนุษย์เงินเดือนก็คือการช้อปปิ้ง พอเงินเดือนออกก็อยากจะพุ่งตัวไปซื้อของที่เล็งไว้ทันที จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเก็บเงินไม่อยู่สักที
• ดังนั้นใช้จ่ายตามใจสายช้อปจะต้องลองวิธีออมเงินแบบสายแข็ง แต่ทำได้จริง ๆอย่างการเก็บเงินให้เท่ากับที่จ่ายออกไป
• ยกตัวอย่างเช่น หากซื้อรองเท้าคู่ละ 1,200 บาท ก็ต้องหักเงินไปไว้ในบัญชีเงินออมทันที 1,200 เช่นกัน วิธีเก็บเงินวิธีนี้ นอกจากจะช่วยทำให้เก็บเงินได้จริง ๆ แล้ว ยังจะทำให้เราได้คิดแล้วคิดอีกเกี่ยวกับของที่ต้องการซื้อ ว่าเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ หรือไม่
• ซึ่งการใช้เทคนิคการออมเงินแบบนี้ อาจจะทำให้มีเงินเก็บมากกว่าที่หวังไว้ก็ได้ เพราะจะซื้ออะไรก็คิดและทบทวนจนไม่ได้ซื้อ

3. ศึกษาการลงทุนต่าง ๆ

• ลงทุนนั้นไม่ยากอย่างที่คิด สำหรับการเริ่มเก็บเงินง่าย ๆ และเริ่มลงทุนแบบไม่ยุ่งยาก
• อาจจะลองเริ่มจากการลงทุนใน “กองทุนรวม” ก่อน เช่น กองทุนประเภท SFF/RMF ซึ่งเป็นกองทุนที่ถือระยะยาว แถมยังนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
• การลงทุนเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสูตรออมเงิน อย่าลืมว่าทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ทางที่ดีควรทำการศึกษาหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์ก่อนเพื่อความชัวร์ในการลงทุนแต่ละครั้งด้วย

4. หาตัวช่วยดี ๆ ในการจัดการเงิน

• การออมเงินด้วยการมองหาตัวช่วยดี ๆ อย่างการทำรายรับรายจ่าย ที่ในปัจจุบันนั้นมีแอปพลิเคชันรายรับรายจ่ายให้ดาวน์โหลดมาใช้กันแบบฟรี ๆ หลากหลายแอป
• ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และวางแผนการใช้เงินของเราได้ว่ามีรายจ่ายส่วนใดบ้างที่ควรจะต้องลดลง หรือสามารถตัดทอนให้น้อยลงได้ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายและเก็บออมมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการออมเงิน

อย่างที่ทุกคนทราบว่าการออมเงินนั้นเป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตในประจำวันอยู่แล้ว แต่การออมเงินนั้นเกิดประโยชน์อะไรบ้างเราไปดูพร้อมๆกันเลย

สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต

• ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้ การออมเงินจึงเป็นหนทางที่ช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตได้เป็นอย่างดี
• มีส่วนช่วยในการสร้างเงินก้อนเพื่อรองรับความเสี่ยงในชีวิต ลองคิดดูว่า ถ้าไม่มีเงินออม คุณจะเอาตัวรอดเมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเงินได้อย่างไร
•  ถ้าคุณต้องเกษียณอายุหรือตกงานแบบกะทันหันจะยังมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายได้เพียงพอไหม หากไม่มีการวางแผนออมเงินมาอย่างต่อเนื่อง

ชีวิตปลอดหนี้

• การออมช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการชำระหนี้ต่างๆ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ ได้สบายและไม่กระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากนัก
• โดยเฉพาะถ้าคุณมีการออมเงินล่วงหน้าก่อนการจ่ายเงินก้อนใหญ่ รวมถึงจัดสรรปันส่วนการออมเงินก้อนผสานไปกับการจัดการรายรับรายจ่ายอย่างพอเหมาะในแต่ละวัน ก็จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่ปลอดหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

เกษียณอายุได้ก่อนกำหนด

• แผนการออมระยะยาวส่วนใหญ่มักมีเป้าหมายเพื่อชีวิตหลังเกษียณที่มีคุณภาพและปราศจากความเครียดด้านการเงิน
• ซึ่งคนที่รู้จักวางแผนออมเงินแต่เนิ่นๆ จะมีโอกาสตัดสินใจเกษียณอายุก่อนกำหนดได้เร็วกว่าคนที่เริ่มออมเงินช้า

มีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง

• การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น การสร้างวินัยออมเงินอย่างต่อเนื่องก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้นได้
•  นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันปัญหาหนี้สินจากการใช้จ่ายเงินเกินตัว เป็นภูมิคุ้มกันต่อต้านสิ่งล่อใจที่มีราคาแพงและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งช่วยลดความเครียดจากภาระผูกพันทางการเงินอีกด้วย

แนวทางการออมเงินให้งอกเงย

การออมเงินให้ง่าย คือการออมเงินโดยให้ความสะดวกแก่ตนเอง โดยการจัดการค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม และตั้งเป้าหมายออมเงินให้เหมาะสม วิธีที่จะทำให้การออมเงินง่ายขึ้น คือ

ออมในบัญชีเงินฝากประจำ

• ลองจัดสรรเงินออมบางส่วนมาไว้ในบัญชีเงินฝากประจำแทนที่จะเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปที่ให้ดอกเบี้ยน้อย
• โดยบัญชีเงินฝากประจำมีทั้งแบบบัญชีฝากประจำทั่วไปและเงินฝากประจำปลอดภาษี
• ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางของการออมอย่างสม่ำเสมอและให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้มีเงินออมที่ไม่จำเป็นต้องนำออกมาใช้ภายในระยะเวลาตามเงื่อนไขและผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้ต่ำ

ออมในกรมธรรม์ประกัน

• การทำประกันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยบังคับให้เราต้องออมเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อจ่ายค่าเบี้ย มีให้เลือกทั้งประกันแบบออมทรัพย์ ประกันแบบบำนาญ หรือประกันชีวิต
• โดยผลตอบแทน เช่น เงินต้นรวมดอกเบี้ย หรือความคุ้มครองที่ได้รับก็จะแตกต่างกันไปตามกรมธรรม์แต่ละประเภท นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้อีกด้วย

ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

• เป็นการจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนทุกเดือน โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นกองทุนสำหรับพนักงานบริษัทเอกชนและขึ้นอยู่กับความสมัครใจ
• ส่วนกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นข้อบังคับที่ข้าราชการทุกคนต้องเข้าร่วม
• ส่วนใหญ่จะตัดออกจากเงินเดือนอัตโนมัติ และจะได้รับเงินคืนจากกองทุนเมื่อเกษียณอายุหรือลาออกจากงาน
• โดยจะได้รับผลตอบแทนทั้งเงินสะสมรายเดือนของลูกจ้าง เงินสมทบที่นายจ้างจ่ายให้ทุกเดือน รวมทั้งมูลค่าของหน่วยลงทุนที่สูงขึ้นจากการบริหารกองทุน นอกจากนี้ ยังนำไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ออมในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ

• เหมาะสำหรับคนทำงานอิสระที่ต้องการวางแผนทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมก่อนถึงวัยเกษียณ รวมทั้งพนักงานบริษัทเอกชนและข้าราชการที่ต้องการเพิ่มช่องทางต่อยอดเงินออมและได้รับประโยชน์จากการขอเงินคืนภาษี
• โดยเงินที่ได้รับคืนจากการไถ่ถอนจะคำนวณจากส่วนต่างราคาของหน่วยลงทุน ณ เวลาไถ่ถอนกับราคาซื้อเฉลี่ยตลอดการลงทุนและจะได้รับยกเว้นภาษีทั้งหมด

ออมด้วยการลงทุนแบบ DCA

• DCA (Dollar Cost Average) คือ การลงทุนโดยแบ่งซื้อสินทรัพย์ เช่น กองทุนรวมหรือหุ้นด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
• เพื่อถัวเฉลี่ยราคาต้นทุน ลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุน จึงช่วยเพิ่มโอกาสการได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

การจัดการเงินได้ เขาทำกันอย่างไร

การจัดการเงินได้ เป็นการใช้เงินให้เหมาะสม โดยการจัดการค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม และตั้งเป้าหมายการเงินให้เหมาะสม การบริหารจัดการเงินเป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยวิธีการออมเงินง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

ออมก่อนใช้

• คนเราส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเงินออมมาจากเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายทั้งเดือนแล้ว แต่วิธีที่ถูกต้องหากเราต้องการสร้างเงินออม
• จัดการเงินออมให้เหมาะสม คือ เมื่อเราได้เงินเดือน ให้แบ่งเงินส่วนที่จะออมเอาไว้ก่อนแล้วฝากธนาคารทันที ส่วนเงินที่เหลือค่อยนำมาใช้จ่ายให้พอเพียงในเดือนนั้น
• วิธีการง่าย ๆ เราสามารถเปิดบัญชีฝากประจำกับธนาคารที่เราใช้บริการอยู่ แล้วแจ้งความจำนงว่าเราต้องการให้มีการตัดยอดจากบัญชีเงินเดือนของเรา เป็นจำนวนตามที่เรากำหนด นำเข้าฝากบัญชีฝากประจำที่เราเปิดไว้โดยอัตโนมัติ

จัดสรรเงินออม

• เราจะต้องทำการจัดสรรเงินออมให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเราสามารถแบ่งเงินออมออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ เงินเพื่อใช้จ่าย เงินเผื่อฉุกเฉิน และเงินเพื่อลงทุน
• เงินเพื่อใช้จ่าย จะเป็นเงินกองที่มีไว้เพื่อช่วยสร้างสภาพคล่องทางการเงินให้กับชีวิตประจำวันของเรา เงินส่วนนี้เราจะสามารถนำมาใช้สำหรับการผ่อนจ่ายหนี้บัตรเครดิต ชำระค่าใช้จ่ายประจำเดือนต่าง ๆ
• เงินออมเผื่อฉุกเฉิน จะต้องเป็นเงินที่เราเข้าถึงได้ เพื่อที่จะสามารถนำออกมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีมีปัญหาด้านการงาน เกิดอุบัติเหตุทำให้ไปทำงานไม่ได้ เกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง ทำให้เราไม่สามารถไปทำงานได้และเสียรายได้ประจำ
• เงินออมเพื่อการลงทุน เป็นเงินกองที่เราจะสามารถนำมาต่อยอดความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นเงินที่เราสามารถนำไปใช้สำหรับการลงทุนระยะยาวได้ โดยเราจะต้องไม่ไปยุ่งกับเงินส่วนนี้จนกว่าจะถึงกำหนดปันผล

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย 

• สิ่งสำคัญในการออมเงิน จัดการเงินอีกอย่าง คือ การที่เราสามารถรู้ได้ว่าเงินเข้า-เงินออกมีอะไรยังไง ค่าอะไร และเท่าไหร่บ้าง
• การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย คือ เพียงแค่ซื้อสมุดเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งมาพกเอาไว้กับตัว ไม่ว่าจะซื้ออะไรไป ก็ให้จดเอาไว้ให้หมด
• เพื่อที่เราจะได้นำมาคำนวณได้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง จำเป็น-ไม่จำเป็นแค่ไหน อย่างไรนั่นเอง
• ข้อดีของการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เนื่องจากเราจะสามารถเห็นได้เป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนว่าเราใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับอะไรบ้าง เท่าไหร่ และหากเราฝืนใจไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยเหล่านี้ เราจะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปออมแทนได้เท่าไหร่บ้างนั้นเอง

การวางแผนการใช้เงินรายวัน

• หากเราต้องการจัดการเงิน และออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อีกวิธีที่เราสามารถนำมาใช้ได้ คือ การวางแผนการใช้จ่ายรายวันในแต่ละเดือน เมื่อเราได้เงินเดือนมา ให้เราหักเงินออม และค่าใช้จ่ายประจำเดือนออก
• ส่วนเงินที่เหลือก็คือ เงินส่วนที่เราเก็บเอาไว้ใช้รายวันนั่นเอง

สรุป

• การออมเงินมีประโยชน์และความสำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นและพื้นฐานสำคัญในการสร้างมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต
• การออมเงินเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่พอที่จะสร้างความมั่งคั่งและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคุณได้ในระยะยาว
• ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่ช่วยให้เงินออมของคุณเติบโตได้ ส่วนจะเห็นผลช้าเร็วหรือได้รับผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• ยิ่งคุณเริ่มต้นลงทุนต่อยอดได้เร็วเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เงินออมของคุณสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นเท่านั้น